ยอมรับ มหาอุทกภัยหาดใหญ่ กระทบหนักเกินกำลังรัฐรับมือไหว เตรียมชง ครม.เพิ่มเพดานเงินช่วยเหลือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย เสียหายจากภัยพิบัติ พร้อมสนับสนุนสร้างเครือข่ายอาสาสมัคร ร่วมฟื้นชุมชนสร้างอาชีพผู้มีรายได้น้อย
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 68 อัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่ชุมชนบ้านมั่นคงเมืองควนลัง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อีกชุมชนผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมหนักในพื้นที่หาดใหญ่ ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยประชาชนพังเสียหาย โดยมอบเงินช่วยเหลือตามโครงการการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับผู้ประสบภัยพิบัติ ภายใต้งบประมาณสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ที่จ่ายตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท จำนวน 40 หลังคาเรือน

รมว.พม. ยอมรับว่า มหาอุทกภัยหาดใหญ่ กระทบหนักเกินกำลังรัฐรับมือไหว เงิน 40,000 บาท อาจไม่เพียงพอ แต่ถือเป็นเงินตั้งต้นช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้ทาง พม. ได้มีการทำงานประสานกับภาคเอกชนที่อยากเข้ามาทำงานร่วมมือในการแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ โดยนำเงินที่ทำ CSR มาช่วยประชาชนที่เดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ โดยเฉพาะหาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด มีหลายบริษัทตอบรับร่วมบริจาคเงินมาแล้ว
“เพราะต้องยอมรับว่า รองบประมาณทางภาครัฐไม่ทัน 40,000 บาท ตามอำนาจที่ พม.มีอยู่ ไม่เพียงพอ ต้องเอาของภาคเอกชนที่ทำ CSR มาผนวกรวมกันให้เร็วที่สุด แล้ววันนี้ก็มา Quickwin ที่นี่ ก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้”
อัครา พรหมเผ่า

อัครา เปิดเผยด้วยว่า เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี เพิ่มเพดานเงินช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านผู้มีรายได้น้อยที่เสียหายจากภัยพิบัติ จาก 40,000 บาท เป็น 100,000 บาท
“ยืนยันครับ มีการชงเข้า ครม.แน่นอน เพราะเป็นนโยบายท่านนายกฯ นโยบายรัฐบาล เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ประชุมเมื่อวันจันทร์ตอนบ่ายโมงครึ่งที่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งตนได้ร่วมด้วยก็หารือกันเร่งด่วนในเรื่องสถานการณ์นี้”
อัครา พรหมเผ่า
รมว.พม. ยังยืนยัน พร้อมสนับสนุนสร้างเครือข่ายอาสาสมัครร่วมฟื้นชุมชนสร้างอาชีพผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะในสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ ที่ต้องอาศัยอาสาสมัคร และการฟื้นคืนอาชีพ เพราะการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครเป็นเรื่องสำคัญมาก ทั้งนี้นโยบายที่สำคัญที่สุด ที่ทาง พม.ดูแลกลุ่มเปราะบาง คือ อยากจะส่งเสริมอาชีพให้คนสามารถดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือแม้แต่เด็กแรกเกิดที่อยู่ในบ้าน มีหลักสูตรในการส่งเสริมอาชีพ การดูแลกลุ่มเปราะบางในบ้าน ด้วยการสนับสนุนในการส่งคนที่มีผู้สูงอายุผู้ป่วยติดเตียง เด็กที่ต้องได้รับการดูแลที่อยู่ในบ้านไปเรียนหลักสูตรอบรมครบ 240 ชั่วโมง ก็จะให้ไปรับรองเป็นอาชีพสามารถเป็นนักบริบาลดูแลผู้ป่วยติดเตียงได้ทั่วประเทศ

แต่สำคัญที่สุด พม.จะส่งเสริมให้คนมีงานในบ้าน คือนอกจากคนไม่ได้ทำงานนอกบ้านแล้วเวลาที่มาดูแลผู้สูงอายุก็เป็นนักบริบาลในบ้านดูแลบุพการี ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงในบ้าน ก็ไปช่วยสังคมต่อในชุมชน เป็นนโยบายสร้างสุข พยายามจะอบรมให้ได้มากที่สุด ซึ่งได้ทำ MOU กับทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มีโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเรียบร้อยแล้ว
ส่วนในเรื่องของภาคีเครือข่ายหวังว่า ระยะสั้นสั้นไม่กี่เดือนที่ดำรงตำแหน่ง จะร่วมกันยกร่าง MOU กับหลายหน่วยงาน วันนี้ก็ใช้ MOU เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ 4 กระทรวง คือ กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ MOU ร่วมกับท้องถิ่น ใช้ภาคีเครือข่ายนี้ให้ท้องถิ่นชี้เป้าสร้างจิตอาสา ที่จะเป็นภาคีเครือข่าย ก็เข้ามาสร้างบุคลากรที่จะเข้ามาเยียวยาดูแลรักษาคนเปราะบาง
“ที่เราตั้งใจทำไว้ก็คือทิศทางการทำงาน พม.ใกล้คุณ คนเรามีน้อย สำคัญคือต้องสร้างเครือข่ายท้องถิ่นมาเป็นแนวร่วมในการขับเคลื่อนทำงานดูแลคนเปราะบาง ไปพร้อมกับการฟื้นและสร้างอาชีพ”
อัครา พรหมเผ่า
