ศธ. พบหลายโรงเรียนมีความเสี่ยง กำชับทุกพื้นที่ตรวจสอบอาคารสิ่งปลูกสร้าง

หลังพายุพัดถล่มโรงเรียน จ.พิจิตร มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ทางจังหวัดเร่งช่วยเหลือประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ กรมอุตุฯ เตือน 23-24 พ.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน อีสานและตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง

หลังเกิดเหตุพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้นักเรียนโรงเรียนวัดเนินปอ ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร ที่มาซ้อมฟุตบอล และ ผู้ปกครองที่เข้าไปหลบฝนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 6 คนและเสียชีวิตที่ โรงพยาบาล 1 คน

โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าระหว่างเกิดเหตุช่วงประมาณ 18.00 น. ยังคงมีฝนตก แต่ฟ้ายังสว่างอยู่ โค้ชจึงให้เด็ก ๆ ไปซ้อมในโดม เพราะคาดว่าฝนน่าจะตกไม่นาน แต่หลังจากนั้นก็เกิดลมพัดอย่างรุนแรง ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า ขณะเกิดเหตุลมพายุพัดรุนแรงมากและเป็นภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี 

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและลำเลียงผู้เสียชีวิตออกจากซากความเสียหาย โดยพบศพนักการภารโรง ผู้ปกครองและนักเรียน รวม 6 คน ก่อนจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มในช่วงดึกเป็นเด็กชายอายุ 6 ปี อีก 1 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 7 คน และมีผู้บาดเจ็บ 18 คน

พยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ประกาศให้พื้นที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่ประสพภัยพิบัติ เพื่อจะได้นำงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชน  เพราะนอกจากเหตุที่เกิดที่โดมโรงเรียนแล้ว ยังมีบ้านเรือนประชาชนอีกกว่า 400 หลังคาเรือนได้รับความเสียหายจากวาตภัยที่เกิดขึ้น พร้อมตั้งศูนย์ขอรับความช่วยเหลือจากภาคเอกชน นอกจากนั้นได้ตั้งศูนย์อำนวยการชั่วคราว เพื่อรับเรื่องความเสียหายของประชาชน เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไป

ขณะที่เจ้าหน้าที่โยธาธิการและฝังเมืองพิจิตร และสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ได้เข้าตรวจสอบอาคารแล้วในวันนี้ รวมทั้งตรวจสอบความเสียหายในจุดอื่น ๆ เพื่อให้การช่วยเหลือ

ล่าสุดทางจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยประชาชน-เอกชนในพื้นที่, จิตอาสา, ตำรวจ และทหาร ได้ร่วมกันจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการ” เพื่อให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และเยียวยากับพี่น้องผู้ประสบภัยเป็นการด่วน รวมทั้งเตรียมพื้นที่ “ศูนย์ช่วยเหลือชั่วคราว” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัย กว่า 200 หลังคาเรือนแล้ว ทั้งนี้ ผมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความต้องการ และรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเพิ่มเติมในทันที เพื่อบรรเทาความทุกข์ของประชาชน และฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ให้กลับคืนสู่ความปกติสุขโดยเร็วที่สุดครับ

นอกจากนี้ ปัจจุบันเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมบ้านเรือน-สิ่งปลูกสร้าง ให้พร้อมรับกับสภาพลมฟ้าอากาศแปรปรวน รวมทั้งหน่วยงานราชการต่าง ๆ เตรียมความพร้อมเพื่อออกให้ความช่วยเหลือประชาชน

อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า   สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบหมายให้นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มออกแบบ จะมีการมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ดังนี้เสียชีวิต คนละ 10,000 บาท บาดเจ็บสาหัสคนละ 5,000 บาท และบาดเจ็บเล็กน้อย คนละ 3,000 บาท

ขณะนี้ได้กำชับทุกพื้นที่ตรวจสอบอาคารสิ่งปลูกสร้างภายในสถานศึกษาให้มีความพร้อมหากพบ สิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีอายุการใช้งานนานการก่อสร้างผิดแบบจะสั่งระงับการใช้งานและรื้อถอนทันทีเพื่อความปลอดภัย

ที่ผ่านมาสถานศึกษาส่วนใหญ่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไม่เพียงพอสำหรับการก่อสร้างหรือต่อเติม ทางเชื่อมระหว่างอาคาร หลังคาบังแดด ฝน บริเวณลานกิจกรรม จึงมีหลายแห่งใช้วิธีการสร้างโดมเชื่อม จากตัวอาคารแต่ละหลังโดยไม่ได้ลงฐานรากของการก่อสร้าง เมื่อมีภัยพิบัติ จึงไม่สามารถรองรับแรงลมและพังถล่มลงมา   

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสถานศึกษา และขอเสียใจต่อการสูญเสียและครอบครัวผู้บาดเจ็บ หลังจากนี้จะเพิ่มมาตรการดูแลเรื่องความปลอดภัยสำหรับนักเรียนและบุคลากรสถานศึกษา ตั้งแต่การเดินทาง การใช้เวลาในสถานศึกษา ควรสำรวจความปลอดภัยอาคารสถานที่ให้พร้อม เพื่อไม่ให้เกิดความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษาขึ้นอีก

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ยังคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 23 – 24 พ.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวันและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง  ซึ่งอาจมีความเสี่ยงสูงกับอาคารบ้านเรือนที่ไม่แข็งแรง

ส่วนในช่วงวันที่ 25 – 29 พ.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 27 – 29 พ.ค. 66 มีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางและทะเลจีนใต้ตอนกลางจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมประเทศลาวและกัมพูชา ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบาง โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคตะวันออก 

สำหรับในช่วงวันที่ 23-26 พ.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และบริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร 

ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 พ.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร

สำหรับจังหวัดเสี่ยงฝนตกและลมกระโชกแรงที่ต้องเฝ้าระวัง ช่วง 1-2 วันนี้

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร  พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ 

ภาคอีสาน : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม  นครราชสีมา บุรีรัมย์  สุรินทร์

ภาคกลาง : นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี 

ภาคตะวันออก : นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด

ภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองเพียงร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล