สำรวจทัศนคติประชาชน ต่อบทบาททหารในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
“ทหารมีไว้ทำไม ?” เป็นทั้งวาทกรรม เป็นทั้งคำถามเชิงวิพากษ์ ที่ดูเหมือนถูกใช้ในสังคมไทยในระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของทหารในประเทศที่ไม่ได้อยู่ใน ภาวะสงคราม แต่กลับมีความหมายที่ให้น้ำหนักทางสังคมและการเมือง ซึ่งเกิดชัดเจนมากขึ้นในช่วงหลังรัฐประหารปี 2549 และหลังรัฐประหารปี 2557
ช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้ “ทหารมีไว้ทำไม ?” ถูกพูดถึง คงหนีไม่พ้นในช่วงที่ประเทศอยู่ภายใต้การนำของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พบว่าทหารเข้ามามีบทบาทในแทบทุกมิติทางสังคมและการเมือง จนหลายครั้งถูกตั้งข้อสังเกตถึงกลุ่มผลประโยชน์ และการใช้งบประมาณที่ขาดการตรวจสอบ
ขณะเดียวกันยังมีช่วงเวลาที่เกิดข่าวอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ หรือในบางเหตุการณ์ที่พบทหารมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรง รวมถึงกรณีการคุกคามประชาชน ก็ยิ่งทำให้วาทกรรมนี้ถูกพูดถึงบ่อยขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น วาทกรรม “ทหารมีไว้ทำไม ?” ยังถูกพรรคการเมืองที่นิยามตัวเองว่าอยู่ฝั่งประชาธิปไตย หรือฝั่งที่วิพากษ์กองทัพและการรัฐประหาร หยิบมาใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในการหาเสียง เพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหาโครงสร้างอำนาจรัฐ และงบประมาณกลาโหมที่มองว่า ไม่สอดคล้องกับความจำเป็นของประชาชน ไปจนถึงการปฏิรูปกองทัพ อย่างกรณี ในยุคหนึ่งที่พรรคอนาคตใหม่ (เดิม) พูดถึงประเด็น ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร, การปรับลดงบฯ กลาโหม
แต่อีกด้านเมื่อประเทศตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต อย่างกรณี ภัยพิบัติ ภาพจำหนึ่งคือกำลังพลที่ออกจากที่ตั้งมาช่วยเหลือประชาชน จนมาถึงเหตุการณ์ล่าสุดกับความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา จนนำไปสู่เหตุปะทะ ยิ่งทำให้วาทกรรม “ทหารมีไว้ทำไม ?” กลายเป็นจุดสนใจในอีกมุมมอง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังตอกย้ำว่า ทำไมถึงต้องมีทหาร กับบทบาท หน้าที่การเป็นแนวหน้าเผชิญภัยคุกคามที่เกิดขึ้นต่ออธิปไตยของไทย
ความเห็นต่อวาทกรรม “ทหารมีไว้ทำไม ?” จึงถูกแบ่งออกเป็นหลายมุมมองอย่างชัดเจน และในช่วงที่เวลาที่บทบาทของทหารเด่นชัด ในฐานะรั้วของชาติที่คอยปกป้องผู้รุกราน แทบทุกกำลังใจจากผู้คนในสังคมถูกส่งไปถึงทหารแนวหน้า ในภารกิจปกป้องประเทศที่ต้องแลกด้วยชีวิต

The Active เลยเก็บข้อมูลผ่านเครื่องมือ Zocial Eye พบว่า โลกโซเชียล มีคำถาม และใช้ #ทหารมีไว้ทำไม ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ถึง 4 ส.ค. 2568 มีจำนวนข้อความถึง 102,000 ข้อความ และมียอดเอ็นเกจเมนต์ (ยอดกดไลก์ แชร์ แสดงความเห็นรวมกัน) มากถึง 3,351,688 เอ็นเกจเมนต์

โดยช่องทางหลักที่มีจำนวนข้อความมากที่สุดคือ Facebook ที่ 73.22% รองลงมาคือ YouTube ที่ 17.61% และ TikTok ที่ 5.45% ตามลำดับ และช่องทางอื่น ๆ รวม 3.72%
