ไทยอากาศร้อนจัด คนใช้แอร์พุ่ง ดันค่าไฟแพงกว่าทุกปี

ไทยอุณภูมิสูงทะลุ 40 องศาเซลเซียส ประชาชนบ่นอากาศร้อนมากกว่าทุกปี จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อคลายความร้อนมากขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้นเกือบเท่าตัว หากรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือก็จะเป็นเรื่องที่ดี

วันนี้ (28 เม.ย.2567) หลายพื้นที่ของประเทศไทยกำลังเผชิญสภาพอากาศร้อนอย่างหนัก กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ฤดูร้อนของประเทศไทย ปกติจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือน ก.พ. ถึงกลางเดือน พ.ค. ของทุกปี รวมระยะเวลา 2 เดือนครึ่ง โดยในช่วงนี้เป็นช่วงที่โลกเคลื่อนที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ และดวงอาทิตย์จะทำมุมตั้งฉากกับเขตโซนร้อนพอดี เนื่องจากประเทศไทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมาก

โดยเฉพาะเดือน เม.ย. บริเวณประเทศไทย ดวงอาทิตย์จะอยู่เกือบตรงศีรษะในเวลาเที่ยงวัน ทำให้ได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์เต็มที่ในช่วงฤดูร้อน และทิศทางลมมีความแปรปรวน บางวันลมมีกำลังอ่อน ประกอบกับมักมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมอยู่เป็นประจำ จึงทำให้อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิบางวันสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

จากอากาศที่ร้อนดังกล่าว จึงทำให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พบว่า ช่วงค่ำวันที่ 27 เม.ย. 2567 ไทยมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเป็นสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์ 36,356.1 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บเฉลี่ยอยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย เป็นผลจากมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่ยังคงไม่ปรับขึ้นค่าเอฟที โดยมีผลไปจนถึงเดือน ส.ค. 2567 แม้การใช้ไฟฟ้าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องนำเข้า LNG เพื่อเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นในการผลิตไฟฟ้า

ผู้สื่อข่าว The Active ของ Thai PBS ได้ลงพื้นที่สำรวจความเห็นประชาชน ทั้งหมดยอมรับว่าปีนี้ประเทศไทยมีอากาศร้อนกว่าปกติจริง ทำให้ต้องใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อคลายความร้อนมากขึ้นกว่าปกติ

คนขับวินมอเตอร์ไซค์ รายหนึ่ง ยอมรับว่า อากาศในไทยตอนนี้ร้อนมากกว่าปีที่แล้ว ที่บ้านมีการเปิดใช้แอร์และพัดลมแทบทุกคืน เพื่อคลายความร้อน ส่งผลให้ค่าไฟปรับเพิ่มขึ้น ปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 บาท ตอนนี้ปรับขึ้นอีก 600-800 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่แปลกที่ค่าไฟปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเพื่อนบ้านก็บ่นเหมือนกันว่าค่าไฟแพงขึ้นกว่าปกติ ถ้ารัฐบาลจะมีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือก็จะดีมาก

ประสิทธิ์ จันทร์ทิพย์ ขับรถตุ๊กตุ๊ก ระบุว่า ร้อนมากกว่าทุกปี คิดว่าตั้งแต่ หลายสิบปีมาไม่เคยร้อนขนาดนี้มีปีนี้ร้อนมากที่สุด ร้อนแบบเดินไปไหนก็อยู่ไม่ได้ ที่บ้านก็เปิดใช้พัดลมและแอร์ เพื่อคลายความร้อน ส่วนค่าไฟเมื่อก่อนปกติ 600-700 บาท แต่หากเปิดแอร์ด้วยค่าไฟจะอยู่ที่ 1,600-1,700 บาท เพราะต้องเปิดแอร์นอนทุกวัน เพื่อสู้กับอากาศร้อน

“ค่าไฟขึ้นเยอะเหมือนกัน เลยครึ่งของครึ่งไป เพราะว่าเราเคยเสียเดือนละ 600-700 บาท มันก็ขึ้นไป 1,600-1,700 บาทต่อเดือน”

ไสว โสรชาติ แม่ขายผลไม้ กล่าวว่า อากาศตอนนี้ร้อนมาก ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 70 ปี ยังไม่เคยเจอสภาพอากาศแบบนี้เลย เคยเป็นลมจากอากาศร้อนมาแล้ว แม้จะเป็นคนต่างจังหวัด ที่บ้านมีพัดลม 2 ตัว แต่ก็ยังสู้อากาศร้อนไม่ค่อยได้ ต้องอาบน้ำหลายรอบ แถมน้ำก็ร้อนด้วย ส่วนค่าไฟตอนนี้อยู่ที่เดือนละเกือบ 600 บาท ตั้งแต่เริ่มเข้าฤดูร้อนค่าไฟแพงขึ้นจากเดิม ซึ่งปกติอยู่ที่ประมาณเดือนละ 300-400 บาท

แม่ค้าขายส้มตำ รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตอนนี้อากาศร้อนมากถึงขั้นหูอื้อ ต้องทำงานกลางแจ้งก็ได้รับความลำบาก ปกติเมื่อก่อนอากาศไม่ร้อนถึงขนาดนี้ โดยที่บ้านจะมีเครื่องทำความเย็นทั้งแอร์และพัดลม ก็มีการใช้งานมากขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน สมัยก่อนค่าไฟที่บ้านอยู่ที่ประมาณ 300 บาทต่อเดือน ปัจจุบันเพิ่มขึ้นถึง 500 บาทต่อเดือน เป็นแบบนี้มาราว 2-3 เดือนแล้ว แม้จะเปิดเครื่องทำความเย็นเฉพาะกลางคืนก็ตาม ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลช่วยเหลือการลดค่าไฟ ถ้าหากช่วยได้ก็อยากให้ลดเหมือน ๆ กันทุกคน

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active