ถ้าคิดว่า ‘วัคซีนเป็นความหวัง’ ในการควบคุมโควิด-19 ให้การระบาดหายไป อาจต้องทำความเข้าใจกันใหม่ เมื่อไทยเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปบ้างแล้ว แต่การระบาดระลอกใหม่ก็กลับมาเกิดขึ้นอีก มีอะไรบ้างที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัคซีนโควิด -19 ลองไปดูก่อนละเลยการป้องกันอื่น ๆ
ความเชื่อที่ 1 วัคซีนมาแล้วโรคระบาดจะหายไปทันที
ขึ้นชื่อว่า ‘วัคซีน’ หลายคนก็คงคิดว่าเป็นตัวช่วยไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19 นี่คือข้อแรก ที่ทำให้คนส่วนใหญ่อยากรับวัคซีนเร็ว ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าความจริงแล้ว วัคซีนโควิด -19 มีส่วนสำคัญช่วยควบคุมการระบาดก็จริง แต่ไม่ได้ทำให้การระบาดของโรคหายไปในทันที ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการระบาด อาทิ จำนวนคนที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว พฤติกรรมของผู้คน ฯลฯ หากได้วัคซีนแล้วไม่มีมาตรการอื่นควบคู่ หรือมีความเข้าใจผิด จะยิ่งทำให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงโรคมากขึ้น เช่น เลิกสวมหน้ากาก เลิกล้างมือ เลิกเว้นระยะห่าง โควิด-19 จะกลับมาระบาดหนักขึ้นได้
อ่านเพิ่ม https://theactive.net/read/covid19-vaccine-not-last-answer/ความเชื่อที่ 2 วัคซีนต้องฉีดให้ครบทุกคน
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าทุกคนต้องได้ฉีดวัคซีนถึงจะป้องกันโรคได้ แต่ความจริงแล้วการควบคุมโรคระบาดมีแนวคิดที่เรียกว่า ภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) คือ หากคนในสังคมมีภูมิคุ้มกันมากในระดับหนึ่งจะสามารถควบคุมโรคได้ โรคก็จะไม่สามารถติดต่อได้แล้ว ดังนั้น ต้องพิจารณาถึงสถานการณ์การระบาดด้วย บางประเทศที่มีประชากรมากอาจเลือกที่จะฉีดครึ่งหนึ่ง ขณะที่ประเทศที่มีการระบาดหนัก อาจเลือกที่จะฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดเพื่อเร่งควบคุมโรค
ความเชื่อที่ 3 วัคซีนต้องประสิทธิภาพสูงเท่านั้น
จริงอยู่ว่าการได้วัคซีนประสิทธิภาพสูงนั้นถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ในทางการแพทย์ ไม่มีการรักษาใดสมบูรณ์ 100 % รู้หรือไม่ องค์การอนามัยโลกตั้งเกณฑ์ขั้นต่ำกับ ‘วัคซีน’ ไว้ที่ประสิทธิภาพ 50 % เท่านั้น และให้ปัจจัยสำคัญในการควบคุมโรค คือ “ระยะเวลาที่วัคซีนให้ผลคุ้มครอง (duration)” มีงานวิจัยของ HITAP พบว่า หากเทียบระหว่างวัคซีนที่ได้ผล 90 % แต่มีระยะเวลาให้ผลคุ้มครองเพียง 6 เดือน กับวัคซีนที่ได้ผล 70 % แต่คุ้มครองนาน 1 ปี วัคซีนชนิดหลังจะช่วยควบคุมการระบาดได้ดีกว่า
ความเชื่อที่ 4 วัคซีนป้องกันโรคได้อย่างเดียว
ประโยชน์ของวัคซีน ไม่ได้มีประสิทธิภาพเพียง ‘ป้องกันโรค’ เท่านั้น ที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลกแบ่งผลของวัคซีนเป็น 3 แบบ ได้แก่ ลดการติดเชื้อ ลดการแพร่เชื้อเมื่อป่วย และลดความรุนแรงของอาการเมื่อติดเชื้อแล้วป่วย ดังนั้นวัคซีนโควิด-19 จะ ‘ไม่’ ป้องกันการติดเชื้อ 100 %
ความเชื่อที่ 5 วัคซีนฉีดเข็มเดียวจบ หรือ ฉีดครั้งเดียวแล้วมีภูมิคุ้มกันตลอดไป
หลายคนยังคิดว่าวัคซีนโควิด-19 ฉีดเพียงเข็มเดียว หรือฉีดครั้งเดียวจะมีภูมิคุ้มกันทันที จริง ๆ แล้ววัคซีนโควิด-19 ส่วนใหญ่ ยังคงต้องฉีด 2 โดส ห่างกัน 3 – 4 สัปดาห์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย อีกทั้งหลังจากฉีดเข็มที่ 2 แล้วระยะหนึ่ง ภูมิคุ้มกันถึงจะเพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่วัคซีนมีผลคุ้มครอง และระดับของภูมิคุ้มกันยังสามารถลดลงได้ด้วยเช่นกัน ข้อมูล ณ วันที่ 2 ก.พ. 2564 ยังไม่มีการศึกษาวัคซีนโควิด-19 ตัวใดบอกได้ว่า ‘จะให้ผลคุ้มครองนานแค่ไหน’ วัคซีนโควิด-19 อาจต้องฉีดมากกว่านั้น หรืออาจเป็นโรครายฤดูกาลคล้ายไข้หวัดใหญ่ และแม้จะฉีดวัคซีนแล้ว การใส่หน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ยังจำเป็นอยู่เพื่อควบคุมในระยะยาว
อ่านเพิ่ม https://theactive.net/read/countdown-to-covid19-vaccine-ep4/อย่างไรก็ตาม แม้ ‘วัคซีนเป็นความหวัง’ ในการควบคุมโควิด-19 ให้ลดการระบาดลง แต่ก็ต้องใช้อย่างเข้าใจ ไม่ละเลยการป้องกันอื่น ๆ เพราะความเสี่ยงที่ลดน้อย อาจพลิกกลับเป็นเพิ่มขึ้น และการระบาดระลอกใหม่ก็ยังสามารถเกิดได้ตลอดเวลา
(ที่มา : งานวิจัย “โครงการประเมินผลกระทบและความคุ้มค่าของวัคซีนโควิดที่พึงประสงค์เพื่อใช้ในการพัฒนาและคัดเลือกวัคซีนสำหรับใช้ในประเทศไทย”, โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ. 2564.)