การรอคอยกำลังจะสิ้นสุดลง เมื่อการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จะเกิดในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ โดยผู้ประกันตนทุกมาตราที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งกว่า 9 แสนคน สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และคูหาเลือกตั้งผ่านเว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม
การเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้ประกันตนจะได้เลือกผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน 7 คน ขณะที่ฝ่ายนายจ้างจะได้เลือกผู้แทนฝ่ายนายจ้าง 7 คน โดยในบัตรจะมีช่องให้ “เขียน” เลขอารบิกของหมายเลขผู้ลงสมัครที่ชื่นชอบ (หากกากบาท จะเป็นบัตรเสียทันที) และผู้ใช้สิทธิต้องจด “จำ” หมายเลขให้ได้ เพราะหน่วยเลือกตั้งไม่อนุญาตให้นำเอกสารเข้าไปในคูหา
แล้วจะไปตามอ่านนโยบายที่ไหนได้บ้าง? เมื่อสำนักงานประกันสังคมได้เปิดเผยเฉพาะข้อมูลพื้นฐานของผู้ลงสมัคร The Active จึงรวบรวมข้อมูลนโยบายของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมฝ่ายผู้ประกันตน และจำนวนตัวแทนผู้ประกันตนของแต่ละมาตรา พร้อมสำรวจแนวโน้มภาพรวมนโยบาย เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเข้าคูหาในวันที่ 24 ธันวาคม นี้
ผู้ลงสมัครบอร์ดประกันสังคมมาจากไหน มีนโยบายอะไรบ้าง
ตามเอกสารของสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยเพียงข้อมูลพื้นฐานของผู้ลงสมัครบอร์ดประกันสังคม ได้แก่ จำนวนผู้ลงสมัคร หมายเลขผู้ลงสมัคร ชื่อ-นามสกุล และมาตราผู้ประกันตนที่สังกัดอยู่ จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า มีผู้ลงสมัครบอร์ดประกันสังคม (ฝ่ายผู้ประกันตน) ถึง 247 คน ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ 228 คน แบ่งเป็นตัวแทนผู้ประกันตนมาตรา 33 ทั้งสิ้น 183 คน (80.3%), ตัวแทนผู้ประกันตนมาตรา 39 มี 38 คน (16.7%) และตัวแทนผู้ประกันตนมาตรา 40 มีเพียง 7 คน (3.1%) เท่านั้น
ขณะที่จำนวนผู้ประกันตนในเดือนพฤศจิกายนปี 2566 มีทั้งสิ้น 24,629,568 คน แบ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 คือ 11,868,817 คน (48.2%), มาตรา 39 คือ 1,805,655 คน (7.3%) และ มาตรา 40 คือ 10,955,096 คน (44.5%) จากสัดส่วนดังกล่าวจะพบว่า ผู้ประกันตนมาตรา 40 นั้นมีจำนวนพอ ๆ กับมาตรา 33 แต่กลับมีตัวเลือกของผู้แทนที่มาจากมาตราเดียวกันน้อยกว่ามาก ด้วยสัดส่วนที่ไม่สอดคล้องกันเช่นนี้ จึงน่าสนใจว่าจะส่งผลต่อความพยายามปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนของกลุ่มนั้น ๆ หรือไม่
จากการรวบรวมข้อเสนอเชิงนโยบายบนเวที “เลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม ปฏิรูปอะไร? อย่างไร?” จัดโดยวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับมูลนิธิแรงงานไทยและเครือข่ายสื่อมวลชน โดยมีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งจาก 9 ทีม และ 2 ผู้ลงสมัครอิสระร่วมแสดงวิสัยทัศน์ทางนโยบายในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 โดยมีจำนวนนโยบายทั้งหมด 116 นโยบาย แบ่งเป็น 11 หมวดหมู่ 20 กลุ่มนโยบาย (1 นโยบายอาจเป็นได้มากกว่า 1 กลุ่มนโยบาย) ดังนี้
- ยกระดับสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน 60 ข้อ (51.7%)