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณายอดเอ็นเกจเมนต์จะพบว่ามียอดสูงสุดอยู่ที่ Facebook ที่ 50.62% รองลงมาคือ TikTok ที่ 25.68% และ X (Twitter เดิม) ที่ 13.76% ตามลำดับ และช่องทางอื่น ๆ รวม 9.94% สะท้อนให้เห็นว่า แม้ช่องทาง TikTok และ X จะมีจำนวนข้อความน้อยมาก เมื่อเทียบกับ Facebook แต่กลับมียอดได้รับความสนใจ (หรือเอ็นเกจเมนต์) ที่สูง
โลกโซเชียล ถาม-ตอบ “ทหารมีไว้ทำไม” ในเหตุการณ์อะไรกันบ้าง
หากพิจารณายอดข้อความรายวัน คำถาม “ทหารมีไว้ทำไม” เป็นกระแสขึ้นมาเป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับทหารในมิติต่าง ๆ เช่น เมื่อทหารเข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้น (เช่น การช่วยเหลือประชาชน หรือการรบ) รวมถึงในกรณีที่ทหารทำให้เกิดข้อกังขาต่อคนสังคม (เช่น กรณีศาลทหารตัดสินคดี #น้องเมย)
หากพิจารณาที่กระแสความเห็น อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน คือ ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับคำถาม (พยายามชี้ให้เห็นบทบาทหน้าที่ของทหาร) และฝั่งที่เห็นด้วยกับคำถาม (ตั้งคำถามเพื่อวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของทหารบางส่วน)
28 มี.ค. 2568 : ทหารลงพื้นที่ช่วยเหลือเหตุการณ์แผ่นดินไหว
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลกระทบถึงกรุงเทพมหานคร เพจ กปปส. ลุมพินี รายงานถึงทหารที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว จากเหตุการณ์ #ตึกถล่ม โดยมีการใช้ #ทหารมีไว้ทำไม ควบคู่กัน เพื่อชี้ให้เห็นว่า ทหารมีไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชน บางส่วนแสดงความเห็นว่า “ได้คำตอบหรือยังว่า ทหารมีไว้ทำไม” หรือ “จำคำพูดนักการเมืองบางคนได้ อยากถามกลับจริง ๆ ว่ารู้หรือยัง” จากปรากฎการณ์นี้อาจทำให้ได้คำตอบว่า ทหารมีไว้ช่วยเหลือประชาชน
28 พ.ค. 2568 : เหตุการณ์ปะทะช่องบก
จากเหตุการณ์การปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาที่ช่องบก ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เพจ เชียร์ลุง รายงานสถานการณ์การปะทะ มีการระบุว่าเหตุการณ์นี้ เป็นการตบหน้าคนถาม “ทหารมีไว้ทำไม” อีกครั้ง เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงหน้าที่ของทหารไทยที่กระทำเพื่อรักษาเสถียรภาพและความสงบสุขของประชาชน
จากทั้ง 2 เหตุการณ์สะท้อนให้เห็นการใช้ #ทหารมีไว้ทำไม ในเพจที่สนับสนุนทหาร (เนื่องจากเนื้อหาที่นำเสนอและชื่อเพจ กปปส. ลุมพินี และเชียร์ลุง) เพื่อรายงานการทำงานของทหารระดับปฏิบัติการ (ทั้งลงพื้นที่ช่วยเหลือและลาดตระเวนตามชายแดน)
นอกจากนี้ ยังมีกรณี วิทยา แก้วภราดัย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ อวยพรในสภาฯ ให้ทหารไทยชนะกัมพูชา ระบุเป็นการพิสูจน์ว่า “ทหารมีไว้ทำไม” เนื่องจากถูกสบประมาทมานาน ซึ่งความคิดเห็นต่อประเด็นนี้แบ่งออกเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจน ทั้งมองว่า “ถ้า (ทหาร) ยึดอำนาจคืน น่าจะดี” และมองว่า “ยุค พล.อ.ประยุทธ์ ทหารมีไว้ยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ อยู่ในอำนาจ 8 ปี นิรโทษกรรมตัวเองและพวกพ้อง” ดังนั้นจึงมีทั้งคำตอบ ทหารมีไว้ป้องกันประเทศ และทหารมีไว้ยึดอำนาจ
9 มิ.ย. 2568 : วิวาทะ ธนกร-พิธา
