‘ผอ.พุทธมณฑล’ รับ ดินถมต้นไม้สูงจริง สั่งยุติ เร่งปรับพื้นที่ใหม่-ปลูกทดแทน

ผอ.สำนักงานพุทธมณฑล แจง ขอประสาน กทม. นำดินโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำทวีวัฒนา มาถมพื้นที่พุทธมณฑล หวังแก้น้ำท่วม แต่รับขาดการประสานงานใกล้ชิด เร่งแก้ไข ปรับหน้าดินใหม่ เตรียมปลูกต้นไม้ใหม่ทดแทน

ตามที่ The Active ติดตามกรณีข้อร้องเรียนจาก รสนา โตสิตระกูล ประธานอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาผู้บริโภค หลังพบว่า เอกชนนำดินมาถมในพื้นที่พุทธมณฑล จนกระทบต่อต้นไม้ที่ปลูกภายในพื้นที่

ล่าสุด วันนี้ (18 มิ.ย. 68) ธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล ชี้แจงกับ The Active ว่า จากภาพต้นไม้ที่ถูกดินถมสูงที่ รสนา โตสิตระกูล ตั้งคำถามนั้น จากการตรวจสอบและลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่รอบนอกของพุทธมณฑล แต่อยู่ในพื้นที่ 2,500 ไร่ ติดกับถนนสาย ค ซึ่งถัดไปก็จะเป็นโรงพยาบาลราชกัญญา เป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำ และเคยเกิดน้ำท่วม โดยทาง สำนักงานพุทธมณฑลได้คิดหาวิธีทางแก้ไข หากจะไปซื้อดินมาถมก็จะมีราคาแพง เพราะเนื้อที่ค่อนข้างมาก ประกอบกับทราบว่า มีโครงการของกรุงเทพมหานคร ขุดคลองทวีวัฒนา ตามโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำทวีวัฒนา บริเวณคอขวด จึงทำหนังสือประสานขอดินไปยังผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 65 ต่อมาสำนักการระบายน้ำได้ว่าจ้างบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นผู้รับเหมาของโครงการดังกล่าว คือ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่รับว่าจ้างมาอีกที เป็นผู้สำรวจพื้นที่ที่ส่วนราชการขอใช้ และจากที่ตรวจสอบพบว่า มีหลายหน่วยงาน ไม่ใช่แค่สำนักงานพุทธมณฑล 

ธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล ลงพื้นที่ติดตามการถมดินที่ถูกร้องเรียน

“มีเป็น 10 หน่วยงาน ไม่ใช่แค่สำนักงานพุทธมณฑลที่เดียว เขาก็ทำการสำรวจว่าจะต้องนำดินไปถมที่ไหนบ้าง หลังจากนั้นก็มีการแจ้งหนังสือมาว่าจะเริ่มโครงการในปี 2567 คือ นำดินมาถมตั้งแต่ปี 2567”

ธานี พิกุลทอง

ยอมรับถมดินสูงเกินไป ขอยุติรับดิน พร้อมแก้ไข 

ผอ.สำนักงานพุทธมณฑล ยอมรับว่า ในระหว่างที่นำมาถม โดยส่วนตัวเพิ่งมารับตำแหน่งไม่ทราบรายละเอียดมาก จากการถูกร้องเรียนครั้งนี้ ได้ไปลงพื้นที่ร่วมกับบริษัทผู้รับว่าจ้าง ที่นำดินมาจากโครงการอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนา เมื่อไปดูแล้วยอมรับว่าถมสูงจริง สูงกว่าระดับถนน และสูงจากโคนต้นถึง 2 เมตร ซึ่งได้มีการพูดคุยกับทางบริษัท เชื่อว่า ปัญหาอาจจะมาจากการขาดการสื่อสาร ขาดการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด

“การถมสูงแบบนี้เขาก็ยอมรับ ว่าก็มีต้นไม้ตายจริง แต่บางต้นก็ตายก่อนที่จะนำดินมาถม และตายระหว่างที่นำดินมาถมก็มี เขาก็ยอมรับ และที่ไม่ตายก็ยังมี ยังไม่ได้ตายทั้งหมด”

ธานี พิกุลทอง

ธานี ยืนยันเห็นปัญหาตรงกัน และได้หารือเกี่ยวกับทางออก จึงได้แจ้งให้ทางบริษัทนำดินออกให้หมด หรือให้เตี้ยที่สุดจากโคน และปรับพื้นที่ให้ใหม่ พร้อมแหวกดินที่อยู่ติดกับโคนต้นไม้ ยกร่องให้ใหม่ทั้งหมด ให้มีทางระบายน้ำ เพื่อให้ต้นไม้ไม่ตาย ปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ และขอให้ยุติการนำดินมาถมในพื้นที่พุทธมณฑล จากเดิมที่ตกลงไว้ว่าจะถมโดยรอบ

“แต่ต้องบอกว่าเขาไม่ผิด เพราะว่าเราเป็นคนขอดินไปเอง เพียงแต่ขาดการบริหารอย่างใกล้ชิด จึงทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น”

ธานี พิกุลทอง

ผอ.สำนักงานพุทธมณฑล ทิ้งท้ายว่า สำนักงานพุทธมณฑลมีหน่วยงานฝ่ายอุทยานที่ดูแลต้นไม้โดยเฉพาะ แต่ยอมรับว่า กำลังคนมีน้อย แทบจะไม่เพียงพอ ดูแลพื้นที่ 2,500 ไร่ ที่ดูแลจริงมีไม่ถึง 10 คน จึงถือเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่ง

“ถือว่าเรื่องนี้เป็นบทเรียน จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก การทำงานต้องใกล้ชิด และตอนนี้ได้มีการตกลงกันแล้วว่าทางหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง จะทำกิจกรรมจิตอาสาปลูกต้นไม้ทดแทนต้นไม้ที่ตายไปและปลูกเพิ่ม”

ธานี พิกุลทอง

สำหรับเอกสารคำชี้แจงจาก ผอ.สำนักงานพุทธมณฑล มีดังนี้

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active