เตือนแรงงานไทยในอิสราเอลรับมืออากาศร้อน และเกิดพายุ ฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน แนะอยู่ในร่ม ออกจากที่พักบางช่วงเวลา ดื่มน้ำบ่อย ๆ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรังระวังเป็นพิเศษ และยังพบปัญหาแรงงานไทยถูกเอาเปรียบจากนายจ้างในหลายกรณี
JFEED รายงานว่า อิสราเอลกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดในรอบ 80 ปี คาดคลื่นความร้อนนี้จะทวีความรุนแรงขึ้น นักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าพื้นที่ตอนในและตอนตะวันออก โดยเฉพาะหุบเขาจอร์แดนและพื้นที่ใกล้ทะเลกาลิลี อาจเผชิญกับวันที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่ปี 1942 โดยอุณหภูมิจะพุ่งสูงขึ้นถึงระดับที่รุนแรงที่สุด
ซึ่งสภาพอากาศที่รุนแรง ประกอบกับความชื้นสูง พายุฝนฟ้าคะนอง และความเสี่ยงต่อน้ำท่วมฉับพลัน กำลังกระตุ้นให้มีการแจ้งเตือนสภาพอากาศอย่างกว้างขวาง
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาอิสราเอล(IMS) คาดว่าผลกระทบจากความร้อนรุนแรงนี้จะมีอยู่ไปจนถึงวันพุทธที่ 13 เป็นอย่างน้อยโดย Dr. Amir Givati หัวหน้าสำนักอุตุนิยมวิทยาอิสราเอล ระบุว่า
“พื้นที่ภูเขาและทางตะวันออกจะเผชิญสภาพอากาศรุนแรงเป็นพิเศษ”
พร้อมเสริมว่าในบางพื้นที่ตะวันออกอาจมีฝนตกช่วงบ่ายประปราย ทำให้การพยากรณ์ซับซ้อนขึ้น
บริเวณเสี่ยง : หุบเขาจอร์แดน, ทะเลสาบกาลีลี, และ นาหูท ชาน อาจทะลุ 48–49 °C และ บางแห่ง เช่น หุบเขาจอร์แดนอาจสูงถึง 50–51 °C ส่วน อุณหภูมิในเมืองอย่าง เยรูซาเลม และซาฟัด จะพุ่งแตะ 41 °C
ขณะที่ เพจ Thai Migrant Watch เพจที่ติดตามเกี่ยวกับแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างแดนระบุว่า ในกลุ่มของคนไทยในอิสราเอลหลายกลุ่มมีการโพสต์ถึงผลกระทบจากความร้อน ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตเกษตรเสียหาย ปศุสัตว์อย่างไก่ตาย หรือแม้กระทั่งคนไทยที่เสียชีวิตไปจากคลื่นความร้อนที่รุนแรงสุดในรอบกว่า 80 ปี ที่เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม
พร้อมทั้งแจ้งเตือนแรงงานไทยถึงสิ่งสำคัญที่ต้องทำ:
– ถ้าเป็นไปได้หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านช่วง 10 โมงเช้าถึง 16.00 น.
– ดื่มน้ำบ่อย ๆ แม้ไม่ได้ออกแรง
– อยู่ในที่ร่ม หรือมีเครื่องปรับอากาศให้มากที่สุด
– สวมหมวก ป้องกันแสงแดด ใช้ครีมกันแดด (SPF 30+)
– กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง สตรีตั้งครรภ์ เด็กเล็ก — ระวังตัวมากเป็นพิเศษ
The Active ติดต่อไปที่ จันดา ศิริโส แรงงานไทยที่ทำงานในอิสรเอลอยู่ในพื้นที่โมชาฟตอนใต้ของอิสรเอล จันดา เล่าว่า อากาศที่นั่นร้อนต้องอยู่ในห้องพักไม่สามารถใช้ชีวิตข้างนอกห้องพักได้เลย อีกทั้งเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีพายุทะเลทรายเข้าทำให้นายจ้างแจ้งหยุดงานเพื่อความปลอดภัย
“มีแรงงานไทยเสียชีวิตเพราะอากาศร้อนแล้วเป็นคนนครพนม สิ่งสำคัญคือต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ เป็นน้ำเย็นจะช่วยลดความร้อนลงได้ดีมาก เพื่อให้น้ำในร่างกายเพียงพอใส่เสื้อ-กางเกงคลุมแบบมิดชิด เป็นผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ใส่หมวกปิดบังใบหน้า ใส่แว่นดำกันแสง ทาครีมกันแดดด้วยก็ดี แต่ก็เอาไม่อยู่กับอุณหภูมิ 40+ มียาดมพกติดตัวไปด้วย พิมเสน น้ำเกลือแร่ผสมน้ำกินแทนการเสียเหงื่อเยอะ กินของหวาน กินมะนาวกับเกลือ ช่วยได้เยอะเหมือนกัน”
ซึ่งนอกจากเรื่องสภาพอากาศแรงงานไทยต้องรับมือกับการนายจ้างที่ปฏิบัติเข้าข่ายการละเมิด และเอาเปรียบแรงงานไทย เฟสบุ๊ก บ่าวนครพนม คนไกลบ้าน ระบุว่า “ทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันแม่แห่งชาติของไทย มีทั้งปฏิทินตารางวันหยุดของแรงงานไทยในอิสราเอล แต่ก็ยังมีนายจ้างหลายคนที่ยังไม่ปฏิบัติตามและไม่ให้สิทธิของแรงงานไทย สำหรับวันแม่หรือวันหยุดของปฏิทินแรงงานไทยถ้าหากวันไหนที่ทำงานต้องได้ค่าแรงเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือก็ให้หยุดและได้รับค่าแรง แต่ก็มีนายจ้างหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายมีใช้บังคับสำหรับแรงงานไทยเท่านั้นแต่ไม่สามารถบังคับใช้กับนายจ้างได้”
“ฝากถึงหน่วยงานเรื่องค่าแรงที่บ่ตรงตามปกนี่ล่ะ นายจ้างยึดพาสปอร์ตไว้ บ่มีสลิปเงินเดือนให้ลูกน้อง
จันดา ศิริโส แรงงานไทยที่ทำงานในอิสรเอล
“
จากข้อมูลของ กรมจัดหางาน ระบุว่า รัฐอิสรเอล เป็นประเทศที่มีแรงงานไทยไปทำงานสูงเป็นอันดับ 3 มีจำนวน 26,512 คน รองจากไต้หวันและเกาหลีใต้