จากกรณี วิวาทะของธนกรและพิธา โดยเริ่มจาก ธนกร วังบุญคงชนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุ “พิธา หายเงียบเข้ากลีบเมฆ อาจกลัวประชาชนย้อนถามไปถึงวลีเด็ดที่เคยใช้หาเสียงว่าทหารมีไว้ทำไม” ในขณะที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาโต้กลับว่า “ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ ไม่ใช่ปกครองประเทศ เราปกป้องทหารที่ปกป้องประเทศ ทหารอาขีพที่ยืนอยู่ข้างประชาชน แต่เราปฏิเสธทหารที่ปกครองประเทศ ใช้อำนาจนอกระบบทำรัฐประหาร”
ความคิดเห็นในโซเซียล แบ่งออกเป็นหลายฝ่าย บางส่วนไม่เห็นด้วยกับคำพูดของธนกร แต่เห็นด้วยกับคำพูดของพิธา ในขณะที่บางส่วนไม่เห็นด้วยกับคำพูดของพิธา แต่เห็นด้วยกับคำพูดของธนกร ดังนั้นคำตอบของคำถาม คือ ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ ไม่ใช่ปกครองประเทศ
23 มิ.ย. 2568 : พิธาแจงที่เคยปราศรัย “ทหารมีไว้ทำไม”
จากกระแสการปราศรัยเรื่องทหารมีไว้ทำไมของพิธา เมื่อตอนหาเสียงที่จังหวัดกาญจนบุรี ถูกหยิบยกมาพูดถึงเป็นจำนวนมาก ในวันที่ 23 มิ.ย. 2568 ซึ่งพิธาได้ให้สัมภาษณ์ใน รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ชี้แจงกรณีดังกล่าว ยืนยันเช่นเดิมว่า “ทหารมีไว้ป้องกันภัยคุกคามจากต่างประเทศ แต่ไม่ยุ่งกับการเมืองในประเทศ” เน้นย้ำให้ดูบริบทของการปราศรัยเมื่อตอนนั้น ที่ประชาชนชาวกาญฯ บางส่วนไม่พอใจที่เกิดกรณีพิพาททหารแย่งที่ดิน ปัญหาบ่อขยะ และสิทธิมนุษยชนในค่ายทหาร
เช่นเดียวกันกับกรณีก่อนหน้า คือมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับที่พิธามอง โดยเนื้อหาที่พิธาพูดปราศรัยในตอนนั้น ไม่เหมือนกับที่ให้สัมภาษณ์ออกรายการ จึงมองได้ว่าคำตอบคือ ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ ไม่ใช่ปกครองประเทศ
22 ก.ค. 2568 : ศาลทหารตัดสินคดี #น้องเมย
จากกรณีศาลทหารตัดสินคดี ของ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ #น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตอย่างปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย เมื่อปลายปี 2560 โดยศาลทหารชั้นฎีกาพิพากษายืนตามชั้นอุทธรณ์ ลงโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 15,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี
การตัดสินคดีของศาลทหารครั้งนี้นำมาสู่การตั้งคำถามว่า “ศาลทหารมีไว้ทำไม” และ “ทหารมีไว้ทำไม” โดยตั้งคำถามไปยังกลุ่มทหารที่แตะต้องไม่ได้ รวมถึงมองว่า “ควรปฏิรูปทหาร-ตำรวจ” อย่างไรก็ตาม บางส่วนตั้งคำถามกลับว่า “ถามพิธาหรือ ว่าทหารมีไว้ทำไม” หรือแสดงความเห็นว่า “อย่าด่าทหารเหมารวม” จึงอาจได้คำตอบว่า ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ, มองว่าควรมีการปฏิรูปทหาร-ตำรวจ
24 ก.ค. 2568 : เหตุการณ์ปะทะไทย-กัมพูชา
กรณีการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ส่งผลให้เห็นบทบาทของทหารในการป้องกันประเทศมากขึ้น นำมาสู่การตั้งคำถามอีกครั้งว่า พิธารู้หรือยังว่าทหารมีไว้ทำไม
ในขณะที่อีกฝ่าย ก็ได้นำเนื้อหากรณีที่พิธาเคยชี้แจงเมื่อ 9 มิ.ย. 2568 มาพูดถึงอีกครั้ง โดยมองว่าพิธาไม่ได้เหมารวมทหารทุกนายว่า “ทหารมีไว้ทำไม” แต่เลือกปกป้องทหารที่ยืนหยัดในหน้าที่ เคารพสิทธิมนุษยชน และอยากเห็นทหารที่ยืนข้างประชาชน ไม่ใช่เหนือประชาชน ดังนั้นคำตอบ คือ ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ, ไม่ได้เหมารวมทหารทุกนาย
