คดียังไม่ถึงที่สุด เตรียมเสนออัยการสูงสุด สั่ง “คดีบอส” ใหม่

คณะทำงานอัยการฯ แถลงพบพยานหลักฐานใหม่ โคเคนในเลือด – ขับรถเร็ว ยัน รองอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดี ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว

วันนี้ (4 ส.ค. 2563) ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอัยการไม่สั่งฟ้อง วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส คดีขับรถชน ดาบตำรวจ วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อ 8 ปีก่อน แถลงผลการตรวจสอบคดี โดยสรุปคำแถลงได้ดังนี้

คำสั่งไม่ฟ้องของรองอัยการสูงสุด เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว

กรณีที่ ‘เนตร นาคสุข’ รองอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ฟ้อง ‘วรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา’ ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คณะทำงานฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า การพิจารณาสั่งสำนวนคดีนี้ของรองอัยการสูงสุดเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว เนื่องจากนายเนตร ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดในงานคดีอัยการสูงสุดเฉพาะงานคดีร้องขอความเป็นธรรม ตามคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1515/2562 ลงวันที่ 1 ต.ค. 2562 เรื่อง การมอบหมายและมอบอำนาจให้รองอัยการสูงสุดปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด

ซึ่งในคดีนี้ วรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ได้ร้องขอความเป็นธรรมซึ่งมีข้อเท็จจริงและพยานบุคคลที่ระบุแจ้งชัด กรณีจึงเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 ซึ่งกำหนดให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเท่าที่สามารถจะทำได้ และเป็นไปตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2547 ข้อ 48 ที่ให้ผู้ต้องหาหรือผู้เกี่ยวข้องในคดีสามารถร้องขอความเป็นธรรมได้ พนักงานอัยการจึงมีการสอบสวนเพิ่มเติมตามที่ร้องขอความเป็นธรรม

ส่วนกรณีที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง ก็เป็นไปพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนที่ปรากฏในสำนวน ไม่ได้นำพยานหลักฐานนอกสำนวนมาสั่งคดี หรือเป็นการใช้ดุลพินิจสั่งคดีไปตามอำเภอใจ และภายหลังที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง ยังได้มีการเสนอสำนวนให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาตรวจสอบ ซึ่งเป็นการถ่วงดุลการสั่งคดีของพนักงานอัยการ ซึ่งต่อมาผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็มีความเห็นไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว

คดียังไม่ถึงที่สุด พบพยานหลักฐานใหม่ โคเคนในเลือดและขับรถเร็ว

คณะทำงานฯ แถลงต่อว่า แม้คดีนี้จะมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดไม่ฟ้อง วรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่มิได้หมายความว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว โดยคณะทำงานฯ ตรวจพบว่า คดียังไม่ถึงที่สุด กล่าวคือ เมื่อมีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดี ซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องนั้นได้ ก็สามารถสอบสวนต่อไปได้

คณะทำงานฯ ตรวจพบว่าในสำนวนการสอบสวนมีการตรวจเลือดของนายวรยุทธ ผู้ต้องหาในวันเกิดเหตุ และพบสารประเภท Cocaine (โคเคน) ในเลือด แต่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนผู้ต้องหาในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 Cocaine (โคเคน) ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 58 ประกอบกับมาตรา 91 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี (อายุความตามกฎหมาย 10 ปี)

ปรากฏพยานหลักฐานสำคัญในภายหลังในข้อหาขับรถโดยประมาท กล่าวคือ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ได้ให้ข้อเท็จจริงผ่านสื่อว่า ขณะเกิดเหตุ ดร.สธนฯ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเมื่อเกิดเหตุคดีนี้ได้รับการประสานงานจาก พ.ต.ท.ธนสิทธิ แคงจั่น ให้ไปร่วมตรวจที่เกิดเหตุ และดูกล้องวงจรปิดวัตถุพยานที่บันทึกภาพรถของผู้ต้องหา พร้อมกับคิดคำนวณความเร็วของรถที่แล่นไปขณะเกิดเหตุ

โดย ดร.สธนฯ ได้ทำรายงานการคิดคำนวณส่งให้กับกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อใช้ประกอบคดี โดยยืนยันว่าขณะเกิดเหตุรถของผู้ต้องหาแล่นไปด้วยความเร็วประมาณ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ข้อเท็จจริงดังกล่าวกลับไม่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน

นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงผ่านสื่อจากการให้สัมภาษณ์ของ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ให้ข้อเท็จจริงผ่านสื่อว่า เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านคิดคำนวณหาความเร็วของรถ โดยได้คิดคำนวณพร้อมกับให้ความเห็นทางวิชาการว่า ขณะเกิดเหตุรถที่ผู้ต้องหาขับขี่ไปน่าจะมีความเร็วไม่ต่ำกว่า 126 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นพยานหลักฐานใหม่ และเป็นพยานสำคัญที่จะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องได้ โดยคณะทำงานฯ จะนำเสนอผลการตรวจสอบนี้ต่ออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาแจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ต่อไป

Author

Alternative Text
นักเขียน

The Active

กองบรรณาธิการ The Active