คลายล็อก “โดรนเกษตร” บินได้วันละ 12 ชั่วโมง เริ่ม11 ส.ค.นี้

ศบ.ทก. คลายล็อก การบินโดรนเพื่อการเกษตร เริ่ม 11 ส.ค. จำกัดเวลา 06.00–18.00 น. ภายใต้เงื่อนไข ต้องขึ้นทะเบียน–แจ้งการบินล่วงหน้า ขณะที่โดรนประเภทอื่นยังคงห้ามบินทั่วประเทศถึง 15 ส.ค. หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

วันนี้ (9 ส.ค. 2568) จากมาตรการ “ห้ามบินโดรนทั่วประเทศ” ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ที่ต้องใช้โดรนเพื่อทำการเกษตร ทั้งการฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ใส่ปุ๋ย เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในฤดูการทำเกษตรโดยเฉพาะข้าว หลังจากที่ คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การใช้โดรนเพื่อความมั่นคง (ศบ.ทก.) ได้นำประเด็นนี้หารือในที่ประชุม จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศบ.ทก. มีมติผ่อนปรนให้สามารถบิน “โดรนเพื่อการเกษตร” ได้ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขควบคุมเข้ม ขณะที่โดรนประเภทอื่นยังคงห้ามบินทั่วประเทศถึง 15 ส.ค. 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

จิรายุ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้มีคำสั่งห้ามบินอากาศยานไร้คนขับทุกประเภททั่วประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศฉบับที่ 3 ยังคงห้ามทำการบินอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภททั่วราชอาณาจักร จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยทางการบินในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีเงื่อนไขการบินโดรนเพื่อการเกษตร ดังนี้

  • ผู้บังคับและตัวโดรนต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และยังไม่หมดอายุ
  • ได้รับอนุญาตปฏิบัติการบินเพื่อการเกษตรจาก CAAT
  • ไม่มีประวัติฝ่าฝืนหรือถูกเพิกถอนสิทธิการบิน
  • บินเฉพาะในพื้นที่เกษตรของตนเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่
  • แจ้งการบินล่วงหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ UAS Portal แอปพลิเคชัน UAS Portal อีเมล antidrone.police@gmail.com และแจ้งตำรวจท้องที่หรือกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน
  • บินสูงไม่เกิน 30 เมตร ระหว่างเวลา 06.00–18.00 น. เท่านั้น
  • ใช้เฉพาะเพื่อโปรยหรือหว่านสารอินทรีย์-อนินทรีย์ สารเคมีเพื่อการเกษตร น้ำ หรือปุ๋ย ห้ามใช้เพื่อถ่ายภาพหรือสำรวจ

สำหรับพื้นที่ต้องห้ามบินเด็ดขาด พื้นที่หวงห้ามและพื้นที่อันตรายตามประกาศ AIP Thailand (16 พื้นที่) จังหวัดชายแดนภายใต้กฎอัยการศึกหรือมีกองกำลังปฏิบัติการ (7 จังหวัด) อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี อำเภอเมือง จ.ระยอง รัศมี 9 กิโลเมตรรอบสนามบิน และพื้นที่ที่หน่วยงานความมั่นคงประกาศเพิ่มเติม

ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเจ้าหน้าที่มีอำนาจทำลายหรือตอบโต้อากาศยานได้

โฆษกรัฐบาล ย้ำว่า การผ่อนปรนครั้งนี้มุ่งช่วยเหลือภาคเกษตรให้ดำเนินงานต่อเนื่องในฤดูกาลผลิต ขณะเดียวกันยังคงมาตรการด้านความมั่นคงอย่างเคร่งครัด และจะประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับมาตรการตามความจำเป็น

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active