ความไม่แน่นอนจากการต่อใบอนุญาตทำงานของแรงงานกัมพูชา

แรงงานกัมพูชากังวลอนาคตการต่อใบอนุญาต นายจ้างมองควรแยกประเด็นการทำงานกับความขัดแย้งระหว่างประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ หลังกระทรงแรงงานแถลงชะลอผ่อนผันแรงงานกัมพูชาเข้าสู่ระบบ

ดรีม แรงงานชาวกัมพูชา วัย 44 ปี เปิดเผยว่า เดินทางผ่านชายแดนมาอาศัยอยู่ในไทยตั้งแต่อายุ 12 ปี จนทุกวันนี้เขาทำงานรับจ้างก่อสร้าง ได้รายได้วันละ 500 บาท

หลังจากเกิดสถานกาณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในปีนี้ ทำให้ดรีมรู้สึกเป็นห่วงญาติฝั่งกัมพูชา รวมถึงคนทางฝั่งไทยด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่เห็นแรงงานกัมพูชาหนีกลับบ้านกันไปเยอะ ทำให้รู้สึกว่าอยากกกลับบ้าง แต่ก็กลัวว่าจะทำให้ขาดรายได้จากการทำงานที่ไทย 

สถานะการทำงานตอนนี้ ใบอนุญาตทำงาน วีซ่าทำงาน พาสปอร์ต ยังคงอยู่ในสถานะปกติ ถูกต้องตามกฎหมาย แต่กำลังจะหมดอายุในปีหน้า โดยมีนายจ้างคอยช่วยดูแลให้ ส่วนตัวดรีมก็มีความกังวลเล็กน้อยว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ยังไม่คลี่คลาย อาจทำให้ในอนาคตการต่อใบอนุญาตทำงานนั้นยากขึ้น ทางกระทรวงแรงงานจะต่อให้หรือยกเลิกทั้งหมด

เอกสารที่ต้องใช้ต่อใบอนุญาตการทำงาน นายจ้างจะเป็นคนช่วยเตรียมให้ ส่วนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แรงงานต้องออกเอง ทั้งค่าประกันสุขภาพ ค่าต่อวีซ่า บัตรสีชมพู หรือบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย

ดรีมยังบอกอีกว่า ความกังวลอีกเรื่องในตอนนี้คือ การเดินทางข้ามฝั่งไปกัมพูชาตอนนี้ค่อนข้างยาก เวลาพ่อแม่ไม่สบายก็ข้ามไปหาไม่ได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน ทำได้แต่ส่งเงินกลับบ้าน

สิ่งที่อยากได้รับในฐานะที่เป็นหนึ่งกำลังแรงงานในประเทศไทย คือ อยากให้สถานการณ์การเมืองระหว่าง 2 ประเทศกลับมาดีเหมือนเดิม ไม่อยากให้ขัดแย้งกันแบบนี้

ด้าน ธนชาติ จิตรสกุล นายจ้างแรงงานข้ามชาติ กล่าวว่า จากการนายกฯ อนุทิน ตีกลับไม่อนุญาตแรงงานกัมพูชาที่ใบอนุญาตหมดอายุอยู่ในประเทศไทยตามที่รัฐบาลก่อนเสนอไว้ใน ครม. ในมุมนายจ้างมองว่ากลุ่มที่ใบอนุญาตหมดอายุ หรือไม่มีใบอนุญาตทำงานไม่ใช่คนที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่แล้ว

กลุ่มนี้ก็มีคนอยู่จำนวนหนึ่งที่นายจ้างอยากจะรับเข้ามาทำงานเพิ่ม เพื่อทดแทนกลุ่มแรงงานที่มีใบอนุญาตแล้วกลับบ้านไป มีประกาศว่าจะขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่ก็ถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด 

นอกจากนี้ยังได้ยินข่าวมาว่าแรงงานกัมพูชา อาจจะมีเงื่อนไขพิเศษเยอะขึ้น ถ้าคนงานไม่เข้าเงื่อนไข อย่างเช่น ไม่มีพาสปอร์ตจะขึ้นทะเบียนไม่ได้ และยังไม่รู้เงื่อนไขอีกหลายอย่าง ปัญหาที่ตามมา นายจ้างไม่สามารถเพิ่มคนงานแทนที่ออออกไปไปได้

ในช่วงที่ผ่านมาที่แรงงานกัมพูชาเดินทางกลับ เนื่องจากหวาดกลัวสถานการณ์ชายแดน ก็ได้หาแรงงานเมียนมาเข้ามาทดแทน แต่ก็ต้องมาฝึกทักษะกันใหม่ เนื่องจากไม่เคยทำงานก่อสร้าง คนคุมงานก้บอกว่ามีทักษะแตกต่างกับแรงงานกัมพูชา    

แรงงานกัมพูชา หรือสัญชาติไหนก็ตาม มองว่าการทำงานกับความขัดแย้งควรแยกประเด็นกัน เพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แถลง นโยบายการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะแรงงานกัมพูชาในไทย และมาตราการของกระทรวงแรงงานเพื่อเติมแรงงานกลับเข้าสู่ระบบ ว่า ครม.เห็นชอบมาตรการแรงงาน ผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติ เมียนมา ลาว เวียดนาม เข้าสู่ระบบ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ส่วนแรงงานกัมพูชาชะลอไปก่อน ส่วนกลุ่มที่ใบอนุญาตยังไม่หมดอายุก็ยังสามารถทำงานได้ปกติ ทางรัฐบาลก็พยายามดูแลแรงงานกลุ่มนี้อย่างเหมาะสมอยู่แล้ว

กระทรวงแรงงาน จะมีการสำรวจตัวเลขให้แน่ชัด ว่าแรงงานกัมพูชามีกลุ่มไหนบ้าง ทั้งที่หมดอายุแล้ว และยังไม่หมดอายุ โดยสำรวจแต่ละจังหวัดว่ามีแรงงานกัมพูชาจำนวนเท่าไหร่ อยู่ในสถานประกอบการเท่าไหร่

ตรีนุช บอกว่า เนื่องจากสถานการณ์ที่ฉุกละหุกมาก ก็ไม่ได้ถึงขนาดจะไปทำงานให้แรงงานกดดัน ถ้าไม่มีเรื่องของความมั่นคงใด ๆ ขณะนี้ก็จะไม่ได้มีมาตรการที่ไปตรวจจับที่รุนแรง ซึ่งจะรีบหาแนวทางปฏิบัติให้เร็วที่สุด

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active