Thailand Web Stat

The Last One ลูกปลาตัวสุดท้าย ภาพแทนเสียง ลูกหลานชาวประมง ถึง สส. หลัง โหวตไม่เห็นด้วย ม.69 ตาม มติ สว.

“ภาพเด็กเยาวชนนี้ ก็เป็นตัวแทนปลาในทะเล ที่เหลือตัวสุดท้าย ที่กำลังถูกอวนตาถี่จับปลากะตักในเวลากลางคืนจับไป ก็อยากสะท้อนให้เห็นว่า ถ้าร่างแก้ไขกฎหมายประมงนี้ออกมา ปัญหาในภาพก็คงเกิดขึ้นจริง คือ คงเหลือปลาตัวสุดท้ายในทะเลจริง ๆ ครับ“

ภาพวาด ของ อะห์หมัด ทิศา ตัวแทนลูกหลานชาวประมงพื้นบ้าน จากชุมชนริมชายฝั่งทะเล บ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ จ.ตราด ตั้งใจสื่อสารสะท้อนไปยัง สส. ทั้ง 398 คน หลังมีมติเอกฉันท์ ไม่เห็นด้วย กับร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง ของ สว. ซึ่งรวมไปถึงมาตราสำคัญที่หลายฝ่ายจับตา คือมาตรา 69 ที่สว.มีมติไม่อนุญาตให้ใช้อวนล้อมจับปลากะตักในเวลากลางคืน

เขายอมรับว่าผิดหวังกับมตินี้ เพราะที่ตั้งใจเดินทางมาจากบ้านเกิด แบกความหวังเล็ก ๆ ว่า สส.จะมีมติเห็นพ้องกับสว. แต่เมื่อไม่เป็นเช่นนี้ก็ค่อนข้างกังวลมาก เพราะแค่ในชุมชนริมชายฝั่งทะเลที่บ้านตอนนี้ ทรัพยากรเริ่มลดน้อยลง จากเครื่องมือประมงไม่ไม่เหมาะสม หรือทำลายล้าง ยิ่งหากมาตรา 69 เดินหน้าอนุญาตใช้อวนล้อมจับปลากะตักเวลากลางคืน จะกระทบหมด เพราะทะเลเชื่อมกัน ถ้าตัดตอนจับลูกปลาวัยอ่อน ลูกปู ลูกกุ้ง แทบไม่เหลือทรัพยากรเลย

“มาครั้งนี้ ตั้งใจมาฟัง สส.ว่าจะเห็นด้วยกับ สว. แต่น่าเสียดายที่ไม่มีซักเสียงเห็นด้วยกับ สว. เลย เหมือนภาพเก่าย้อนกลับมา เพราะที่ชุมชนเคยเจอปัญหาคราดหอยส่งผลกระทบชายฝั่ง พ่อผมต้องสู้ ออกไปเรียกร้อง แต่ระหว่างสู้ก็มีการลักลอบเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ตอนผมเด็ก เราเรือเล็กแต่จับปลาได้ตัวใหญ่มาก ๆ แต่ตอนนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พ่อออกเรือไปสงสารพ่อ เพราะหากกม.นี้ผ่านอนุญาตให้ใช้อวนตาถี่จับปลากะตักเวลากลางคืน พ่อและพี่น้องชาวประมงไปหาปลาทะเลก็จะได้น้อยลง มันจะเหนื่อยมากขึ้น รายได้ลดลง“

ด้าน อัสมา ทิศา พี่สาวของอะห์หมัด สะบัดพู่กันวาดภาพที่สะท้อนผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากเดินหน้า ม.69 ที่จะทำให้อวนล้อมตาถี่จับปลาเล็กที่มาเล่นไฟ ปลาใหญ่ที่ตามมากินปลาเล็กไปหมด ชาวประมงได้ปลาน้อยลง จากทรัพยากรที่ถูกทำลาย และการพิจารณากฎหมายไม่เป็นธรรม เพราะเห็นแก่ทุนมากเกินกว่าประชาชนตัวเล็ก และชาวประมงพื้นบ้าน

“รู้สึกเสียใจ ที่ผลโหวตออกมาแบบนี้ น่าจะมีสส.เห็นชอบกับสว.บ้าง เพราะสว.เอาข้อมูลจากกลุ่มนักตกปลา นักดำน้ำ ข้อมูลวิชาการต่อผลกระทบต่าง ๆ ยกมาให้เห็น แต่ผลออกมากลับเป็นศูนย์ เสียใจมาก หวังว่าในกมธ.ร่วม สส. สว. ก็อยากให้เขาตัดสินใจเพื่อประชาชนจริง ๆ ไม่ใช่เพื่อกลุ่มประมงไม่กี่คน ทุนไม่คน เรือใหญ่ไม่กี่ลำ ให้นึกถึงชาวประมง ผู้บริโภคทั่วประเทศ และนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวกับประมงชายฝั่ง เขามากินอาหารทะเลราคาถูก และสด ก็อยากให้นึกถึงประโยชน์ทรัพยากรส่วนรวมที่ยั่งยืน“

สำหรับการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง ซึ่งเป็นวาระด่วนในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ ( 19 มี.ค.68 ) หลังจากที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีมติเสียงข้างมาก โหวตสวน มติของ สส. ถึง 6 มาตรา หนึ่งในนั้นคือมาตราสำคัญที่หลายฝ่ายจับตา คือมาตรา 69 ที่สว.มีมติไม่อนุญาตให้ใช้อวนตาถี่จับปลากะตักในเวลากลางคืน ทำให้ต้องตีกลับมาให้สส.พิจารณาใหม่อีกครั้ง

โดยการพิจารณาเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 10.40 น. เป็นการอภิปรายประกอบเหตุผล ว่าจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย กับร่างแก้ไขเพิ่มเติมของ สว. ขณะที่สส.เริ่มอภิปรายในมาตราสำคัญที่หลายฝ่ายจับตา คือมาตรา 69 เรื่องการใช้อวนล้อมตาถี่จับปลากะตักในเวลากลางคืน

และหลังจากเปิดอภิปราย ก็มี สส.หลายพรรค ตบเท้าร่วมอภิปรายแสดงความเห็นหลากหลาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ที่จะมีการอนุญาติให้ใช้อวนล้อมตาถี่จับปลากะตักในเวลากลางคืน ทั้งกังวลว่าหากอนุญาต จะส่งผลกระทบต่อการตัดตอนสัตว์น้ำวัยอ่อนที่ไม่ได้พบแค่บริเวณชายฝั่ง ขณะที่อีกด้าน ก็มองว่าควรอนุญาต เพราะจะส่งผลในมติทางเศรษฐกิจ รายได้ของชาวประมงที่มากขึ้น บางส่วนอยากให้พิจารณาอย่างรอบคอบทุกมิติ บนหลักประโยชน์ความยั่งยืนของทรัพยากร จึงต้องใช้กลไกการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการร่วม

หลังการอภิปราย ได้มีการลงมติ ซึ่ง ที่ประชุม สส.มีมติเอกฉันท์ 398 เสียง ไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง ฉบับ สว. งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนนเสียง 2 จากนั้นได้มีการตั้งกรรมาธิการร่วมสส.และสว. จำนวน 22 คน เพื่อพิจารณาหาข้อสรุป โดยกรอบระยะเวลาการพิจารณาขึ้นอยู่กับการตกลงของ สส.และสว. จากนี้

Author

Alternative Text
AUTHOR

ทัศนีย์ ประกอบบุญ

นักข่าวสายลุย เกาะติดประเด็นแล้วไม่มีปล่อย รักการเดินทาง หลงรักศิลปะบนรองเท้า และชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