กรมอุตุฯ คาด ไทยเตรียมอากาศเย็นฉ่ำ 17 พ.ย.นี้ หนาวนานถึง กุมภาฯ

ไทยหนาวระลอกแรก 17 พ.ย. อุณหภูมิลด 2 – 7 องศาฯ กรมอุตุฯ คาดฤดูหนาวปีนี้ยาวนานจนถึงสิ้น ก.พ. 69 จากสภาพอากาศโลกแปรปรวน

15 พ.ย.68 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน โดยในช่วงวันที่ 17-23 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงและมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้น จากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร




แผนที่อากาศผิวพื้นวันที่ 15 พ.ย. 68 เวลา 01.00 น. ของกรมอุตุนิยมวิทยา แสดงให้เห็นบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้

สมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองอุตุนิยมวิทยาการบิน รักษาการผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ เปิดเผยกับ The Active ว่า อากาศในประเทศไทยเริ่มเย็นลงมาตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา และจะเย็นฉ่ำมากขึ้นในวันที่ 17 พ.ย. จากนั้นเริ่มอากาศหนาวตั้งแต่วันที่ 20 – 24 พ.ย. เป็นต้นไป เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว

โดยบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิจะลดลงอยู่ที่ประมาณ 8 – 9 องศาเซลเซียส และดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ อุณหภูมิจะลดลงอยู่ที่ประมาณ 5 องศาเซลเซียส ขณะที่ปรากฏการณ์แม่คะนิ้ง (น้ำค้างแข็ง) จะเริ่มเกิดขึ้นเป็นบางช่วง เพราะอากาศยังมีความชื้นสูง เมื่อเจอกับอากาศเย็นลงมากระทบจะเกิดน้ำค้างแข็งในช่วงเช้าตรู่

สำหรับกรุงเทพมหานคร อุณภูมิจะลดลงตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. และหลังวันที่ 16 พ.ย. เป็นต้นไปจะมีลมแรงมากขึ้น

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าฤดูหนาวในครั้งนี้ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นนานหลายวัน เนื่องจากอากาศแปรปรวนมากขึ้นจึงส่งผลให้ช่วงเวลาของฤดูหนาวขยับออกไปจนถึงปลายเดือน ก.พ. จากที่ปกติจะเริ่มอากาศร้อนประมาณกลางเดือน

สมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองอุตุนิยมวิทยาการบิน รักษาการผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ

รักษาการผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาการพยาการณ์อากาศทำได้ยากขึ้น เนื่องจากโลกร้อนขึ้นทำให้สภาพภูมิอากาศผันผวนสูง เช่น ฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล หรือบางพื้นที่ฝนตกน้อยจนไม่ตกเลย หรือบางพื้นที่ก็ฝนตกมากกว่าปกตินานหลายวัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสภาพอากาศตอนนี้ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงไปอย่างเด่นชัดขึ้นมาก ขณะเดียวกันยังมีเรื่องปรากฏการณ์ เอ็นโซ่ (ENSO) ส่งผลให้เกิด 3 ภาวะหลัก คือ เอลนีโญ (El Niño) ลานีญา (La Niña) และภาวะปกติ (Neutral) ซึ่งภาวะเหล่านี้เกิดถี่มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน โดยความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะส่งผลให้การพยากรณ์อากาศทำได้ยากมากขึ้น

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active