ภาคี #SAVEบางกลอย เรียกร้องรัฐปฏิบัติตาม MOU ยุติสนธิกำลังในพื้นที่ วอนอย่าให้ข้อมูลผลิตซ้ำมายาคติเชิงลบ ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ประกาศพร้อมเคลื่อนไหวอีกครั้ง หากรัฐยังไม่ปฎิบัติตามข้อตกลง
22 ก.พ. 2564 – พชร คำชำนาญ หนึ่งในคณะทำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย จ.เพชรบุรี และเป็นหนึ่งในคณะทำงานชุดพิเศษ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่รวบรวมปัญหาและข้อเท็จจริงในพื้นที่ชุมชนบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว รายงานสถานการณ์จากบ้านบางกลอยล่าง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยระบุว่าพบเห็นเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ บินออกจากบ้านโป่งลึก คาดว่าจะขึ้นไปที่บางกลอยบน-ใจแผ่นดิน จุดที่ชาวบ้าน 36 ครอบครัวปักหลักอยู่ โดยขณะนี้ชาวบ้านบางกลอยอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าหน้าที่
The Active สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก พชร เปิดเผยว่าขณะนี้สถานการณ์ยังตึงเครียด เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สนธิกำลังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชาวกะเหรี่ยงบางกลอยเตรียมรวมตัวที่ลานเฮลิคอปเตอร์หน่วย กจ.10 เพื่อเรียกร้องให้รัฐปฏิบัติตามข้อตกลงร่วม หรือ MOU ที่ให้ยุติการใช้กำลังและดำเนินคดีกับชาวกะเหรี่ยงบางกลอยที่อพยพกลับบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน
#SAVEบางกลอย ออกแถลงการณ์ เคลียร์ข้อกล่าวหาชาวบ้านบางกลอย
ด้าน กลุ่มประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและภาคี #SAVEบางกลอย ออกแถลงการณ์เรื่อง วิกฤตผลิตซ้ำมายาคติกะเหรี่ยงทำลายป่า รัฐเตรียมฝ่าฝืนข้อตกลง โดยมีสาระสำคัญในแถลงการณ์ พยายามอธิบายและชี้แจงข้อกล่าวหาจากรัฐ ที่อาจเป็นการทำลายความชอบธรรม เพื่อให้เกิดการปฏิบัติการจับกุมชาวบ้านบางกลอย 2 ข้อ
- ข้อกล่าวหาว่าชาวบ้านได้ขยายพื้นที่ทำกินเพิ่ม โดยชี้แจงว่า ชาวบ้านไม่ได้ขยายพื้นที่ทำกินเพิ่ม จากการสอบถามชาวบ้าน ย้ำว่า แปลงที่ดินทำกินแบบไร่หมุนเวียนแปลงสุดท้าย ที่ถูกถาง คือ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2564 เป็นเวลา 3 วันก่อนชาวบ้าน 10 คนจะไปปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล อีกทั้งแปลงที่ทำกินทั้งหมดยังเป็นพื้นที่ “ไร่ซาก” ที่เป็นที่ทำกินของชุมชนมาก่อนถูกอพยพในปี 2539 และ 2554
- ข้อกล่าวหาว่าชาวบ้านเผาป่า แท้ที่จริงแล้วเป็นการเผากำจัดเชื้อเพลิงในพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นวิถีการทำเกษตรดั้งเดิม ไม่ได้สร้างมลภาวะหรือเพิ่มอุณหภูมิของโลกให้สูงขึ้น ดังที่มีงานวิจัยทางวิชาการหลายด้านรองรับแล้ว ซึ่งหลังจากผ่านการแผ้วถางมาแล้วกว่า 1 เดือน ไม้ในไร่หมุนเวียนในแห้งแล้วจึงได้เวลาที่ต้องเผา หากรอนานกว่านี้ ฝนอาจจะตกและทำให้ไม่สามารถทำกินได้เลยตลอดทั้งปี
ท้ายแถลงการณ์ ยืนยันว่า ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงทุกข้อตามที่เจรจากับรัฐบาลจนได้ข้อยุติ พร้อมเรียกร้องให้รัฐยุติการดำเนินการอันจะนำไปสู่การจับกุม ดำเนินคดี และใช้ความรุนแรงทั้งหมด ตามข้อตกลงที่ลงนามร่วมกันแล้ว เพื่อเปิดทางให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนและไม่เกิดการสูญเสียอีก และหากเกิดการดำเนินการใด ๆ ขึ้นกับชาวบ้าน ภาคี #SAVEบางกลอย พร้อมที่จะกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง และยกระดับกดดันมากกว่าเดิม