คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ออกแถลงการณ์ “รัฐล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาในทุกมิติ” พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หมดเวลาบริหารประเทศ
10 ส.ค. 2564 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุเหตุผล 3 เรื่องสำคัญ
หนึ่ง การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความไม่สามารถคุมการระบาด ประชาชนจำนวนหนึ่งไม่ได้รับการดูแลด้านสาธารณสุข และเสียชีวิตในที่สาธารณะ
ประเทศไทยเคยมีความเข้มแข็งจนได้รับการยอมรับกันทั่วโลก ต้องล้มละลาย มีคนตายเกลื่อนทั่วไปทั้งบนท้องถนน ในบ้าน และที่สาธารณะทั่วไป รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงมากขึ้นจนไม่รู้ว่าจะมีทางออกอย่างไร ส่งผลต่อสภาพที่ย่ำแย่ของประเทศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ประเด็นที่ สอง คือเรื่องการแก้ไขปัญหาทางการเมือง โดยระบุว่า รัฐบาลไม่สามารถคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองได้ รวมถึงข้อกังวลเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการปิดกั้นการแสดงออกทางการเมือง
การคุกคามการละเมิดสิทธิมนุษยชน การปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนทั่วไป สื่อมวลชน เกิดขึ้นยิ่งกว่ารัฐบาลในยุคใด ทั้งหมดนี้ได้สะท้อนถึงความเป็นรัฐล้มเหลว ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในสังคงไทย และนี่คือสิ่งที่นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบ
โดย กป.อพช. มองว่า ในสถานการณ์ทางสังคม การเมือง และวิกฤตด้านสาธารณสุข ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เกินความสามารถของรัฐบาลชุดนี้
ปัญหาที่เป็นอยู่เกินความสามารถของรัฐบาลชุดนี้จะแบกรับได้อีกต่อไป รังแต่จะสร้างความเสียหาย ความแปลกแยก และหายนะอื่นๆ ที่จะตามมาอย่างไม่อาจคาดการณ์ได้ โดยเฉพาะในมิติของการคุกคามสิทธิเสรีภาพ การแสดงออกของประชาชน และสื่อมวลชนต่อสถานการณ์ดังกล่าว ยังถูกจำกัดด้วยการอ้างหรือสร้างระเบียบกฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรม
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ยังได้ยกตัวอย่างกรณีการออกมาเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ต่อเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการจับกุมนายชาติชาย แกดำและพวกรวม 9 คน และฝากขังที่ศาลธัญบุรี โดยไม่ยินยอมให้มีการประกันตัว พร้อมมองว่าเป็นการปิดโอกาสให้สามารถใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความถูกผิด
