ผู้เสียชีวิตวันนี้ทำสถิติใหม่ 59 คน 78% เป็นผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ยังไม่รับวัคซีน แนะ รีบฉีดวัคซีนตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้ลูกหลานกลับไปเยี่ยมช่วงสงกรานต์อย่างสบายใจ ปลอดภัย ฉีดครบ 2 เข็มแล้วเกิน 3 เดือน ให้ไปฉีดเข็ม 3 ลดเสียชีวิต 41 เท่า
วันนี้ (6 มี.ค. 2565) แม้การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จะมีความรุนแรงลดลงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย วันนี้ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทำสถิติใหม่ 59 คน พบเป็นผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป 46 คนคิดเป็น 78%, ผู้มีโรคเรื้อรัง 12 คนคิดเป็น 20% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 คน คิดเป็น 2% จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและไม่ได้รับวัคซีน
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและอาจเป็นไปตามฉากทัศน์ที่คาดการณ์ว่าจะมีผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 5 หมื่นคนในช่วงหลังสงกรานต์ แต่ทุกคนสามารถช่วยกันยกระดับมาตรการป้องกันเพื่อลดการติดเชื้อลงได้ โดยคาดว่าช่วงพฤษภาคม-มิถุนายนจะเป็นขาลงของการระบาด ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจ เมื่อมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก จะทำให้มีผู้ป่วยอาการรุนแรงที่ต้องรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นตามมาได้
“ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า และใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ขณะที่ผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน”
นพ.โสภณ กล่าวว่า ผู้สูงอายุมีการติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มวัยอื่น แต่มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าหลายเท่า โดยเฉพาะสูงอายุ 70 ปีขึ้นไป อัตราติดเชื้อเสียชีวิตเกือบ 3% อายุ 60-69 ปี อัตราติดเชื้อเสียชีวิต 0.6% และอายุ 50-59 ปี อัตราติดเชื้อเสียชีวิต 0.2%
จากข้อมูลพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุ ช่วยลดการเสียชีวิตลงได้ถึง 41 เท่า เมื่อเทียบกับผู้สุงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้น ในช่วง 1 เดือนเศษก่อนสงกรานต์ที่ลูกหลานจะกลับไปเยี่ยมที่ต่างจังหวัด ขอให้ผู้สูงอายุ 2.17 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมารับวัคซีนเข็มแรก
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุอีกว่า หากฉีดเข็มแรกแล้วให้ฉีดเข็ม 2 ตามนัด และหากรับครบ 2 เข็มเกิน 3 เดือนให้รีบมารับเข็มกระตุ้น เพื่อให้สงกรานต์ปีนี้ ลูกหลานกลับไปเยี่ยมบ้านได้อย่างสบายใจ โดยลูกหลานต้องฉีดวัคซีนและต้องป้องกันตนเองด้วยเช่นกันเนื่องจากสงกรานต์ปีที่แล้ว หลายครอบครัวต้องสูญเสียผู้สูงอายุที่ติดเชื้อจากลูกหลานที่กลับไปเยี่ยม
ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้สำรวจประชาชน 86,798 คน พบว่า 37.8% ไม่ต้องการรับวัคซีนเข็ม 3 แม้ถึงเวลาที่กำหนดแล้ว เนื่องจากกังวลเรื่องผลข้างเคียง และกลัวเสียชีวิต 21% และคิดว่าฉีด 2 เข็มเพียงพอแล้ว 14% ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด
“ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจ เพื่อให้ผู้สูงอายุกลุ่มนี้เข้ามาฉีดวัคซีนมากขึ้น และสนับสนุนให้ทุกหมู่บ้านมีทะเบียนรายชื่อผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด- 19 เพื่อเป็นข้อมูลให้ทุกหน่วยงานร่วมกันนำผู้สูงอายุมารับวัคซีนให้ครบถ้วนมากที่สุด รวมถึงการฉีดวัคซีนในเด็ก ซึ่งจะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อในผู้สูงอายุได้ด้วย”