เชื่อมโยง 3 ร้านอาหารย่าน เทเวศร์-ปิ่นเกล้า ส่วน ‘ชลบุรี’ ยอดพุ่ง เหตุผู้ติดเชื้อไปหลายบ่อนและสถานบันเทิง นำเชื้อแพร่สู่ครอบครัว
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงรายละเอียดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้โดยสาร 11 คน เช่าเหมารถตู้ไปเที่ยว จ.ระยอง และจันทบุรี ช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. โดยในรถมีผู้โดยสารทั้งหมด 11 คน ผลการสอบสวน ตรวจพบเชื้อรายแรก วันที่ 23 ธ.ค. และต่อมา ระหว่างวันที่ 25-27 ธ.ค. พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6 คน โดยในจำนวนนี้ 5 คน เป็นครอบครัวเดียวกัน มีเด็กอายุ 4 ปี ติดเชื้อด้วย ส่วนผู้โดยสารอีก 4 คน ตรวจไม่พบเชื้อ
จากข้อมูลดังกล่าว สธ. จึงขอให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางไป จ.ระยอง พื้นที่ อ.เมืองระยอง อ.บ้านฉาง อ.นิคมพัฒนา และ อ.บ้านค่าย ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หากตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้ไปรับการตรวจรักษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ (29 ธ.ค.) ได้รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อจำนวน 22 คน ที่มีความเกี่ยวพันกับร้านอาหาร 3 แห่งในกรุงเทพฯ ได้แก่ ร้านแซ่บอีสานคาราโอเกะ ย่านเทเวศร์ ร้านอีสานครองแก้ว และร้านน้องใหม่พลาซ่า ย่านปิ่นเกล้า นั้น ข้อมูลล่าสุดวันนี้เพิ่มเป็น 33 คน โดยในจำนวนนี้ไม่มีอาการ 11 คน และที่เหลือมีอาการน้อย
สำหรับกรณีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.ชลบุรี ผลการสอบสวนโรคส่วนใหญ่พบที่ อ.บางละมุง โดยให้ประวัติว่าไปที่บ่อนการพนันหลายแห่ง ทั้งที่พัทยาและระยอง และส่วนใหญ่เดินทางไปมาหลายบ่อน ทำให้การแพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็ว และส่วนใหญ่คนที่ติดเชื้อมักจะไปสถานบันเทิง จากนั้นก็นำเชื้อแพร่ไปสู่ครอบครัว
ส่วนมาตรการรับมือช่วงเทศกาลปีใหม่ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโควิด-19 (ศปค.สธ.) มีมติให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ทำแผนรับมือให้เหมาะสมและสอดคล้องกับมาตรการของ ศบค. รวมทั้งให้งดการจัดปีใหม่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สมุทรสาครและระยอง) ส่วนพื้นที่เฝ้าระวัง ให้ลดการจัดกิจกรรมให้มากที่สุด ให้อยู่เฉพาะครอบครัว และหากจะจัดต้องได้รับอนุญาต รวมทั้งคงมาตรการป้องกันโรค และลดความแออัดของผู้ร่วมกิจกรรม ไม่น้อยกว่า 1 ตารางเมตรต่อคน หากจัดมากกว่า 100 คน ต้องขออนุญาต
เน้นการจัดกิจกรรมปีใหม่แบบ Virtual หรือ Online เช่น สวดมนต์ข้ามปี แรงงานข้ามชาติให้อยู่ภายในพื้นที่จังหวัด ที่พักตนเอง หรือสถานที่ทำงาน งดการไปมาหาสู่ และให้นายจ้างตรวจสอบดูแลอย่างเข้มงวด รวมทั้งให้ อสม. เคาะประตูบ้านให้ความรู้ประชาชน และตรวจสอบว่ามีแรงงานข้ามชาติเข้ามาหรือไม่ หากพบเห็นให้ติดต่อเจ้าหน้าที่