ภาคประชาสังคม ชี้ สถานะกองทุนประกันสังคม-กองทุนสุขภาพแรงงานข้ามชาติยังมีกำไร ควรใช้เงินตามวัตถุประสงค์ ด้าน สปสช. ย้ำ ตรวจโควิดฟรีทุกคน หากเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง
วันนี้ (20 ธ.ค. 2563) จากกรณีแรงงานเพื่อนบ้านติดโควิด-19 จำนวนมาก ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ภาคภูมิ แสวงคำ นายกสมาคมพราว (Proud Association : PAT) องค์กรไม่แสวงหากำไร ทำงานส่งเสริมสุขภาพและความยุติธรรมทางสังคมของกลุ่มแรงงานข้ามชาติในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ระบบการรับแรงงานเพื่อนบ้านในจังหวัดสมุทรสาคร ช่วงที่ผ่านมามั่นใจได้ว่ามีแรงงานเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง มากกว่าเข้ามาแบบไม่ถูกต้อง ซึ่งแรงงานที่เข้ามาอย่างถูกต้อง นายจ้างจะต้องนำเข้าสู่ ระบบประกันสังคม ยกเว้นแรงงานบางประเภท เช่น ประมง เกษตร ปศุสัตว์ และแม่บ้าน ขณะเดียวกัน ยังมี กองทุนหลักประกันสุขภาพคนต่างด้าวและแรงงานต่างด้าว ที่จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการสมัครเพื่อยื่นขอวีซ่า ครอบคลุมไปถึงผู้ติดตามแรงงานเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งจะต้องหักเงินล่วงหน้า 3,000 บาท ทุก 2 ปี สถานะของกองทุนสุขภาพของแรงงานเพื่อนบ้านทั้ง 2 กองทุน มีแรงงานอยู่ในระบบรวมกันไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน สถานะของกองทุนยังถือว่ามีกำไร แม้ในช่วงที่มีผู้ป่วยเป็นแรงงานเพื่อนบ้านจำนวนมาก
จึงมีข้อเสนอให้นำเงินจาก 2 กองทุนนี้มาใช้ในการรักษา รวมถึงอาจจะใช้รักษากับแรงงานเพื่อนบ้าน ที่เข้ามาอย่างไม่ถูกต้องตามหลักการสาธารณสุข และการป้องกันโรคไปก่อน
แนวทางนี้สอดคล้องกับกรมควบคุมโรค ที่จะนำงบประมาณจากกองทุนทั้ง 2 ส่วน มาใช้รักษาแรงงานเพื่อนบ้าน ซึ่งต้องจับตาดูการประสานงานกันระหว่างกองทุนประกันสังคม ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงแรงงาน และกองทุนหลักประกันสุขภาพคนต่างด้าวฯ ของกระทรวงสาธารณสุข ว่าจะมีการพูดคุยหารือกันเร็ว ๆ นี้
อีกข้อเสนอหนึ่ง คือ ต้องแก้ปัญหาสถานที่รับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งยังไม่เพียงพอ ข้อมูลล่าสุด มีโรงพยาบาลอยู่ 4 แห่งใน 3 อำเภอของจังหวัดสมุทรสาครเท่านั้น ที่ใช้เป็นสถานที่รักษาโควิด-19 ได้แก่ โรงพยาบาลนครท่าฉลอมจำนวน 50 เตียง, โรงพยาบาลสมุทรสาคร 20 เตียง, โรงพยาบาลกระทุ่มแบน 10 เตียง และโรงพยาบาลบ้านแพ้วอีก 10 เตียง รวมเป็น 90 เตียง ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อมีมากกว่า 500 คน ส่วนนี้อาจจะเสนอให้เปิดสถานที่กักกันโรค อาจจะเป็นสถานที่ราชการหรือวัด ซึ่งก่อนหน้านี้ชุมชนเคยคัดค้าน แต่ตอนนี้ไม่ทำคงไม่ได้
ส่วนในอนาคตหากมีวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานเพื่อนบ้าน ก็ควรที่จะได้รับการฉีดวัคซีน โดยใช้เงินจากกองทุนสุขภาพทั้ง 2 กองทุนที่พวกเขาเป็นสมาชิก เป็นการใช้งบประมาณที่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของกองทุนสุขภาพในการซื้อวัคซีนมาฉีดเพื่อป้องกันโรคในระยะยาว
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าในช่วงที่ผู้ติดเชื้อเป็น 0 ในจังหวัดสมุทรสาคร กระบวนการตรวจหาผู้ป่วยเชิงรุกขาดช่วงไประยะหนึ่งอย่างชัดเจน ไม่มีการทำต่อเนื่อง หน่วยราชการใช้เวลาไปกับการพัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุขโดยลืมไปว่าควรจะตรวจเชื้อเชิงรุกควบคู่กันไป ทำให้พบผู้ป่วยจำนวนมากในแรงงานข้ามชาติครั้งนี้
สปสช. ย้ำ แรงงานข้ามชาติ ตรวจโควิด-19 ฟรี
ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรอง เช่น มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาด มีประวัติเคยติดต่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ เคยติดต่อสัมผัสกับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและมีอาการไม่สบาย สามารถเดินทางไปเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ที่โรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเนื่องจากรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้ สปสช. ผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสำหรับเป็นการตรวจคัดกรองโควิด-19 ให้กับโรงพยาบาล
นอกจากนี้ สิทธิการตรวจคัดกรองโควิด-19 ก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่ใช้สิทธิประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ ตลอดจนสิทธิสุขภาพอื่น ๆ ด้วย ดังนั้น ขอเน้นย้ำว่าคนไทยทุกคนสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ฟรี และขอเชิญชวนให้ผู้ที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงรีบไปเข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง คนในครอบครัว คนใกล้ชิด และจะเป็นการป้องกันการระบาดในวงกว้างอีกทางหนึ่งด้วย
ท่านที่เคยเดินทางไปในพื้นที่ที่พบการระบาด มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ หรือเริ่มมีอาการไม่สบาย สงสัย ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ สามารถไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลได้เลย โดยทางแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าท่านมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนและวางแนวทางการปฏิบัติให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของท่าน อย่านิ่งนอนใจหรือประมาทว่าตัวเองไม่น่าจะติดเชื้อ หากท่านมีประวัติเกี่ยวข้องกับพื้นที่ระบาดหรือสัมผัสกับบุคคลที่มาจากพื้นที่ที่มีการระบาด แม้จะไม่มีอาการอะไรก็ขอให้ไปพบแพทย์ก่อน ถ้าท่านไม่ติดเชื้อ ท่านก็จะได้สบายใจว่าไม่ติด แต่หากตรวจพบเชื้อ ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาแต่เนิ่น ๆ โดยกระบวนการทั้งหมดไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ สปสช. จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการตรวจคัดกรองโควิด-19 แก่คนไทยทุกคน สำหรับกลุ่มแรงงานข้ามชาตินั้น ทางกรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมงบประมาณสำหรับตรวจคัดกรองโควิด-19 ไว้แล้ว ดังนั้น หากท่านมีลูกจ้างแรงงานข้ามชาติ หรือรู้จักกับแรงงานข้ามชาติที่พักอาศัยใกล้บ้าน สามารถแจ้งให้ไปรับการตรวจคัดกรองได้ฟรีเช่นกัน และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการแจ้งข้อมูลการระบาดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422