- พัฒนาสิทธิการรักษาพยาบาล 20 ข้อ
- ส่งเสริมสิทธิเพื่อการมีบุตร 15 ข้อ
- พัฒนาสิทธิบำเหน็จ บำนาญ ชราภาพ 12 ข้อ
- ส่งเสริมสวัสดิการช่วยเหลือกรณีว่างงาน 6 ข้อ
- ส่งเสริมสิทธิการลา 4 ข้อ
- อุดหนุนค่าทำศพ กรณีเสียชีวิต 2 ข้อ
- พัฒนาสิทธิผู้พิการ 1 ข้อ
- จัดหาให้มีบริการธุรกรรมทางการเงิน 10 ข้อ (8.6%)
- จัดตั้งธนาคารแรงงาน ผู้ประกันตน 5 ข้อ
- ให้บริการสินเชื่อ ค้ำประกัน 5 ข้อ
- เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บและจ่ายเงินสมทบ 10 ข้อ (8.6%)
- เร่งรัดเงินสมทบกองทุนจากรัฐบาล 4 ข้อ
- เพิ่มอัตราเงินสมทบจากรัฐบาล 3 ข้อ
- ลดภาระเงินสมทบของผู้ประกันตน 3 ข้อ
- ทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นอิสระ 10 ข้อ (8.6%)
- ปรับโครงสร้างการทำงานของกองทุนให้คล่องตัวและมั่นคง 5 ข้อ (4.3%)
- ปรับการลงทุนและการใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ 4 ข้อ (3.4%)
- ปรับฐานการคำนวณ เพื่อขยายสิทธิเงินบำนาญ 4 ข้อ (3.4%)
- ปรับสิทธิทุกมาตราให้ทัดเทียมกัน 3 ข้อ (2.5%)
- ยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานประกันสังคม 2 ข้อ (1.7%)
- ยกระดับระบบประกันสังคม สู่สวัสดิการถ้วนหน้า 2 ข้อ (1.7%)
- อื่น ๆ 4 ข้อ (3.4%)
จากภาพรวมของนโยบายสะท้อนว่า ครึ่งหนึ่งของข้อเสนอในแต่ละทีมและผู้ลงสมัคร คือความหวังอยากยกระดับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 7 สิทธิด้วยกัน ได้แก่ สิทธิค่ารักษาพยาบาล สิทธิเบี้ยกรณีว่างงาน สิทธิเบี้ยผู้พิการ สิทธิเบี้ยชราภาพ สิทธิรับเงินสงเคราะห์บุตร สิทธิรับเงินค่าทำคลอด และสิทธิรับเงินกรณีเสียชีวิต ในบรรดาสิทธิทั้ง 7 ข้อนี้ พบว่า นโยบายพัฒนาสิทธิการรักษาพยาบาลนั้นถูกพูดถึงมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายส่งเสริมสิทธิเพื่อการมีบุตร และนโยบายพัฒนาสิทธิบำเหน็จ บำนาญ ชราภาพ ขณะที่นโยบายพัฒนาสิทธิให้ผู้พิการยังไม่ถูกพูดถึงเท่าไหร่นัก
นอกจากนโยบายพัฒนาสิทธิประโยชน์แล้ว หลายทีมผู้ลงสมัครยังเสนอให้มีการจัดหาให้มีบริการธุรกรรมทางการเงิน เช่น การจัดตั้งธนาคารแรงงาน ให้บริการสินเชื่อที่เอื้อผลประโยชน์ให้ผู้ประกันตน เป็นต้น มีนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บและจ่ายเงินสมทบ เช่น เพิ่มอัตราเงินสมทบจากฝ่ายรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ประกันตนต้องส่งเงินในอัตราส่วนมากกว่ารัฐบาล และมีความล่าช้าจากภาครัฐในการส่งเงินสมทบ หากบอร์ดประกันสังคมสามารถเร่งรัดได้ จะทำให้กองทุนสามารถมีเงินมาหมุนเวียนแจกจ่ายสิทธิประโยชน์ได้มากขึ้น
นโยบายทำงานความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นอิสระ เป็นอีกประเด็นที่พูดกันมากในวงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพราะกองทุนประกันสังคมมีมูลค่าสูงถึง 2.27 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศ และยังสร้างเงินปันผลต่อปีได้พอ ๆ กับงบฯ ของกระทรวงแรงงาน แต่กลับมีการดำเนินงานเหมือนเป็นแดนสนธยา ประชาชนยากที่จะเข้าถึงและตรวจสอบการทำงานได้ ผู้ลงสมัครหลายทีมย้ำว่าถ้าได้เข้าเป็นตัวแทน จะเปิดให้บอร์ดประกันสังคมสามารถเข้าถึงง่าย ตรวจสอบได้ และเป็นอิสระจากการครอบงำของรัฐ
ดูเพิ่ม
- บัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้าง
- บัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน
รวมนโยบาย 9 ทีม และ 2 ผู้ลงสมัครอิสระ
ทีม 3 ขอต้องไปต่อ หมายเลข 8, 21, 57, 58, 95, 177
- ประกันสังคมค้ำประกันเงินกู้ร้อยละ 50 ให้ผู้ประกันตน
- ประกันสังคมดำเนินธุรกิจการเงินขนาดย่อมแก่ประชาชนทั่วไปได้ เช่นฝาก ถอน สินเชื่อ ขายประกัน โดยให้สิทธิพิเศษกับผู้ประกันตน
- กองทุนประกันสังคมโปร่งใส รายงานผลดำเนินงานทุกเดือน
- มาตรา 40 ใช้สิทธิประโยชน์รักษาพยาบาลได้
- การคำนวณบำนาญชราภาพที่เป็นธรรมกับทุกมาตรา
- บำเหน็จชราภาพต้องได้ในส่วนของรัฐบาลทุกเดือนและทุกปี
- มาตรา 33 และ 39 เลือกส่งสมทบได้ตามชอบ
- รักษาพยาบาลฟรีกับ โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง
- เอกชนรักษาได้เดือนละ 2,000 บาท
- เลือกเงินชราภาพบำเหน็จหรือบำนาญได้
- ขอคืนเงินชราภาพร้อยละ 50 ได้ก่อนอายุ 55 ปี
- ผู้รับบำนาญชราภาพไม่ถูกตัดสิทธิรักษาพยาบาลกับประกันสังคม
- ประกันสังคม รับจดแจ้งและจัดเก็บรายชื่อผู้รับประโยชน์ (รับมรดก) ของผู้ประกันตนอย่างเป็นระบบ
ทีมเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน หมายเลข 2, 5, 7, 9, 43, 45, 60
- สนับสนุนให้มีการจัดตั้งธนาคารแรงงาน
- ปฏิรูปการลงทุนประกันสังคม
- สนับสนุนการจัดตั้งสถาบันทางการแพทย์
- พัฒนาสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาล
- ขยายสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตน
ทีมประกันสังคมก้าวหน้า หมายเลข 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33
- สินเชื่อที่อยู่อาศัย วงเงิน 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.99%
- มุ่งหน้าสู่การเป็นองค์กรอิสระ ตรวจสอบได้ เน้นการมีส่วนร่วมของคนทุกระดับ โดยเฉพาะผู้ประกันตน
- วางเงื่อนไขการลงทุน และบริษัทคู่สัญญา มีธรรมาภิบาล การลงทุนขนาดใหญ่ต้องตรวจสอบได้ ยึดโยงกับผู้ประกันสังคม คัดเลือกคู่สัญญาด้วย Decent Work
- สูตรคำนวณบำนาญใหม่ เพื่อบำนาญที่เป็นธรรม
- ประกันสังคมถ้วนหน้า พื้นฐานสำหรับแรงงานอิสระทั้งระบบ วางระบบระยะยาวใน 2 ปี
- พัฒนาบัญชียาเดียวกัน ไม่น้อยกว่า ราชการและบัตรทอง ไม่ต้องสำรองจ่ายทุกกรณี
- สิทธิทันตกรรม รักษารากฟันเทียม เชื่อมโยงกับ สปสช. เหมาจ่าย 17,500 บาท ตลอดการรักษา
- ปรับเงื่อนไขการรับบำนาญ บำเหน็จ แรงงานข้ามชาติเข้ากับสภาพการทำงาน รวมทั้งปรับเงื่อนไขให้แรงงานข้ามชาติมีสิทธิเลือกตั้งและสมัคร เป็นบอร์ดประกันสังคม
- ขยายสิทธิประโยชน์คนพิการ ไม่ตัดสิทธิการใช้ร่วมกับสวัสดิการอื่น รักษาพยาบาลได้ทุกที่
- เพิ่มประกันการว่างงาน สูงสุด 9 เดือน
- ชดเชยการลา เพื่อดูแลคนในครอบครัว วันละ 300 บาท
- เพิ่มค่าคลอดบุตร เป็น 20,000 บาทต่อครั้ง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สนับสนุนสิทธิลาคลอด 180 วัน
- เพิ่มค่าสงเคราะห์เด็ก 0-6 ปี จาก 800 เป็น 1,000 บาทต่อเดือน
- เพิ่มเงินดูแลเด็ก 7-12 ปี ปีละ 7,200 บาท
ทีมประกันสังคมเพื่อแรงงานไทย หมายเลข 49, 50, 51, 52, 53, 54, 55
- จัดตั้งธนาคารแรงงาน หรือ สถาบันการเงินของประกันสังคม เพื่อให้บริการทางการเงินแก่ผู้ประกันตน
- สำนักงานประกันสังคมต้องเป็นองค์กรอิสระ มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้
- ปรับกลยุทธ์ในการบริหารจัดการกองทุนประกันสังคมอย่างมืออาชีพ ลดความเสี่ยง มีระบบตรวจสอบที่ผู้ประกันตนเข้าถึงข้อมูล เพื่อความมั่นคงของกองทุน
