คนไทยบริโภคโซเดียมเกินมาตรฐาน ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เกือบ 2 เท่า (เฉลี่ย 3,636 มก.ต่อวัน เกินกว่าที่ WHO แนะนำ 2,000 มก. ต่อวัน) เสี่ยง โรคหัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งถือเป็นสาเหตุการตาย 2 อันดับแรกของคนไทย
การลดบริโภคเค็ม จึงเชื่อว่าจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และสามารถลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ แต่การลดเค็ม ก็ไม่ควรเป็นภาระผู้บริโภคเท่านั้น ภาคอุตสาหกรรม ควรปรับสูตรลดโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารตามเกณฑ์ เพราะเชื่อว่าจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยจากความดันโลหิตสูง และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) จากสาเหตุการบริโภคโซเดียมเกินได้
The Active ชวนอ่านข้อมูลเพื่อสุขภาพ กับการสร้างความเข้าใจในประเด็นการบริโภคเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค NCDs โดยเริ่มต้นจากการลดและจำกัดปริมาณโซเดียมในแต่ละวัน

กินเค็มเกิน เสี่ยงตาย! คนไทยบริโภคโซเดียมเกิน 2 เท่า
จากการ วิจัยประชากรและสังคม สู่ Real-World Impacts สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เก็บข้อมูล พบว่า ในช่วงปี 2552-2562 โรคหลอดเลือดสมอง และ โรคหัวใจขาดเลือด เป็นสาเหตุการตาย 2 อันดับแรกของคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 พบว่า คนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจ และหลอดเลือด ถึง 124,000 คน หรือร้อยละ 23 ของการเสียชีวิตทั้งหมด
โดยในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน คือ ในปี 2562-2563 สำรวจพบ คนไทยบริโภคโซเดียม เฉลี่ยมากถึง 3,636 มิลลิกรัม (มก.) ต่อวัน ซึ่งสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม (มก.) ต่อวัน โดยการบริโภคโซเดียมที่มากเกินไป เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของ ภาวะความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด รวมถึง โรคไตเรื้อรัง
กินขนาดนี้ เค็มขนาดไหน ?

จากข้อมูลยังพบว่า ปริมาณโซเดียม 2,000 มก. เทียบเท่ากับ เกลือ 5 กรัม หรือ (1 ช้อนชา) เท่านั้น การจะบริโภคไม่ให้เกิน 2,000 มิลลิกรัม (มก.) ต่อวัน จึงจำเป็นต้องรู้ว่าอาหารแต่ละชนิดมีปริมาณโซเดียมเท่าไร ? มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงก่อโรคโดยไม่รู้ตัว โดยข้อมูลที่อ้างอิงอยู่ใน วิจัยประชากรและสังคม สู่ Real-World Impacts ระบุ ตัวอย่างของปริมาณโซเดียมในเครื่องปรุงรส อาหารสำเร็จรูป และขนม แต่ละชนิด เช่น
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
โซเดียม 1,300 มก. - ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
โซเดียม 1,260 มก. - ผงปรุงรส 1 ช้อนชา (5 กรัม)
โซเดียม 815 มก. - ผงชูรส 1 ช้อนชา (5 กรัม)
โซเดียม 600 มก. - บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซอง (55 กรัม)
โซเดียม 1,250 มก. - ขนมคบเคี้ยว 1 ซองใหญ่ (โดยเฉลี่ย) (100 กรัม)
โซเดียม 500 มก.
ปรับสูตร ลดโซเดียม ลดป่วยความดันโลหิตสูง

ผลการศึกษาผ่านกระบวนการวิจัยดังกล่าว ยังพบอีกว่า ถ้าลองคำนวณปริมาณโซเดียมเฉลี่ย และ การคำนวณความดันโลหิตตัวบนของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า หากภาคอุตสาหกรรมปรับเปลี่ยนสูตรลดโซเดียมในผลิตภัณฑ์ ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยว จะสามารถลดความดันโลหิตสูง ได้มากกว่า 85,000 คน
โดยการปรับสูตร ลดโซเดียม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพียงอย่างเดียว ให้สอดคล้องกับเกณฑ์ HCL ที่กำหนดปริมาณโซเดียม ไม่เกิน 2,000 มก.ต่อผลิตภัณฑ์ 100 กรัม จะสามารถลดจำนวนผู้ป่วยความดันโลหิตสูงได้ถึง 54,000 คน ซึ่งลดได้สูงสุดในกลุ่มอายุ 50-54 ปี
ส่วนการปรับสูตร ลดโซเดียมใน ขนมขบเคี้ยว รูปแบบต่าง ๆ จากการวิจัยพบว่า จะสามารถลดจำนวนผู้ป่วยความดันโลหิตสูงได้ 31,000 คน ลดสูงสุดได้ในกลุ่มอายุ 45-49 ปี โดยการปรับสูตรตามผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของโซเดียมแตกต่างกัน ประกอบด้วย
- มันฝรั่งทอดกรอบ ขนมขึ้นรูปทอดกรอบ ข้าวทอด และป๊อปคอร์น โซเดียมไม่เกิน 500 มก. ต่อผลิตภัณฑ์ 100 กรัม
- กลุ่มขนมขบเคี้ยวรสเค็มจากธรรมชาติ ประกอบด้วย ปลาเส้น และสาหร่ายปรุงสำเร็จ โซเดียมไม่เกิน 500 มก.ต่อผลิตภัณฑ์ 100 กรัม
- ถั่ว โซเดียมไม่เกิน 100 มก. ต่อผลิตภัณฑ์ 100 กรัม
ลดโซเดียม ต้องไม่ผลักภาระให้ผู้บริโภค ภาคอุตสาหกรรม ต้องร่วมรับผิดชอบ
งานวิจัยชิ้นนี้ยังมีข้อเสนอแนะในเชิงนโยบาย ให้ไทยใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์ อย่างการเก็บภาษี ควบคู่กับการให้ข้อมูลด้านสุขภาพ เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในอนาคต โดยเสนอให้
- กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ควรมีมาตรการจัดเก็บภาษี ผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมสูง
1.1 เป็นหนึ่งในมาตรการภาษีด้านสุขภาพ (health tax) กระตุ้นให้ภาคอุตสาหรรมปรับลดสูตรโซเดียม และช่วยลดผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ลดการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด รวมถึงโรคไตเรื้อรัง
1.2 เป็นมาตรการที่สร้างสภาพแวดล้อมทางอาหารภายในประเทศให้เอื้อต่อการเข้าถึงอาหารที่มีประโยชน์ต่อสูขภาพของประชาชนมากยิ่งขึ้น - ภาครัฐ หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการทางภาษี ควบคู่กับการดำเนินมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี เช่น การให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับผลดีทางสุขภาพของการลดโซเดียม เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนบุคคลอย่างยั่งยืน
The Active ชวนติดตามคำอธิบายเรื่องนี้เพิ่มเติมจาก ผศ.พจนา หันจางสิทธิ์ อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ในรายการ The Resources (วิจัยใกล้ตัว) ทาง Thai PBS (26 ส.ค. 68)
- อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : วิจัยประชากรและสังคมสู่ Real-World Impacts