‘กทม.’ รายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและบำบัดน้ำเสีย เขตดอนเมือง คาด เร่ิมก่อสร้างเดือนตุลาคมนี้ด้าน ‘พอช.’ พร้อมเคลียร์พื้นที่สร้างบ้านมั่นคงเป็นลำดับต่อไป
วันนี้ (16 ส.ค. 2565) ณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา สำนักการระบายน้ำ ตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร จากคลองวัดหลักสี่ ถึงถนนช่างอากาศอุทิศ เขตดอนเมือง และได้ประชุมหารือแผนงานก่อสร้างเขื่อนฯ กับประชาชนในชุมชนร่มไทรงาม เขตดอนเมือง ได้ชี้แจงสร้างความเข้าใจการพัฒนาคลองเปรมประชากรตามแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน พัฒนาด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและบำบัดน้ำเสีย รวมถึงได้มีการหารือแผนการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร ในบริเวณพื้นที่ชุมชนดังกล่าว โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเข้าดำเนินการก่อสร้างเขื่อนที่ชุมชนร่มไทรงาม ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
สำหรับโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 จากคลองบ้านใหม่ถึงหมู่บ้านแกรนด์คาแนล ความยาวประมาณ 580 เมตร (ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2562) ช่วงที่ 2 จากสุดเขตกรุงเทพมหานครถึงคลองบ้านใหม่ และจากบริเวณหมู่บ้านแกรนด์คาแนลถึงถนนสรงประภา ความยาวประมาณ 5,000 เมตร (ระยะเวลาก่อสร้าง 24 เดือน ลงนามในสัญญา 20 พ.ค.65 ปัจจุบันผลงาน 0.60%) ช่วงที่ 3 จากถนนสรงประภาถึงถนนแจ้งวัฒนะ ความยาวประมาณ 10,000 เมตร (ระยะเวลาก่อสร้าง 24 เดือน ลงนามในสัญญา 4 มี.ค. 65 ปัจจุบันผลงาน 2.50%) และ ช่วงที่ 4 จากถนนแจ้งวัฒนะถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์ ความยาวประมาณ 10,700 เมตร (ระยะเวลาก่อสร้าง 26 เดือน ลงนามในสัญญา 3 ธ.ค. 63 ปัจจุบันผลงาน 22.90%)
หากการก่อสร้างแล้วเสร็จตลอดแนวคลองเปรมประชากร จะช่วยเพิ่มความลึกและความจุปริมาณน้ำในคลองมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการการสัญจรทางน้ำและการระบายน้ำในคลอง ช่วยให้สามารถป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ได้ทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ โครงการสร้างเขื่อนฯ เป็นการพัฒนาพื้นที่ร่วมกับการสร้างที่อยู่อาศัยของประชาชนในบริเวณเดียวกัน โดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ซึ่งขณะนี้ ชาวบ้านชุมชนร่มไทรงาม ได้จัดตั้ง สหกรณ์เคหะสถานร่มไทรงานพัฒนา จำกัด และได้รับการรับรองจากกรมส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว มีสมาชิก 270 ครัวเรือน จากทั้งหมด 320 ครัวเรือน อยู่ระหว่างการพิจารณาขอเช่าพื้นที่เพื่อสร้างบ้านมั่นคงกับกรมธนารักษ์ หากได้รับอนุญาต จะมีการเริ่มดำเนินงานก่อสร้างก่อน 150 หลังคาเรือน เป็นลำดับต่อไป