FAKE OR FRESH? นิทรรศการมีชีวิต สร้างความเข้าใจ “บุหรี่ไฟฟ้า” ภัยใกล้ตัว

เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2568 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วม จัดนิทรรศการมีชีวิต FAKE OR FRESH? – MY LIFE EXHIBITION
กระชากหน้ากากบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้เยาวชน ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายและมีความหลากหลายทางการนำเสนอ

เปิดให้เข้าชมฟรี ณ ลานนิทรรศการหมุนเวียน ชั้น 1 ศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนั้ ถึง 22 มิ.ย. 2568 (ปิดวันจันทร์) เวลา 09.30 – 16.30 น.

นิทรรศการแบ่งเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่

โซน Tunnel Exhibition
“Magic Milk” นำเสนอประสบการณ์เชิงภาพ แสง เสียง และบรรยากาศจำลองที่พาผู้ชมเข้าสู่กระบวนการ “ทำความเข้าใจ” บุหรี่ไฟฟ้าทีละขั้นตอน ตั้งแต่ความน่าดึงดูดของกลิ่นและรูปลักษณ์ ไปจนถึงเบื้องหลังการผลิตที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีอันตราย และผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

โซน FACT
บุหรี่ไฟฟ้า แสดงข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านการจัดแสดงอินโฟกราฟิก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ และคลิปวิดีโอ รวมถึงบทวิเคราะห์เรื่องต้นทุนสุขภาพและค่าใช้จ่ายของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในชีวิตจริง

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. เผยว่า วันงดสูบุบหรี่โลกปี 2568 องค์การอนามัยโลก กำหนดคำขวัญว่า “กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า
นิโคตินเสพติด จน ตาย” การจัดนิทรรศการครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความรู้เท่าทันสื่อและกลไกการตลาดของอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของการสื่อสารเชิงพาณิชย์ที่เน้นภาพลักษณ์ทันสมัย กลิ่นหอม และรูปลักษณ์คล้ายของเล่น โดยออกแบบกิจกรรมให้ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ทั้งในเชิงข้อมูลวิชาการ และการสื่อสารที่กระตุ้นให้ตั้งคำถามและสะท้อนมุมมองของตนเองอย่างมีเหตุผล

นพ.พงศ์เทพ ยังกล่าวถึง การศึกษาร่วมกัน ระหว่าง สสส. และ วศิน ศิวสฤษดิ์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ที่ศึกษาสถานการณ์ค่าใช้จ่ายในการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของกลุ่มผู้สูบบุหรี่ต่าง ๆ ในไทย โดยวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นของกลุ่มตัวอย่าง 4 จังหวัดภาคใต้ 1,029 คน ได้แก่ จ.ภูเก็ต จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา พบว่า เยาวชนอายุ 15–20 ปี มีอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 65.5% โดยกลุ่มที่มีอัตราการสูบเพิ่มขึ้น คือ ผู้หญิงและกลุ่ม LGBTQIA+ ขณะเดียวกันยังพบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเฉลี่ยสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทีบยกับการสูบบุหรี่มวน และยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจผ่านค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น โดยในปี 2567 มีต้นทุนค่ารักษา 4 โรคหลักที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึงกว่า 306 ล้านบาท

“ที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มเยาวชนอายุ 15-20 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 65.5% ผู้สูบยิ่งอายุน้อยยิ่งมีแนวโน้มสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าสูบบุหรี่มวน เหตุผลหลักที่สูบคือเพื่อคลายเครียด และติดนิโคตินจนไม่สามารถเลิกได้ โดยพบค่าใช้จ่ายจากการสูบบุหรี่มวนอย่างเดียวอยู่ที่ 892.67 บาทต่อเดือน คิดเป็น 7.16% ของรายได้หลัก ค่าใช้จ่ายจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเดียวอยู่ที่ 1,080.81 บาทต่อเดือน คิดเป็น 16.43% และสูบทั้งสองอย่างอยู่ที่ 1,290.74 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 9%”

ด้าน โสภี สงวนดีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ศูนย์การเรียนรู้ ธปท. เปิดให้บริการประชาชนตั้งแต่ปี 2561 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร ประวัติศาสตร์ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านบริการห้องสมุด พิพิธภัณฑ์เงินตรา การจัดนิทรรศการและกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งครั้งนี้ได้ร่วมกับ สสส. จัดนิทรรศการเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสร้างความตระหนักด้านสุขภาพ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่น่ากังวลและส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก เป็นหนึ่งในปัญหาสังคมที่มีแนวโน้มการใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และแพร่ลงไปถึงเด็กนักเรียนระดับประถม โดยศูนย์การเรียนรู้ ธปท. เป็นที่รู้จักของกลุ่มคนที่หลากหลาย โดยเฉพาะเด็กนักเรียน เยาวชน ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป จึงมั่นใจว่าจะมีส่วนสนับสนุนกิจกรรมให้บรรลุเป้าประสงค์สร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโทษและอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างแท้จริง