ย้ำ “ฆ่าต้นไม้โดยเจตนา” ถามกลับ ทำไม ? ตกลงถมดินไว้ 50 ซม. แต่ถมจริงสูงถึง 2 เมตร จี้ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ปฏิรูปการบริหารงานพุทธมณฑล ด้าน ผอ.พุทธมณฑล รับ หยุดโครงการ เร่งแก้ ลดระดับดิน สร้างร่องระบายน้ำรอบต้นไม้ ขณะที่ ผอ.สำนักระบายน้ำ กทม. เผย พุทธมณฑล ประสานขอดินถูกต้อง
จากกรณีที่ The Active ติดตามข้อร้องเรียนของ รสนา โตสิตระกูล ประธานอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาผู้บริโภค ภายหลังพบว่าเอกชนนำดินมาถมในพุทธมณฑล กระทบต่อต้นไม้ในพื้นที่ จนนำมาซึ่งการชี้แจงข้อเท็จจริงจากผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล พร้อมสั่งยุติการถมดินไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย สำนักงานพุทธมณฑล, ผู้เชี่ยวชาญรุกขกร และ นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม
ยอมรับความผิดพลาด ชี้ปัญหาขาดแคลนบุคลากร
ธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล ยอมรับกับ The Active ว่า เกิดความผิดพลาด และขาดการสื่อสาร โดยให้เหตุผลว่า พุทธมณฑลมีพื้นที่กว้างใหญ่ 2,500 ไร่ แต่มีเจ้าหน้าที่จำกัด ทำให้การติดตามงานไม่ทั่วถึง ได้สั่งให้ผู้รับเหมาถมดินสูงเพียง 50 เซนติเมตร แต่ในทางปฏิบัติกลับสูงถึง 2 เมตร

“เราได้หยุดโครงการ และกำลังแก้ไขโดยการลดระดับดิน สร้างร่องระบายน้ำรอบต้นไม้”
ธานี พิกุลทอง
ธานี ยังบอกด้วยว่า พุทธมณฑลกำลังได้รับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหา และดูแลสำนักงานพุทธมณฑลมากขึ้น น่าจะทำให้การแก้ปัญหาทรัพยากรบุคคลที่ไม่เพียงพอ สามารถดูแลพื้นที่กว่า 2,500 ไร่ ได้อย่างละเอียดมากขึ้น
เรียกร้องใช้ความรู้วิชาการตั้งแต่ต้น
วาทินี คงคารัตน์ ตัวแทนรุกขกร จากสมาคมรุกขกรรมไทย มองว่า ปัญหานี้เกิดจากการขาดความรู้พื้นฐาน ในการดูแลต้นไม้ จากการลงมาดูพื้นที่ พบว่า การฝังต้นไม้ด้วยดินสูง 2 เมตรนี้ เปรียบเสมือนการรัดคอต้นไม้ให้ตาย รากจะขาดอากาศ ไม่สามารถดูดซับสารอาหารได้
“สิ่งที่น่าเศร้าคือ ความเสียหายนี้สามารถป้องกันได้ถ้ามีการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนดำเนินงาน”
วาทินี คงคารัตน์

วาทินี ยังเสนอให้ หน่วยงานที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่แบบพุทธมณฑล ควรมีรุกขกรประจำไม่ต่ำกว่า 2 – 3 คน ซึ่งในตอนนี้ ยังมีไม่เพียงพอ
ตั้งข้อสังเกตปมทุจริต – เรียกร้องปฏิรูปการบริหารงานพุทธมณฑล
ขณะที่ รสนา โตสิตระกูล ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตประเด็นนี้ เรียกเหตุการณ์นี้ว่า “การฆ่าต้นไม้โดยเจตนา” เธอตั้งคำถามว่า ทำไม ? ดินที่ตกลงไว้ 50 เซนติเมตร กลับสูงถึง 2 เมตร นี่คือความประมาทหรือการทุจริต ?
“ดิฉันสงสัยว่าเป็นการจงใจฆ่าต้นไม้เพื่อนำไปขายเป็นชีวมวล แล้วใช้งบประมาณใหม่ปลูกทดแทน ขอเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน และปฏิรูปการบริหารงานพุทธมณฑลโดยสิ้นเชิง”
รสนา โตสิตระกูล

สำหรับข้อชี้แจงสำคัญที่ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล เปิดเผยกับ The Active ย้ำว่า เหตุผลของการถมดินเพราะต้องการหาวิธีแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ หากจะซื้อดินมาถมจะมีราคาแพง เพราะเนื้อที่ค่อนข้างมาก ประกอบกับทราบว่ามีโครงการของกรุงเทพมหานคร ขุดคลองทวีวัฒนา ตามโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำทวีวัฒนา บริเวณคอขวด จึงได้ทำหนังสือประสานขอดินไปยัง ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2565 ต่อมาสำนักการระบายน้ำได้ว่าจ้างบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นผู้รับเหมาของโครงการดังกล่าว โดยอ้างว่า มีส่วนราชการขอใช้ดินอีกหลายหน่วยงาน ไม่ใช่แค่สำนักงานพุทธมณฑล
ย้ำประสานขอดินถูกต้อง แต่ยอมรับอาจมีช่องว่าง
ล่าสุดวันนี้ (23 มิ.ย. 68) เจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. เปิดเผยกับ The Active ถึงเบื้องหลังการขอใช้ดินจากกระบวนการจัดการดินขุด โครงการอุโมงค์ระบายน้ำ เพื่อถมในพื้นที่ราชการ ย้ำว่า ตามระเบียบ ดินที่ได้จากการขุดโครงการดังกล่าว ต้องคืนให้กรมธนารักษ์ก่อน จากนั้นถึงจะส่งต่อให้หน่วยงานราชการอื่นที่ประสานขอใช้ หากหน่วยงานใดต้องการใช้ดิน จะต้องมาแจ้งขอความเห็นชอบ



อย่างไรก็ตาม เจษฎา ยอมรับว่า ระบบติดตามการนำดินไปใช้ยังมีช่องว่าง โดยกรณีของพุทธมณฑล เรื่องการถม หรือการนำดินไปทิ้งนี้ทางสำนักการระบายน้ำไม่ทราบเลย เพราะข้อมูลของดินจากโครงการนี้ได้ทำสัญญาเอาดินไปทิ้งมีเยอะมาก ไม่ทราบเลยว่าทิ้งที่ไหนบ้าง
“หลักการคือเราจะไปทิ้งให้ แต่เจ้าของพื้นที่ต้องเป็นคนกำหนดว่าทิ้งยังไง ทิ้งซี้ซั้วไม่ได้ เจ้าของพื้นที่มีสิทธิ์ห้าม หรือระงับการทิ้งได้ ถ้าเข้าไปทำอะไรในพื้นที่แล้วมีความเดือดร้อนก็ต้องประสานมา”
เจษฎา จันทรประภา
ผอ.สำนักการระบายน้ำ ยอมรับด้วยว่า จริง ๆ ตามหลักต้องคุยกับเจ้าของพื้นที่ก่อน การจัดซื้อจัดจ้างเอาดินไปทิ้งในหน่วยงานอื่นทำได้ตามระเบียบธนารักษ์ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบก่อน
“ในรายละเอียดกรณีพุทธมณฑลยังไม่ทราบเลย เดี๋ยวจะให้เจ้าหน้าที่ในฝ่ายการระบายน้ำตรวจสอบเพิ่มเติม”
เจษฎา จันทรประภา