- พัฒนาสิทธิประโยชน์มาตรา 33, 39, 40 ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
- รัฐบาลต้องจ่ายเงินสมทบ 5 % เท่ากับฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้าง และ เร่งรัดนี้เงินสมทบค้างจ่ายจากรัฐบาล
- แก้ไขระเบียบข้อบังคับการบริหารพนักงานประกันสังคม ยกเลิกการจ้างงานระยะสั้น ให้พนักงานมีความก้าวหน้าในอาชีพ และปรับปรุงสิทธิสวัสดิการทั้งขณะปฏิบัติงาน และเกษียณอายุ
- เพิ่มเบี้ยบำนาญชราภาพไม่น้อยกว่า 10,000 บาทต่อเตือน เพื่อการยังชีพที่มั่นคง สมศักดิ์ศรีคนทำงาน
- ผู้ประกันตนที่ว่างงานทุกกรณี ต้องได้รับประโยชน์เงินทดแทนร้อยละ 50 ของฐานค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 6 เดือน
- เพิ่มประโยชน์ทตแทนกรณีคลอดบุตรเป็น 20,000 บาท
- เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรเป็น 3,000 บาทต่อเตือน ถึงอายุ 7 ปี
ทีมพลังแรงงานสหกรณ์ หมายเลข 116, 120, 121, 122, 125, 126, 129
- มีธนาคารสำหรับผู้ประกันตน
- มีสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับผู้ประกันตนดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี
- ลดบทบาทอำนาจรัฐที่ควบคุมกำกับเป็นการส่งเสริมให้มีอิสระ และปกครองตนเอง
- ลดการครอบงำจากการการเมือง ต้องสร้างและใช้ผลประโยชน์กันเองภายในองค์กร
- ลดค่าใช้จ่ายประจำที่เกิดขึ้นจากการบริหาร
- ลดอัตราเงินสงเคราะห์ของผู้ประกันตนเหลือ 2.75%
- ให้รัฐบาลเพิ่มเงินสมทบเป็น 5%
- ยกระดับประกันสังคมสู่รัฐสวัสดิการ
- การรักษาพยาบาล กรณีการเจ็บป่วยและทุพพลภาพ เพิ่มสิทธิรักษาได้ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศโดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย
- เพิ่มสิทธิในการทำฟันเป็น 1,500 บาท
- สร้างโรงพยาบาลประกันสังคมให้กับผู้ประกันตนเข้าถึงง่ายสะดวก
- กรณีชราภาพ เพิ่มเบี้ยบำนาญชราภาพไม่น้อยกว่า 10,000 บาทต่อเดือน
- ผู้ประกันตนสามารถเลือกสิทธิประโยชน์ตามความต้องการ รับบำเหน็จ บำนาญกองทุนชราภาพ
- กรณีการว่างงาน รับเงินทดแทน 50% ของค่าจ้างไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- กรณีการสงเคราะห์บุตร เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรเป็น 3,000 บาท ถึงอายุ 10 ปี
- การคลอดบุตร เพิ่มประโยชน์ทดแทนคลอดบุตรเป็น 20,000 บาท ลาคลอดเลี้ยงดูบุตรได้ 120 วัน
- มีกองทุนเพื่อการศึกษา (เรียนฟรี) ของบุตรผู้ประกันตนจนจบปริญญาตรี
- กรณีการเสียชีวิต รับเงินค่าจัดการศพรายละ 300,000 บาท
ทีมแรงงานเพื่อสังคม หมายเลข 90, 100, 101, 102, 103, 104, 109
- เพิ่มสิทธิประโยชน์ทันตกรรม
- เพิ่มสิทธิประโยชน์รักษาพยาบาล
- เพิ่มสิทธิประโยชน์ชราภาพ
- ยกเลิก R5 (ประเภทของสาเหตุที่นายจ้างแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน) ทำให้ไม่มีสิทธิรับเงินว่างงาน
- เพิ่มสิทธิประโยชน์ว่างงาน
- เพิ่มสิทธิประโยชน์สงเคราะห์บุตร
- สานต่อนโยบาย 3 ขอ : ขอคืน ขอกู้ ขอเลือก
ทีมสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย หมายเลข 3, 12, 13, 14, 15, 16, 17
- ปรับฐานคำนวณ เพิ่มเงินบำนาญ
- ขยายฐานค่าจ้าง เพื่อคำนวณบำนาญเป็น 18,000 บาท
- ฐานการคำนวณเงินบำนาญ ม.39 จะต้องอยู่คงที่ในวันที่สิ้นสุดของการเป็น ม.33
