ศป.กฉ. เตรียมเปิดข้อมูลศูนย์อพยพ คลายความกังวลญาติผู้ประสบภัย พบปัญหาอาสาสมัครขาดการประสานงานในพื้นที่ เสนอลงทะเบียนจิตอาสาภาคเอกชน บูรณการความช่วยเหลือ
วันนี้ (26 พ.ย. 68) พลตรี วันชนะ สวัสดี รองโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) เปิดเผยกับ The Active ว่า ขอให้จิตอาสาและภาคเอกชนที่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่อุทกภัย ช่วยรายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) เพื่อบูรณาการการทำงานและป้องกันความซ้ำซ้อน
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่หลายคนสงสัยและต้องการทราบมากที่สุดคือข้อมูลผู้อพยพในศูนย์ต่าง ๆ เพื่อให้ญาติและคนรู้จักสบายใจว่าคนที่เป็นห่วงอยู่ในความปลอดภัย โดยเรื่องนี้มีการหารือกันแล้วในที่ประชุม และคาดว่าในเย็นวันนี้จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพื่อชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับขีดความสามารถของศูนย์รับอพยพแต่ละแห่งว่ารองรับได้กี่คน ปัจจุบันมีผู้อพยพกี่คน และมีใครบ้าง
“เข้าใจเลยครับว่าความกังวลที่เกิดขึ้น บางคนติดต่อญาติไม่ได้” พล.ต.วันชนะ กล่าวถึงความเข้าใจต่อความวิตกกังวลของประชาชน โดยยืนยันว่าในเย็นวันนี้น่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนและมีทิศทางในการคลายข้อข้องใจว่าคนที่ทุกคนเป็นห่วงอยู่ในความปลอดภัยหรือไม่
ภาคเอกชน-อาสาสมัครยังพบความสับสน ขาดการประสานงานในพื้นที่
แม้กองทัพไทยจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยขึ้นแล้ว แต่อาสาสมัครและภาคเอกชนที่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ยังคงพบปัญหาความสับสนในหลายเรื่อง มีหลายประเด็นที่ยังต้องแก้ไข แม้จะมีเครื่องมือพร้อมแต่ยังไม่สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวแทนจากมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้พยายามเชื่อมโยงข้อมูลกับผู้ที่ขอความช่วยเหลือ แต่ในพื้นที่ยังไม่พบเจ้าภาพที่สามารถช่วยชี้เป้าได้อย่างชัดเจนว่าควรเข้าไปให้ความช่วยเหลือจุดไหน บริเวณไหนบ้าง สะท้อนถึงปัญหาการขาดการประสานงานหรือการกระจายข้อมูลที่เป็นระบบในพื้นที่
ขอความร่วมมือภาคเอกชน-อาสา รายงานตัวที่กองบิน 56
พล.ต. วันชนะ ในฐานะโฆษก ศป.กฉ. ส่วนหน้า ซึ่งรับผิดชอบจังหวัดสงขลาที่ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ชี้แจงแนวทางการประสานงานสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่หาดใหญ่ว่า ต้องขอความร่วมมือให้ผู้แทนมูลนิธิต่าง ๆ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ไปเชื่อมโยงกับ ศป.กฉ.ส่วนหน้าที่กองบิน 56 ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการภาพรวมการให้ความช่วยเหลือ มีการจัดส่วนประสานงาน จัดสรรมูลนิธิต่าง ๆ และแบ่งพื้นที่รับผิดชอบอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ ศป.กฉ.ส่วนหน้าได้แบ่งพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ออกเป็นสี่โซนอย่างชัดเจน มีการกำหนดชุมชนที่ชัดเจน รวมถึงระบุหน่วยทหารที่ลงไปช่วยเหลือในแต่ละพื้นที่ไว้อย่างเป็นระบบแล้ว และสามารถช่วยจัดการภาคอาสาสมัครให้เป็นระบบได้เช่นกัน
พล.ต.วันชนะ เน้นว่า “อยากให้ท่านไปรายงานตัว แสดงตนที่ส่วนหน้าก่อน คือกองบิน 56 หลังการรายงานตัว ไปได้เลย ณ เวลานี้ไปได้เลย”
ข้อดีของการรายงานตัวที่กองบิน 56 คือ หน่วยงานจะได้ทราบข้อมูลยุทโธปกรณ์และอุปกรณ์ของผู้เข้าช่วยเหลือแต่ละหน่วยงาน ประการที่สองคือ กองทัพจะสามารถสนับสนุนสิ่งที่จำเป็นได้ เช่น อาหาร น้ำ หรือค่าน้ำมัน เพื่อให้สามารถบูรณาการช่วยเหลือกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบแยกสีประเมินความเร่งด่วน ส่วนหน้ารับข้อมูลทุกชั่วโมง
เมื่อถามถึงการประเมินจุดเสี่ยงและการจัดลำดับความต้องการเร่งด่วน พล.ต. วันชนะ อธิบายว่า ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจง ส่วนหน้าจะรับข้อมูลจากส่วนกลางเป็นรายชั่วโมง โดยมีการส่งข้อมูลมาบอกถึงเคสสีแดง เคสสีส้ม ซึ่งเป็นการแยกสีตามระดับความเร่งด่วน เมื่อทราบว่าอยู่พื้นที่ใดก็จะส่งคนเข้าช่วยเหลือทันที
พล.ต. วันชนะ ยืนยันว่า ถ้าในส่วนงานกองทัพ ปัจจุบันไม่ซ้ำซ้อนแน่นอน แต่เพื่อให้การทำงานราบรื่น กองทัพจึงอยากให้ภาคส่วนเอกชน อาสาสมัครต่าง ๆ ที่ลงไปช่วยได้แสดงตนและแสดงความจำนงที่กองบินก่อน เพราะในพื้นที่ปฏิบัติงานจริง คนที่ลงไปส่วนใหญ่ไม่ใช่คนในพื้นที่ จึงทำให้การทำงานยากขึ้น แต่หากมารวมศูนย์ที่กองบิน 56 จะสามารถบริหารจัดการได้อย่างไม่ซ้ำซ้อน
บริหารจัดการสี่ส่วนหลัก ครอบคลุมทุกมิติ
หลังจากมีการจัดตั้ง ศป.กฉ. แล้ว การบริหารจัดการภาพรวมจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่
- การบริหารจัดการคน การขนย้าย และการแบ่งโซนให้เรียบร้อย
- การบริหารจัดการสิ่งของ การขอความช่วยเหลือ และของบริจาคต่าง ๆ จากหลายแหล่งที่ส่งมายังกองทัพ เมื่อส่งมาถึงส่วนหน้าจะมีการคัดสรรและนำไปปฏิบัติการในพื้นที่
- การจัดการน้ำ เรื่องการผลักดันและถ่ายเทน้ำให้ลดลงให้เร็วที่สุด
- การจัดการข้อมูลข่าวสารให้มีความชัดเจน
ในท้ายที่สุด เมื่อถูกถามถึงข้อเสนอและข้อฝากถึงผู้ประสบภัยและสังคมไทย พล.ต. วันชนะ กล่าวว่า “วันนี้ผมว่าเราต้องให้กำลังใจกันและกัน ทั้งในส่วนผู้ประสบภัย จิตอาสา เข้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนทำอย่างเต็มที่” และได้กล่าวเป็นการยืนยันถึงน้ำใจของคนไทยว่า “มันมีข้อพิสูจน์อย่างนึงว่า น้ำใจคนไทยที่ทวมท้นวันนี้ มีมากกว่าน้ำที่ท่วมอยู่ในปัจจุบัน ขอบคุณทุกภาคส่วน เราจะทำเต็มที่ครับ”
พล.ต.วันชนะ เป็นตัวแทนของกองทัพไทยที่ช่วยยืนยันว่า จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ให้ประสานงานผ่านช่องทางที่กำหนดไว้ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีระบบ ครอบคลุม และไม่ซ้ำซ้อน
