ท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

เร่งเตรียมพร้อม หลังรัฐบาลประกาศ ภูเก็ตโมเดล นำร่องเปิดประเทศ 1 ต.ค. นี้ จัดทีมแพทย์ แยกอาคารผู้โดยสาร ตรวจคัดกรองโควิด-19

วันนี้ (31 ส.ค. 2563) ‘วิจิตต์ แก้วไทรเทียม’ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า เป็นเวลากว่า 3 เดือนที่ไม่มีเที่ยวบินจากต่างประเทศมาที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยจากกรณีที่รัฐบาลจะนำร่องภูเก็ตเปิดประเทศ ท่าอากาศยานฯ ได้เตรียมความพร้อมเรื่องมาตรการความปลอดภัย การควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด

โดยช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 มีเที่ยวบินระหว่างประเทศมากกว่า 200 เที่ยวบิน/วัน ปัจจุบัน มีเพียงเที่ยวบินที่เข้ามาด้วยความจำเป็น เช่น รับผู้โดยสารกลับประเทศ ส่วนเที่ยวบินภายในประเทศ เดิมมี 100 เที่ยวบิน/วัน แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 50 เที่ยวบิน/วัน ทั้งยังมีผู้โดยสารไม่เต็มลำ แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยยังคงมาตรการช่วยเหลือสายการบินต่าง ๆ ในการลดค่าเช่าเคาท์เตอร์สนามบินลง 50% และค่ารันเวย์อีก 50% เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบิน ที่ได้รับผลกระทบ

ด้าน ‘พญ.ดารุณี บุตรอินทร์’ ผู้อำนวยการส่วนการแพทย์ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า มาตรการคัดกรองยังคงทำตามขั้นตอนที่ ศบค. กำหนดรับกลุ่มชาวต่างชาติ 11 กลุ่ม ที่ได้รับอนุญาต โดยจะต้องตรวจเรื่องการทำประกันสุขภาพ หนังสือเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงใบรับรองการตรวจโควิด-19 ในรอบ 72 ชั่วโมงของกลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา โดยหลังจากที่มีนโยบายนำร่องเปิดประเทศที่จังหวัดภูเก็ต กรมควบคุมโรคได้เตรียมเครื่องตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี Swab หรือ การตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูกและคอ ซึ่งท่าอากาศยานฯ ก็ได้แยกอีกอาคารรองไว้รับผู้โดยสารที่ต้องเข้ารับการตรวจ และพักคอยผลการตรวจเป็นเวลา 90 นาที

ส่วนมาตรการป้องกันควบคุมโรคอื่น ๆ เน้นเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม การจัดจุดแอลกอฮอล์ล้างมือ และการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายทุกประตูทางเข้าออก และตั้งหน่วยทีมแพทย์พยาบาลในการติดตาม อาการที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง เช่น เป็นไข้ไอเจ็บคอ ทั้งนี้ มีแผนเผชิญเหตุหากพบว่ามีนักท่องเที่ยวติดโควิด-19 สัมผัสเดินผ่าน ภายในท่าอากาศยานฯ จะต้องกักตัว พนักงาน ที่ทำงานใกล้ชิดทันที ให้ทำงานอยู่ที่บ้านเพื่อเฝ้าดูอาการ 14 วัน

“ยืนยันว่าท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ที่จะกลับมาตามมาตรการนำร่องเปิดประเทศของทางรัฐบาล และดำเนินการอย่างรัดกุม โดยท่าอากาศยานจะไม่ใช่จุดเสี่ยงของการแพร่ระบาดอย่างแน่นอน”