- ปรับสิทธิประโยชน์เพิ่มให้กับผู้ประกันตน ม.40
- ปรับสิทธิประโยชน์ให้กับพนักงานประกันสังคมได้รับเพิ่มขึ้นและเป็นธรรม
- ให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยตั้งแต่วันแรกที่เป็นผู้ประกันตน
- ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ
- ผู้ประกันตนที่รับประโยชน์ทดแทนชราภาพแล้ว ต้องสามารถได้รับสิทธิรักษาพยาบาลตลอดชีวิต
- จัตตั้งโรงพยาบาลประกันสังคม โดยให้เป็นสถาบันกลางทางการแพทย์เฉพาะทาง
- ให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตรร้อยละ 50 ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 98 วัน ตามประกาศรัฐบาล
- ส่งเสริมสิทธิการลาคลอด 180 วัน
ทีมสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย หมายเลข 83, 84, 85, 86, 87, 88, 89
- ตั้งธนาคารสำหรับผู้ประกันตน
- เป็นองค์กรอิสระปราศจากการครอบงำจากภาครัฐและการเมือง
- ปรับลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตน เหลือ 2.76%
- สร้างโรงพยาบาลประกันสังคมและสถาบันการแพทย์ให้กับผู้ประกันตน
- เพิ่มเงินบำนาญชรากาพไม่น้อยกว่า 10,000 บาท/เดือน
- เลือกสิทธิประโยชน์ รับนำเหน็จ หรือ บำนาญ กองทุนชรากาพ
- เพิ่มกองทุนสงเคราะห์บุตร เป็น 3,000 บาท จนถึงอายุ 12 ปี
- สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ประกับตน ดอกเบี้ยไม่เกิน 1%
- เพิ่มเงินช่วยเหลือคำปลงศพ เป็น 100,000 บาท
ทีมสมานฉันท์แรงงานไทย หมายเลข 4, 6, 10, 11, 19, 22, 23
- จัดตั้งธนาคารของผู้ประกันตน
- ประกันสังคมต้องอิสระ โปร่งใส และตรวจสอบได้
- มีระบบตรวจสอบเข้าถึงข้อมูล เพื่อความมั่นคงของกองทุน
- ผู้ประกันตน ม. 33, 39, 40 ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน
- รัฐบาลต้องจ่ายเงินสมทบ 5 %
- เร่งรัดหนี้ค้างจ่ายของรัฐบาล
- รักษาพยาบาลไต้ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ
- รับสิทธิชราภาพแล้ว รักษาฟรีตลอดชีพ
- จัดตั้งโรงพยาบาลประกันสังคม
- เพิ่มเบี้ยบำนาญชราภาพ 10,000 บ./เดือน
- ว่างงานรับเงินทดแทน 50% รวม 6 เดือน
- รับเงินสงเคราะห์บุตร 50% รวม 98 วัน
- เพิ่มเงินทดแทนการคลอดบุตร 20,000 บาท
- เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร 3,000 บ./เดือน ถึงอายุ 7 ปี
- เลิกจ้างงานระยะสั้น เพิ่มสวัสติการ และเส้นทางก้าวหน้า
ผู้สมัครอิสระเลข 113
- วางระเบียบและการพิจารณางบการเงิน ให้การใช้จ่ายทุกครั้งโปร่งใสและคุ้มค่า ทั้ง 5,500 ล้านบาทว่าใช้จ่ายคุ้มค่าหรือไม่
- เพิ่มสภาพคล่องของกองทุนประกันสังคม โดยการปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง
- สร้างรายได้เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการปรับโครงสร้าง
ผู้สมัครอิสระเลข 48
- คุ้มครองสิทธิ์ของผู้ประกันตน ทำให้กองทุนสะดวกและโปร่งใสต่อผู้ประกันตนมากขึ้น
- เปิดเผยผลการประชุมบอร์ดประกันสังคมทุกครั้งเพื่อให้เกิดความโปร่งใสต่อผู้ประกันตน
- ส่งเสริมความมั่นคงของกองทุนประกันสังคม
- มีแผนปฏิรูปและขั้นตอนในการเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจน
- เร่งรัดเงินสมทบค้างจ่ายจากรัฐบาล
- ระมัดระวังการเพิ่มสิทธิประโยชน์เชิงรุกเพราะอาจกระทบต่อสัดส่วนผู้สูงอายุที่เป็นผู้ประกันตนในอนาคตอันใกล้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง