กรุงเทพฯ ยังคงมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ บางแห่งเสี่ยงฝนตกหนักซ้ำเติม ระดับน้ำในคลองที่ยังวิกฤตต่อเนื่อง พบน้ำท่วมเข้าบ้านประชาชนริมคลองคล้าย 2554 กทม.เตือน ประชาชนที่อยู่แนวริมคลองเฝ้าระวังระดับน้ำในคลองวิกฤต ขณะที่วันนี้พบฝนสูงสุดตกเกิน 100 มิลลิเมตร ที่มีนบุรี
ข้อมูล กทม.พบว่า ปริมาณฝนสะสมที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขณะนี้จะมีฝนมากทางฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะจุดที่เป็นสีส้มสีแดง คือ เขต มีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก สะพานสูง หลายจุดเป็นพื้นที่ต่ำ ขณะที่กรุงเทพฯ ชั้นใน มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง
สำนักการระบายน้ำระบุ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครฝนตกปานกลางถึงหนัก ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัด ค.บึงใหญ่-วัดทองสัมฤทธิ์ เขตมีนบุรี 100.5 มม. จุดวัด ค.บางบัว เขตบางเขน 64.0 มม. จุดวัด ค.สิบสอง-ถ.ประชาสำราญ เขตหนองจอก 45.5 มม. สนข.สะพานสูง 42.5 มม.
ขณะที่พื้นที่ชุมชนหลายแห่ง ยังมีน้ำท่วมขัง เพราะสถานการณ์น้ำในคลองของ กทม.ยังไม่ลดลง หลายพื้นที่ล้นคลองเข้าท่วมชุมชน อย่างชุมชนบางบัว เขตจตุจักร พบมีน้ำไหลท่วมเข้ามาใหม่เช้านี้ (10 ก.ย.65) ซึ่งเป็นน้ำที่เอ่อมาจากคลองบางบัวหลังฝนตกหนักเมื่อคืน จนทำให้เกิดน้ำท่วม คล้าย ปี 2554
อีกแห่ง อยู่ในพื้นที่เขตดอนเมือง ช่วงซอยช่างอากาศอุทิศ บริเวณนี้ ยังคงมีน้ำท่วมระบายออกได้ช้า ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า แม้โซนนี้ ฝนไม่ตกเมื่อวานและเมื่อคืน แต่ก็ยังเป็นน้ำที่ท่วมอยู่เดิม และยังระบายออกคลองเปรมประชากรได้ไม่หมด
สำนักการระบายน้ำ รายงานจุดติดตั้งสถานีตรวจวัดระดับน้ำ กรุงเทพมหานคร วันที่ 10 ก.ย. อยู่ในระดับวิกฤต 53 สถานี ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ฝั่งตะวันออกของพื้นที่กรุงเทพมหานคร หมายความว่า ระดับน้ำในคลองในแต่ละพื้นที่ มีค่อนข้างมาก เช่น คลองเปรมประชากร ในเขตหลักสี่ ดอนเมือง ระดับน้ำวิกฤตหนัก ขณะที่คลองลาดพร้าว เขตสายไหม เขตบางเขน และเขตลาดพร้าว น้ำทะลักเข้าบ้านหลายแห่ง ไม่ต่างจากคลองประเวศบุรีรมย์ ในเขตลาดกระบัง ที่มีประชาชนร้องเรียนเข้ามามาก ผ่านระบบทราฟี ฟองดู ดังนั้นการระบายน้ำ ยังคงต้องใช้เวลาสูบออกอีก 1-2 วัน กว่าจะเข้าสู่ภาวะปรกติ
นอกจากนี้ วันนี้ไปจนถึงวันที่ 12 ก.ย. กทม.และปริมณฑลอาจต้องเจอกับศึก 3 น้ำ ทั้งน้ำทะเลจะหนุนสูง น้ำหลากจากแม่น้ำเจ้าพระยา และน้ำฝนในพื้นที่ที่ตกต่อเนื่องทุกวัน
ขณะที่ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ระหว่างนี้ แนวโน้มฝนตกใน กทม. อาจจะลดลงเล็กน้อยแต่ก็ยังตกต่อเนื่องร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อาจเป็นการซ้ำเติมการระบายน้ำ เพราะเวลานี้อาจต้องรับมือกับการสูบน้ำต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ได้
กรมอุตุนิยมวิทยายังคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 10 – 13 ก.ย. 65 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 ก.ย. 65 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น
