ตั้ง ‘War Room ภาคประชาชน’ เปิดภารกิจ ปฏิบัติการอาสาฯ ฟื้นน้ำท่วมใต้

‘ผอ.มูลนิธิกระจกเงา’ เผยแนวทางการจัดการภัยพิบัติ ต้องทำงานแนวดิ่ง ลงลึกทุกประเด็น ไม่ใช่แค่ติดตามข่าว ชวนผู้มีประสบการณ์เผชิญเหตุ สร้างขบวนการคู่ขนาน War Room ภาครัฐ หวังหนุน อุดช่องว่าง วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้

วันนี้ (27 พ.ย. 68) สมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้อำนวยการมูลนิธิกระจกเงา ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการฟื้นฟูน้ำท่วมภาคใต้ ในรายการพิเศษ มหาอุทกภัยภาคใต้ 2568 ทาง Thai PBS ว่า ขณะนี้มีทีมงานอยู่ในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเป็นทีมที่มีประสบการณ์ตอบโต้เหตุการณ์ภัยพิบัติหลายครั้ง โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมที่แม่สายเมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบันกำลังดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาสาสมัคร และเตรียมการสำหรับงานฟื้นฟู

“อาจจะต้องรอดูนิดหน่อย สถานการณ์ที่ภาคใต้รอบนี้ดูแปลก โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมของฝน มันไว้ใจไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ถือเป็นข่าวดีที่น้ำลดลงไปพอสมควรในบางพื้นที่ที่เรียกว่าแห้งแล้ว แม้จะยังมีแอ่งน้ำขังกระจายอยู่บ้าง แสดงว่าพื้นที่วิกฤตมีขนาดลดลง”

สมบัติ บุญงามอนงค์

สมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้อำนวยการมูลนิธิกระจกเงา

สมบัติ ยังอธิบายถึงการช่วยเหลือ มี 2 รูปแบบหลัก ประกอบด้วย

  1. ผู้อพยพในศูนย์ฯ – เป็นการจัดการแบบไม่วิกฤต เน้นการบริหารจัดการ
  2. คนที่ยังอยู่ในบ้าน – แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย
    – กลุ่มที่อยู่ต่อได้ แต่ต้องมีอาหาร น้ำ และเครื่องอุปโภคบริโภค
    – กลุ่มที่มีความจำเป็นต้องอพยพ เช่น เจ็บป่วย หรืออยู่ในสภาพที่ไม่ได้แล้ว

สมบัติ ชี้ถึงปัญหาสำคัญว่า เมื่อสถานการณ์น้ำลดจะเห็นความกึ่งกลางระหว่างพื้นที่บางพื้นที่เรือเข้าไม่ได้ เพราะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ดอน เรือมาถึงจุดหนึ่งขับได้ แต่พอเจอพื้นที่ดอนก็ขึ้นไม่ได้ พอลงมาก็เป็นน้ำต่อ ส่วนรถก็เข้าไม่ถึงเพราะยังติดน้ำ สถานการณ์นี้ทำให้การบริหารจัดการเพื่อเข้าถึงผู้ประสบภัยมีความซับซ้อนมาก

เมื่อ ‘กลไกรัฐ’ กับ ‘อาสาสมัคร’ ทำงานขนานไปพร้อมกัน

ผอ.มูลนิธิกระจกเงา เน้นว่า การทำงานในฟื้นฟูจากภัยพิบัติต้องแยกระหว่างหน่วยช่วยเหลือภายใต้รัฐกับอาสาสมัครที่ดำเนินการเป็นอิสระ

“รัฐไปสั่งพวกอาสาสมัครไม่ได้ เพราะอาสาสมัครมีเคสอยู่ในมือ ประชาชนแจ้งตรงไปที่มูลนิธิ แต่ละทีมจะอยู่ในจุดพื้นที่ต่างกัน มีความพร้อมและความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน”

สมบัติ บุญงามอนงค์

เขายังอธิบายว่า อาสาสมัครจะประเมินความเสี่ยงด้วยตนเอง เช่น กำลังเรือพอต้านทานน้ำเชี่ยวได้หรือไม่ จากนั้นจะพยายามทำทุกวิธีให้ถึงจุดเป้าหมายเร็วที่สุด แต่ก็ยอมรับว่า ผู้ประสบภัยหลายคนโพสต์ขอความช่วยเหลือในทุกเพจ ทุกหน่วยงาน สร้างความซ้ำซ้อนและเสียทรัพยากร

“มันเป็นเรื่องปกติมากที่จะแจ้งไป 10 หน่วยงาน 100 หน่วย เพราะแจ้งไปแล้วยังไม่มีการช่วยเหลือ บางคนส่งเป็นร้อยครั้ง ทั้งเพจสื่อ มูลนิธิต่าง ๆ”

สมบัติ บุญงามอนงค์

‘จิตอาสาดอทแคร์’ แพลตฟอร์มที่ได้รับการยอมรับ

สมบัติ ยังระบุว่า บทบาทของ JITASA.CARE จิตอาสาดอทแคร์ เคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการจัดการ โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดน่าน ที่ ประชาชนในพื้นที่ใช้จิตอาสาแคร์เป็นแพลตฟอร์มหลัก

“เรามาเป็นพาร์ทเนอร์กับจิตอาสาแคร์ เราลงไปที่ มทบ.42 เพื่อเอาจิตอาสาแคร์ไปนำเสนอที่ War Room ของทหาร แม้ระบบทหารจะใช้กระดาษอยู่ แต่อย่างน้อยหน่วยงานรัฐและสังคมได้มองเห็นจิตอาสาแคร์ชัดเจนว่าควรเป็นแพลตฟอร์มที่ยอมรับได้”

สมบัติ บุญงามอนงค์

อย่างไรก็ตาม ผอ.มูลนิธิกระจกเงา ยังขอให้เลื่อนการถกเถียงเรื่องแพลตฟอร์มไหนถูกต้องไปทำภายหลัง เมื่อสถานการณ์เย็นลง โดยเน้นว่า “ตอนนี้อย่าทะเลาะกัน ทำไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาตั้งต้นกันใหม่”

สมบัติ ยังวิเคราะห์ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีความรุนแรงและซับซ้อนมาก ขนาดของปัญหามีมากกว่าประสิทธิภาพในการตอบโต้ โดยรัฐและภาคเอกชน จึงเกิดช่องว่าง ซึ่งสะท้อนว่าปัญหามีขนาดใหญ่กว่าและซับซ้อนกว่า

ทั้งยังอธิบายว่า เมื่อภัยพิบัติเข้าไปทำลายโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งหนึ่งที่จะถูกทำลาย คือ ระบบบัญชาการของรัฐ ตั้งแต่เทศบาลนครหาดใหญ่ที่ระบบการจัดการล่ม จนถึงผู้ว่าฯ ที่แทบไม่มีมือ

“มันไม่ใช่ไซซ์ที่จะเอาข้าราชการไปลุยได้ จึงต้องมีหน่วยงานที่มีกำลัง มีทรัพยากร มีเครื่องมือเข้าไปบัญชาการ นั่นคือทหาร แต่แม้จะมีทหารเข้าไปแล้ว ก็ยังมีช่องว่างจำนวนมาก เพราะคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นจะเจอข้อมูลข่าวสารที่ตีกันจนไม่มีเวลานั่งสังเคราะห์ว่าอะไรเป็นยังไง มันจะงงไปหมด”

สมบัติ บุญงามอนงค์

สมบัติ บอกอีกว่า แม้คนที่เคยลุยน้ำมาก่อน เมื่อมาเจอเหตุการณ์ในหาดใหญ่รอบนี้ก็มึน เพราะขนาดและความซับซ้อนสูงมาก รวมถึงฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เข้าพื้นที่ยาก

ตั้ง ‘War Room ภาคประชาชน’ ทำงานแนวดิ่ง ไม่ใช่แนวนอน

ด้วยสภาพการณ์ดังกล่าว ผอ.มูลนิธิกระจกเงา จึงเสนอแนวคิด War Room ภาคประชาชน โดยรวบรวมประชาชนที่มีประสบการณ์เคยตอบโต้ภัยพิบัติมาก่อน มีทักษะ มีทรัพยากร มาทำงานร่วมกัน

“แทนที่เราจะดูข่าวแนวนอนตามข่าวทุกเรื่องไปเรื่อย ๆ แล้วทำอะไรไม่ได้ เราตั้งทีมทำแนวดิ่งลงลึก จับประเด็นขึ้นมา แล้วแกะรายละเอียดว่าในแต่ละประเด็นมันต้องการอะไร”

สมบัติ บุญงามอนงค์

สมบัติ ยกตัวอย่างประเด็นที่ต้องทำงานแนวดิ่ง

1. รถน้ำท่วม

  • มีรถน้ำท่วมประมาณ 10,000-20,000 คัน
  • จะลากออกมาอย่างไร ? ใช้เวลากี่วันถึงจะลากรถจำนวนหมื่นคันได้ ?
  • รถที่ปลิวน้ำไป ป้ายทะเบียนหาย จะตามหาเจ้าของอย่างไร ?
  • เมื่อลากได้แล้วจะไปจอดที่ไหน ? มีฐานข้อมูลอย่างไร ?
  • ซ่อมอย่างไร ? ประกันภัยเท่าไหร่ ?
  • มีเรื่องห้ามทำอะไรบ้างเมื่อเจอรถน้ำท่วม ?

2. ศพ

“ตอนนี้เราเจอเรื่องศพแล้ว มีปริมาณพอสมควร ระบบการจัดการเรื่องศพจัดการอย่างไร ? เรารู้ได้ยังไงว่าศพนี้เป็นใคร ? บางศพลอยมากับน้ำ บางศพติดค้างในบ้านหรืออาจลอยไปติดบ้านอื่น”

3. ขยะ

  • พอน้ำลดแล้ว ทุกคนต้องเอาขยะออกจากบ้าน แต่ออกไปไหน ?
  • ถนนจะเดินทางยังไงถ้ามีรถจอด มีขยะกองอยู่ ?
  • ขยะน้ำท่วมเป็นขยะเปียก มีน้ำหนัก มีความคม ถุงดำใช้ไม่ได้
  • ต่อให้ใส่ถุงดำได้ อีกกี่สัปดาห์ถึงจะมาเก็บ ? ถ้าทิ้งไว้เดือนนึง ถุงจะกรอบ พอยกจะขาดกระจาย
  • ต้องใช้เครื่องมืออะไรในการตัก ? ต้องใช้รถดัมหรือไม่ ?
  • จะเอาไปทิ้งที่ไหน ? บ่อขยะอยู่ห่างกี่กิโลเมตร ?
  • ต้องทำลานพักชั่วคราว แล้วค่อยขนต่อ
  • ขยะน้ำท่วมไม่ใช่ขยะครัวเรือนทั่วไป ต้องออก พ.ร.ก.อนุโลมให้จัดเก็บได้ตามกฎหมาย

4. ไฟฟ้า

  • กว่าไฟจะกลับมาใช้ได้อีกหลายวันถึงหลายอาทิตย์
  • ระบบไฟฟ้าในบ้านที่แช่น้ำจะทำยังไง ?

5. การล้างบ้าน

  • ไฟยังไม่มี จึงต้องใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่ใช้เครื่องยนต์
  • มูลนิธิกระจกเงามีเครื่องชนิดนี้ประมาณ 30 ตัว เตรียมเพิ่มอีก 50 ตัว รวมเป็น 100 ชุด เพื่อให้ชาวบ้านและอาสาสมัครยืมใช้

6. ศูนย์ผู้อพยพ – ระวังโรคระบาด

“ตอนนี้เป็นช่วงระบาดไข้หวัดใหญ่ คนอยู่รวมกันหลายพันคน ร่างกายอ่อนแอ แช่น้ำมานาน โอกาสระบาดสูง แต่การจัดการตอนนี้อยู่แค่เรื่องข้าวที่อยู่ที่กิน”

  • หากระบาดในศูนย์อพยพ โรงพยาบาลรับได้หรือไม่ ?
  • ต้องส่งหน้ากาก ถุงมือยาง แอลกอฮอล์ล้างมือไปด้วย

ปัญหาซับซ้อนต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

สมบัติ ยังเน้นว่า ปัญหามีความลึก มีความซับซ้อน การจัดการอาจมีสิ่งที่เราคาดไม่ถึงโดยสามัญสำนึกปกติ แต่เมื่อเก็บรายละเอียดพอแกะดู จะรู้ว่าในแต่ละประเด็นมีรายละเอียด และมันต้องการคนที่คิดเรื่องพวกนี้ และต้องคิดนำด้วย

“คุณอ่านข่าวปีหนึ่งกี่ครั้งเรื่องน้ำท่วม? อย่างน้อย 3 ครั้ง ปีนี้ไล่ตั้งแต่เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ ลงมาอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ขนาดนี้”

สมบัติ บุญงามอนงค์

ดังนั้นเรามีผู้เชี่ยวชาญหรือคนที่ทำเรื่องพวกนี้อยู่เยอะ แต่ถ้าไม่ทำแนวทางพวกนี้เอาไว้ ทุกคนก็มัวแต่จ้องข่าวที่อยู่เฉพาะหน้า

เรียกร้องผู้เชี่ยวชาญ – โดยเฉพาะผู้มีประสบการณ์

สมบัติ ยังประกาศเชิญชวนคนที่สนใจเข้าร่วม War Room ภาคประชาชน โดยเฉพาะ ผู้ที่เคยลุยน้ำมาก่อน ผู้ที่เคยจัดการภัยพิบัติกับน้ำมาก่อน NGO อดีตข้าราชการ นักบริหารจัดการ นักวิชาการ รวมถึงประชาชนที่ดื่มด่ำกับภัยพิบัติที่ผ่านมา

“พวกนี้จะมองเห็น จะเข้าใจพฤติกรรมของภัย พอเห็นพฤติกรรมของภัยแล้ว เวลามองเข้าไปจะสแกนเจอ และเข้าใจว่าข้อจำกัดในเวลานั้นคืออะไร”

สมบัติ บุญงามอนงค์

วิธีการทำงาน ‘War Room ภาคประชาชน’

ผอ.มูลนิธิกระจกเงา อธิบายว่าการทำงานของ War Room ภาคประชาชน ซึ่ง Thai PBS, The Active, มูลนิธิกระจกเงา, เครือข่ายองค์กรวิชาการ และประชาสังคม “กู้วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้” ร่วมกันเป็น “สารตั้งต้น” สร้างขบวนการคู่ขนานไปกับ War Room ภาครัฐ เพื่อหนุนเสริม และอุดช่องว่างที่เกิดขึ้นในสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยจะเกิดขึ้นที่ไทยพีบีเอสทุกวัน ในเวลา 13.00-17.00 น.

โดยจัดแบ่งกลุ่ม 10 ประเด็น ประกอบด้วย

  • การสื่อสารสร้างสรรค์ในภาวะวิกฤต
  • การจัดการรถจมน้ำ
  • การจัดการอาหาร (food data center)
  • การจัดระบบศูนย์พักพิงย่อย
  • การจัดระบบของบริจาค
  • การจัดการระบบอาสาสมัคร
  • การดูแลจิตใจ
  • การป้องกันโรคติดต่อ
  • การจัดการผู้เสียชีวิต
  • การจัดการขยะ
  • การดูแลเด็ก ภัยจากน้ำ

สำหรับระบบการทำงาน : จะจับประเด็นขึ้นมา แต่ละประเด็นต้องมีทีม 3-5 คน แต่ละทีมรับภารกิจไปแล้วแคะประเด็นออกมาว่าเป็นเรื่องยังไง จัดทำรายงานความก้าวหน้าทุกวัน ถ้าถึงขั้นสามารถ implement ได้ ทีมนั้นจะต้องลงไปภาคใต้เพื่อจัดการต่อ

ผอ.มูลนิธิกระจกเงา บอกอีกว่า เหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นช่องว่างระหว่างขนาดปัญหากับประสิทธิภาพการตอบโต้ แต่ก็เป็นโอกาสให้ภาคประชาชนที่มีความรู้ความสามารถได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบผ่าน War Room ภาคประชาชน การทำงานแนวดิ่งลงลึกในแต่ละประเด็นจะช่วยให้เห็นรายละเอียดและช่องว่างที่แท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดและเป็นรูปธรรม

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมหรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามข่าวสารได้ทางมูลนิธิกระจกเงาและ Thai PBS ซึ่งจะมีการประชุมและรายงานความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active