ถนนทรุด เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เกิดขึ้นบ่อย ๆ ตอกย้ำความเสี่ยงคนกรุงที่ยังต้องใช้เส้นทางสัญจรทุกวัน…ปัญหาพื้นดินยุบ ถนนแตก หรือการซ่อมแบบเฉพาะหน้า กลายเป็นภาพคุ้นตา ที่สะท้อนถึงการจัดการเมืองที่ยังไม่เคยแก้ได้จริง
ถนนทรุดเกิดจากอะไร ? โครงการก่อสร้างใต้ดิน ระบบสาธารณูปโภค หรือมาตรฐานงาน ที่ไม่ได้คุมเข้มตั้งแต่ต้น ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ หรือความเสียหาย เรามักเห็นการแก้ปัญหาเฉพาะจุด แต่คำถามคือ ใคร ? ต้องตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานทั้งเมือง ที่คนกรุงต้องพึ่งพาในชีวิตประจำวัน

เมื่อถนนที่ควรปลอดภัย กลายเป็น “กับดัก” ของผู้ใช้เส้นทาง ถึงเวลาแล้วหรือยัง ? ที่จะถามหามาตรฐานการก่อสร้าง และระบบตรวจสอบที่จริงจัง เพื่อให้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ต้องเสี่ยงบนถนนที่ไม่รู้ว่าจะ “ทรุด” ลงไปต่อหน้าต่อตาตอนไหน ?
The Active ชวนย้อนดูหลายเหตุการณ์ ถนนทรุด ดินทรุด ที่ทำให้ชีวิตคนกรุงเทพฯ – ปริมณฑล อยู่บนความเสี่ยง
3 พ.ย. 2564 หน้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 82 เขตบางพลัด กทม.
ถนนทรุดตัว กว้าง 3 เมตร ลึก 30 เซนติเมตร เนื่องจากดินหน้าบ่อพักท่อร้อยสายไฟยุบกลางดึก ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 คน รถยนต์และรถจักรยานยนต์เสียหายรวม 2 คัน
26 ก.พ. 2565 ซ.อุดมสุข 51-53 ถ.อุดมสุข ช่วงเชิงทางขึ้นสะพานข้ามคลองเค็ด เขตบางนา กทม.
เกิดการทรุดตัวเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร ลึก 1 – 2 เมตร ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างอาคารรับน้ำในโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน 5 หลัง เสาไฟฟ้าล้มเอียง กระทบประชาชน 30 คน รวมถึงผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยที่รับอาหารทางสายยางที่ต้องอพยพย้ายออกจากอาคาร
11 ก.ย. 2565 ถ.แจ้งวัฒนะ บริเวณหน้า Health Land จ.นนทบุรี
ถนนทรุดตัวเป็นโพรงลึกกว้าง 2 เมตร ยาว 5 เมตร ลึก 2 เมตร หลังฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ดินและทรายไหลจนเกิดโพรงขนาดใหญ่

7 ก.ค. 2566 หน้าเซ็นทรัลรามอินทรา ถ.รามอินทรา เขตบางเขน กทม.
ฝาปิดบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าลงใต้ดินทรุดตัวขนาด 4 x 5 เมตร เนื่องจากชั้นดินไหลไปกับน้ำลงบ่อพักหลังฝนตกหนัก จนชั้นปูนที่ปิดปากบ่อทรุดตัว โดยจุดนี้มีโครงการก่อสร้าง 2 โครงการ คือการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และการก่อสร้างนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้า โดยก่อนหน้านั้นเกือบ 1 เดือน ถนนรามอินทราช่วง กม. 9 ก็เกิดการทรุดตัวกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร ทำให้รถยนต์ 1 คัน เกิดอุบัติเหตุ
6 เม.ย. 67 หน้าวัดบ่อ ตลาดปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ถนนหน้าทางเข้าวัดบ่อ ย่านปากเกร็ด ซึ่งเป็นจุดกลับรถใต้สะพานพระราม 4 ทรุดตัวลึก 4 เมตร ยาว 10 เมตร ลึก 2 เมตร มีรถจักรยานยนต์ประสบเหตุแต่ช่วยนำขึ้นมาได้ รวมถึงยังกระทบกับวัดที่มีการแตกร้าว กำแพงเอียง และได้ประเมินความเสียหายราว 5 ล้านบาท โดยจุดดังกล่าวกำลังก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งคาดว่าในการก่อสร้างมีการขุดดินและทรายออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ถมกลับไม่เพียงพอ
24 ก.ย. 68 หน้าวชิรพยาบาล เขตดุสิต กทม.
ถนนทรุดเป็นหลุมขนาดใหญ่ 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร เบื้องต้น ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ให้ข้อมูลว่า จุดเกิดเหตุคือบริเวณการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เป็นสถานีวชิรพยาบาล ซึ่งรถไฟใต้ดินจะมีอุโมงค์ 2 อุโมงค์แยกกัน อุโมงค์จะอยู่ 2 ระดับคือ -15 เมตร กับ -30 เมตร ซึ่งอุโมงค์มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6.5 เมตร จุดที่เกิดเหตุก็เป็นตัวสถานีที่มีลักษณะเหมือนกล่อง ลึกลงไป 30 เมตร และมีอุโมงค์เชื่อมกับสถานี โดยจุดเกิดเหตุเป็นจุดที่อุโมงค์เชื่อมต่อกับสถานี ซึ่งอุโมงค์ที่เกิดความเสียหายก็คืออุโมงค์ข้างบนที่ระดับ -15 เมตร เมื่อมีรอยแตกทำให้ดินไหลเข้าไปในส่วนของสถานี เมื่อดินไหลเข้าไปแล้วจึงเกิดช่องว่าง ทำให้ถนนเกิดการทรุดตัวลง และมีท่อประปาขนาดใหญ่แตก ทำให้น้ำชะเข้าไปชะล้างดินให้ไหลเข้าไปในอุโมงค์มากขึ้น