29 ก.ค. 2568 : วิวาทะ “ทหารมีไว้ทำไม” ยังไม่จบ
แบ่งเป็น 2 ฝั่งเช่นเคย โดยมีโพสต์ของแต่ละฝั่งที่ได้ความสนใจมากทั้งคู่ เช่น ฝั่งที่เห็นด้วยกับคำถาม ระบุว่า รู้แล้วว่าทหารมีไว้รบ ปกป้องประเทศ ไม่ใช่ยึดอำนาจ แทรกแซงการเมือง นั่งบอร์ดบริหาร ความเห็นบางส่วนมองว่า “เซ็งที่ยังมีคนอวยรัฐประหารอยู่อีก” หรือบอกว่า “ทหารบริหารประเทศไม่ได้ เพราะก็เห็นผลงานแล้ว”
ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับคำถาม ระบุว่า ไม่สงสัยแล้วว่า “ทหารมีไว้ทำไม” แต่สงสัยว่า “รัฐบาลมีไว้ทำไม” แทน โดยความเห็นบางส่วนมองว่า “รัฐบาลมีท่าทีที่ช้า” หรือถึงขั้นว่ามองว่า “รัฐบาลขายชาติ”
นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์สถานการณ์ โดย ผศ. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส ระบุว่า สิ่งหนึ่งที่เป็นบทเรียนคือ ไอโอฝั่งกัมพูชามีความสามัคคี ในขณะที่ไอโอฝั่งไทยมาตีกันเอง เช่น การขุดข่าวเก่าว่าพรรคประชาชนเคยพูดว่า “ทหารมีไว้ทำไม” ขึ้นมา เพื่อเล่นงานกันเองในประเทศ ถือเป็นบทเรียนในการใช้ความจริงในการสู้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงอาจตอบได้ว่า ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ ไม่ใช่ยึดอำนาจ, ตั้งคำถามต่อว่ารัฐบาลมีไว้ทำไม
4 ส.ค. 2568 : ทบ. ปล่อยเพลง “ทหารมีไว้ทำไม”
เพจเฟสบุ๊ค กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ปล่อยเพลงทหารมีไว้ทำไม ระบุเพื่อเป็นตัวแทนประชาชนในการส่งกำลังใจให้เหล่าทหารกล้าที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ณ ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการย้อนกลับคนที่ถามคำถามว่า “ทหารมีไว้ทำไม ?” ซึ่งอาจได้คำตอบ คือ ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ
สรุปความเห็น 2 กระแส :
แท้จริงแล้ว เราต่างรู้ว่า “ทหารมีไว้ทำไม”
หากสรุปอย่างรวดเร็ว แท้จริงแล้วทั้ง 2 ฝ่ายต่างรู้ว่า “ทหารมีไว้ทำไม” แต่มีการถามกลับไปมา หยิบยกประโยคคำถามนี้ในการชี้ให้เห็นสิ่งที่อยากให้เห็นและให้น้ำหนักประเด็นแตกต่างกันออกไป ดังนี้
ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับคำถาม “ทหารมีไว้ทำไม”
- พยายามตอบคำถาม “ทหารมีไว้ทำไม” เช่น มีไว้ปกป้องประเทศ, ช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ต่าง ๆ หรือออกรบในสถานการณ์ปัจจุบัน
- วิจารณ์และเหน็บแนมคนที่ตั้งคำถาม “ทหารมีไว้ทำไม” เช่น พิธา, นักการเมือง หรือผู้คนบนโลกโซเชียล ว่า “รู้หรือยังว่าทหารมีไว้ทำไม”
- เมื่อเห็นแล้วว่าทหารมีไว้ทำไม จึงนำไปสู่การถามกลับว่า “แล้วนักการเมือง (หรือรัฐบาล) มีไว้ทำไม”
ฝั่งที่เห็นด้วยกับคำถาม
- รู้และเห็นด้วยว่า ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ
- อธิบายว่า ที่ตั้งคำถามว่า “ทหารมีไว้ทำไม” กับทหารบางส่วนที่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำหรือทำในสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง เช่น ก่อการรัฐประหาร, ปกครองประเทศ หรือฉักรัฐธรรมนูญ
- บางส่วนระบุ รู้นานแล้วว่า “ทหารมีไว้ทำไม” แต่ที่พูดและตั้งคำถามต่อ เพราะมีคนบางส่วนเชียร์ให้ทหารกลับมาบริหารประเทศ (อาจเป็นเชิงการต่อต้าน)