นายกฯ อภิปรายเปิดสภา ไม่มีวาระพิจารณาข้อเรียกร้องม็อบ

พล.อ.ประยุทธ์ ขอ ส.ส.-ส.ว. ใช้สติร่วมแก้ปัญหา ผู้ชุมนุมระบุ ไม่ผิดคาด ไม่มี 3 ข้อเรียกร้องของเยาวชน ขอฝ่ายค้านทำหน้าที่พูดแทน

วันนี้ (26 ต.ค. 2563) เป็นวันแรกของการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนตามที่คณะรัฐมนตรีขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 156 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดย ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา ได้เปิดประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 น. โดยมีกำหนดการประชุม 2 วัน คือ 26-27 ต.ค. 2563

นายกฯ ขอสภา ใช้เวลา 2 วัน ช่วยหาทางออก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อภิปรายเป็นคนแรก กล่าวว่า ขณะนี้มีปัญหาบ้านเมือง สถานการณ์ชุมนุมตั้งแต่ 14 ต.ค. มาต่อเนื่อง ซึ่งไม่อยากพูดถึงและเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น และบางครั้งมีการพักค้างด้วย ห่วงว่าจะเกิดความยืดเยื้อ และรัฐบาลอาศัยอำนาจตามมาตรา 5 และมาตรา 11 ในการการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเดิมกำหนดสิ้นสุด 30 วัน

“ที่ผ่านมามีการอะลุ่มอล่วยผ่อนผัน พยายามเตือน หยุดยั้ง แต่การชุมนุมยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง แม้เป็นการชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพ”

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า หวังว่าจะใช้เวลา 2 วันในการหารือกัน และต้องรวบรวมสติปัญญาของสมาชิกทุกคนหาทางออก และเลือดรักชาติทุกหยดที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ กับคนไทยและต้องปกป้องอดีตที่มีคุณค่าไว้

สำหรับการประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อรับฟังความเห็น ส.ส. และ ส.ว. กรณีปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือถึงประธานรัฐสภา ระบุว่า มี 3 ประเด็นปัญหาที่ต้อการรับฟังความเห็นจาก ส.ส. และ ส.ว. ได้แก่ ความกังวลต่อการระบาดของโควิด-19 จากความแออัดในพื้นที่ชุมนุม เหตุการณ์ผู้ชุมนุมบางส่วนกับขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และการนัดหมายชุมนุมต่อเนื่องในหลายสถานที่ แม้ภาพรวมจะเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย แต่บางพื้นที่ยังพบการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ประกอบกับข้อกังวลจากเหตุกระทบกระทั่งระหว่างผู้ชุมนุมต่างกลุ่ม อันเป็นเหตุให้เกิดการจราจลในบ้านเมือง

ผู้ชุมนุม ขอฝ่ายค้านช่วยอภิปราย

The Active สัมภาษณ์ผู้ร่วมชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) ถึงประเด็นที่การประชุมสภาวันนี้ ไม่มีข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของผู้ชุมนุม คือ นายกรัฐมนตรีต้องลาออก ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ บรรจุอยู่ในเหตุผลที่คณะรัฐมนตรียื่นขอเปิดประชุมต่อประธานรัฐสภา

ผู้ชุมนุมที่เป็นเยาวชนหญิงรายหนึ่ง กล่าวว่า ไม่แปลกใจ ที่จะไม่มีข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม เพราะนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันมาตลอดว่าจะไม่ลาออก และส่วนตัวก็ยังเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาเพราะเป็นกฎหมาย แต่ไม่เชื่อมั่นในรัฐสภาชุดปัจจุบัน

“ส่วนถ้าถามว่า คิดอย่างไรหรือว่าจะทำอย่างไร อันนี้หนูฝากไปถึงฝ่ายค้านที่พวกหนูเลือกเข้ามา ทั้งเพื่อไทยทั้งก้าวไกล ทุกพรรคที่เป็นพรรคฝ่ายค้านว่า ขอให้ยก 3 ประเด็นที่พวกหนูพูด ทั้งปฏิรูปสถาบันฯ ทั้งเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งเรื่องนายกฯ ลาออก ขึ้นไปพูดในสภา เพราะฝ่ายค้านจะเป็นคนเดียวที่สามารถพูดทั้ง 3 ข้อของพวกหนู ขึ้นไปพูดในสภาได้”

พร้อมย้ำว่า รัฐธรรมนูญที่ดีต้องมาจากประชาชนอย่างแท้จริง ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่คนที่ออกมารณรงค์เรื่องให้โหวตโน กลับโดนดำเนินคดี ซึ่งรัฐธรรมนูญที่ดีในระบอบประชาธิปไตย ต้องไม่ถูกการดำเนินคดีใด ๆ ทั้งสิ้น กับการออกมาให้ข้อมูล ไม่ว่าจะด้านดีและ ด้านไม่ดี

“รัฐธรรมนูญต้องมาก่อน เพราะรัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนดกระบวนการทุกอย่าง ถ้ารัฐธรรมนูญดี ทุกอย่างจะดีตามมาเอง”

Author

Alternative Text
AUTHOR

เพ็ญพรรณ อินทปันตี

อดีตนักกิจกรรม รักการอ่าน งานเขียน ว่ายน้ำ และเล่นกับแมว