กทม. ประกาศ ‘เขตประสบสาธารณภัยพื้นที่เขตดุสิต’ เปิดทางเร่งแก้ไขเหตุ ‘ถนนทรุด’

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยัน ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ย้ำทุกฝ่ายทำงานอย่างระมัดระวัง หวั่น ฝนตกหนัก สั่งเตรียมพร้อมกั้นน้ำ อุดท่อ ป้องกันน้ำไหลลงหลุม ขณะเดียวกัน เร่งบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน น้ำ ไฟ อินเทอร์เน็ต ส่วนผู้ที่ต้องอพยพออกจากอาคารเสี่ยง ยัน รฟม. รับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายด้านที่พักให้ทั้งหมด

วันนี้ (25 ก.ย. 68) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลทรุดตัว เขตดุสิต โดย ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ขณะนี้ กทม.อำนวยความสะดวกให้ประชาชนโดยรอบ ด้วยการจัดถังเก็บน้ำขนาดใหญ่กว่า 40 ถัง กระจายตามชุมชน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากน้ำประปาไหลอ่อน รวมทั้งดูแลผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ประมาณ 10 คน อย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับระบบไฟฟ้า และระบบอินเทอร์เน็ตที่ได้รับการแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้แล้ว

ส่วนการจราจร เบื้องต้นเปิดให้รถทั่วไปสัญจรผ่านถนนสุโขทัยได้ แต่ยังห้ามรถบรรทุกหนักวิ่งในเส้นทางดังกล่าว ขณะที่ถนนสามเสนบริเวณหน้า รพ.วชิรพยาบาล ยังคงปิดการจราจรอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะปลอดภัย

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ผู้ว่าฯ กทม. ยังได้ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร เพื่อประกาศให้พื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็น “เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่เขตดุสิต” แล้ว เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564 – 2570 แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2564 – 2570 หรือแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ ที่เกี่ยวข้องโดยเร็วต่อไป

ส่วนเรื่องการอุดจุดรั่วด้วยกระสอบทรายนั้น เป็นการอุดเพื่อหยุดการไหลของดิน จะต้องมีการถมด้วยดินและซีเมนต์เพื่อความแข็งแรง แล้วค่อยดำเนินการซ่อมแซมอุโมงค์รถไฟฟ้า และผิวจราจร นอกจากนี้ยังพบว่ามีชิ้นส่วนแผ่นปูนซึ่งเป็นโครงสร้างของสถานีรถไฟฟ้าตกลงไปกีดขวาง ประมาณ 5 ชิ้น หนักถึง 34 ตัน ทำให้การเคลื่อนย้ายต้องใช้เครนขนาดใหญ่ขนาด 150 ตันมาวาง แต่ยังไม่สำเร็จเนื่องจากมีอุปสรรคเกี่ยวกับวัตถุหลายอย่างในหลุม จึงยังไม่สามารถดึงแผ่นปูนดังกล่าวออกมาได้ แต่ถ้านำแผ่นปูนออกมาได้ จะทำให้สามารถอุดรอยรั่วในอุโมงค์ได้ ทำให้ต้องเสริมโครงสร้าง และค้ำยันพื้นของสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ด้านล่างให้แข็งแรง ซึ่งจะเป็นจุดค้ำยันเครนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ รฟม.

โดยเน้นย้ำว่า การแก้ไขต้องทำอย่างระมัดระวัง ไม่เร่งรีบจนเสี่ยงอันตราย ซึ่งแผนปัจจุบันเป็นไปตามแนวทางที่วิศวกร และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องมีความเห็นร่วมกัน ทั้งนี้ สถานการณ์โดยรวมถือว่าควบคุมได้แล้ว แต่สิ่งที่กังวลที่สุดคือ ฝนตก เนื่องจากท่อระบายน้ำในจุดเกิดเหตุชำรุด หากมีฝนปริมาณมากอาจทำให้น้ำไหลลงหลุมได้ จึงได้สั่งการให้อุดท่อทั้ง 4 จุดและเตรียมกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำฝนเพิ่มเติม

นอกจากนี้ กทม. ยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากการสำรวจพบว่า มีผู้ต้องการความช่วยเหลือด้านที่พักอาศัยชั่วคราวแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

  1. กลุ่มผู้พักอาศัยในแฟลตตำรวจ (86 ห้อง) มีที่พักชั่วคราวแล้ว ณ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา, สโมสรสันนิบาต (รวม 54 ห้อง)

  2. กลุ่มเจ้าของอาคารพาณิชย์ (16 หลัง) มีการแบ่งเช่าจำนวน 10 ห้อง (ขณะสำรวจไม่พบผู้พักอาศัย คาดว่าออกไปทำงาน) จึงได้ปิดประกาศห้ามเข้าห้ามใช้ ซึ่งสำนักเขตดุสิตได้จัดศูนย์นันทนาการสวนอ้อยให้เป็นที่พักชั่วคราว มีเตียงบริการ 20 เตียง พร้อมอาหาร น้ำดื่ม

ส่วนแนวทางการจัดการที่พักระยะต่อไป หากหาที่พักเองได้ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะรับผิดชอบค่าที่พักให้ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เนื่องจากเหตุการณ์นี้อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ รฟม.

“มีคนอีกเป็นร้อยคนที่อยู่เบื้องหลัง ขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือกัน นี่คือความเข้มแข็งของคนไทย ถึงเวลาทุกคนมาร่วมมือกันโดยไม่ได้เรียกร้องอะไร คนที่ต่อสายไฟเบอร์ออฟติก ทำให้โรงพยาบาลมีอินเทอร์เน็ตใช้ การประปาช่วยต่อน้ำ นี่คือความเข้มแข็งของเมือง เมืองต้องสามารถกลับมาได้เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน นี่คือบททดสอบไม่ใช่แค่ผม แต่ของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำงาน”

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active