‘เลขาธิการสภาพัฒน์’ ขอให้มั่นใจผลสรุปการศึกษาเป็นกลาง เดินหน้ารับฟังความคิดเห็น 4 กลุ่ม เวทีแรกรับฟังรัฐและเอกชน คาด เสร็จทุกกลุ่มมีนาคมนี้ ก่อนกำหนดกลไกศึกษาขอบเขตพื้นที่และงบประมาณ
วันนี้ (15 มี.ค. 2565) ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงข่าวความคืบหน้าการจัดทำ การประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) กรณีอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ว่า กรณีนี้มีความขัดแย้งในพื้นที่เกิดขึ้นจนนำมาสู่มติ ครม. เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ให้มีการประเมิน SEA และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เป็นหน่วยงานดำเนินการ พร้อมให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวชะลอจนกว่ากระบวนการ SEA จะแล้วเสร็จ
เลขาธิการ สศช. ระบุว่า สภาพัฒน์ ไม่เคยนิ่งนอนใจ และได้เตรียมการมาตลอด ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นเครื่องมือสำคัญเพราะจะต้องได้รับฟังความคิดเห็นและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องมีส่วนร่วม เพื่อให้การพัฒนาดังกล่าวมีความยั่งยืนและไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ ที่ผ่านมา สภาพัฒน์ ได้มีการหารือกับหน่วยงานราชการทั้งภูมิภาคและส่วนกลาง เพื่อยกร่างขอบเขตการทำงานแล้ว
สำหรับการรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการศึกษาโครงการ เช่น ขอบเขตในการศึกษาพื้นที่ว่าต้องขนาดไหน โดยในความเห็น มีการเสนอว่าจะเป็นพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา หรือจะเป็นจังหวัดสงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี เพราะการศึกษาขอบเขตพื้นที่ครั้งนี้มีความเชื่อมโยงกับอีกหลายโครงการพัฒนาของรัฐที่จะลงไปยังพื้นที่ การศึกษาครั้งนี้จึงมองว่าควรศึกษาให้ครอบคลุมทั้งหมดเลยหรือไม่ หลังการสรุปประเด็นนี้จะได้มีขั้นตอนต่อไป คือการพิจารณาเรื่องกรอบระยะเวลาและงบประมาณที่ใช้ในการศึกษา
โดยสภาพัฒน์มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นโดยแบ่งกลุ่มที่เกี่ยวข้องเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ รัฐเอกชน, ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่, ผู้ที่สนับสนุนโครงการในพื้นที่ และนักวิชาการในพื้นที่ โดยได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นกลุ่มแรกไปแล้ว ส่วนที่เหลืออีกสามกลุ่มจะเริ่มดำเนินการรับฟังให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนมีนาคม
“การรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ยังไม่ใช่การร่าง TOR แต่เป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็นว่าแต่ละฝ่ายต้องการหรือกังวลเรื่องอะไร เพื่อนำไปประกอบการศึกษาของเขตพื้นที่ เมื่อมีความชัดเจนจึงจะมีการทำเรื่องของบประมาณและกลไกที่จะใช้ศึกษา ตั้งคณะทำงานที่มาจากหลายภาคส่วน คาดว่าขั้นตอนนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าสภาพัฒน์จะดำเนินการเรื่องนี้ด้วยความเป็นกลาง และผลการศึกษาจะพยายามตอบคำถามทุกฝ่ายให้ได้มากที่สุด”