หาดใหญ่ยังไม่จบ! ส่งไม้ต่อรัฐ-ท้องถิ่น เร่งซ่อมบ้านชุมชนเปราะบาง

‘War Room ภาคประชาชน’ ประเมินภารกิจหลัง Big cleaning หาดใหญ่ ชี้ ความซับซ้อนสิทธิที่ดินกลุ่มชุมชนเปราะบาง ทำซ่อมแซมบ้านเจอข้อจำกัด ย้ำ ไร้อำนาจหน้าที่ ทรัพยากร เตรียมส่งต่อหน่วยงานรัฐ ท้องถิ่น จัดหาที่อยู่อาศัยชั่วคราว ระหว่างรอกระบวนการช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย พร้อมเดินหน้าจัดงานวันเด็ก หวังสร้างความทรงจำที่ดีต่อภัยพิบัติ

WarRoom ภาคประชาชน สรุปผลงานหลัง Big cleaning หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวระยะเริ่มต้นของเมือง โดยภารกิจที่เห็นว่ายังไม่แล้วเสร็จ คือ การจ้างงานซ่อมสร้างบ้าน การแบ่งปันในชุมชนเปราะบาง ยังมีความต้องการอย่างเร่งด่วน คือ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องนอน หม้อหุงข้าว กาน้ำร้อน และเตาแก๊ส

อรุณสวัสดิ์ ภูริทัตพงศ์ เลขานุการ War Room ภาคประชาชน เปิดเผยกับ The Active ว่า การซ่อมแซมและสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ประสบภัย มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะเรื่องสิทธิที่ดินและที่ทำกิน พื้นที่ชุมชนริมทางรถไฟ ซึ่งได้รับความเสียหายหนักมาก

โจทย์สำคัญคือ จะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้ มีที่อยู่อาศัยชั่วคราวระหว่างรอเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือของภาครัฐ ซึ่งทาง War Room ภาคประชาชน ได้เร่งหารือเรื่องนี้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากบางส่วนจะอยู่ให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้

“เราเป็นเพียงภาคประชาสังคม มีข้อจำกัดทั้งด้านอำนาจหน้าที่และทรัพยากร ไม่สามารถสนับสนุนได้เต็มที่เท่ากับหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงอย่างท้องถิ่น เทศบาล อบจ. หรือทางจังหวัด เราจึงต้อง ส่งไม้ต่อ ข้อมูลและภารกิจให้กับหน่วยงานเหล่านี้ เช่น การสร้างที่พักขนาดเล็กให้พออยู่อาศัยได้ก่อน โดยเฉพาะบ้านที่มีกลุ่มเปราะบางซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สุด”

อรุณสวัสดิ์ ภูริทัตพงศ์

เลขานุการ War Room ภาคประชาชน ยังมองด้วยว่า การเร่งให้ความช่วยเหลือที่อยู่อาศัยกลุ่มคนจนเมืองในหาดใหญ่ ยังสัมพันธ์ต่อการเปิดเมือง เพราะเหล่านี้คือ แรงงานสำคัญ ที่ขับเคลื่อนเมืองหาดใหญ่ หากมุ่งเน้นแต่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาพรวม โดยละเลยความเป็นอยู่ของคนตัวเล็กตัวน้อย จะทำให้การแก้ปัญหาไม่ครบถ้วน

การจะทำให้เมืองเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขไปพร้อมกันทั้งระบบ เพื่อให้ทุกคนสามารถกลับมาตั้งหลักและเติบโตไปพร้อมกับเมืองได้อีกครั้ง

เตรียมจัดงานวันเด็ก ‘หาดใหญ่ใจฟู’ สร้างความทรงจำที่ดีต่อภัยพิบัติ

ขณะที่ ทีมทำงานด้านเด็ก และเยาวชนเตรียมจัดงานวันเด็ก เห็นชอบแนวคิด เด็กฟื้นฟูผู้ใหญ่ จัดกิจกรรมต่อเนื่อง โดยมีทีมกลาง และเครือข่ายใหม่ๆ เข้าร่วม ได้แก่ กลุ่มมานีมานะ ทีมจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ทีมเยาวชน save ใจ young สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) เทศบาลนครหาดใหญ่ คณะแพทย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  มูลนิธิอาสาสร้างสุข โรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ ร้านป่ายาง เป็นต้น

โดยทีมทำงานด้านเด็ก และเยาวชนเ เห็นตรงกันว่า ทัศนคติต่อกิจกรรมสำหรับเด็กหลังประสบภัย เด็กทุกคนจะมีความทรงจำต่อภัยพิบัติ ควรใช้วิกฤตนี้แปรเป็นพลังเชิงบวกเพื่อให้เขาสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง บนฐานคิดว่าเด็กยังโชคดีที่เอาตัวรอดมาได้ มีการช่วยเหลือที่มาจากความร่วมมือร่วมใจ มีความเข้มแข็ง

ทัศนคติเชิงบวกดังกล่าว จะนำเสนอผ่านงานศิลปะช่วยกล่อมเกลา อาทิ ละคร เพลง นิทาน ของเล่นเด็ก หรือสัญลักษณ์เช่น มด ซึ่งทีม สสย.เชื่อว่าการเล่นอย่างมีอิสระของเด็ก จะช่วยเยียวยาเด็ก สร้างความทรงจำที่ดี ก่อนหน้านี้ก็ได้ทำกิจกรรมนำร่องไปในหลายชุมชน เด็ก ๆ สามารถเล่นกับสิ่งของที่มีตามสภาพแวดล้อมรอบข้าง เช่น ขวด ลังกระดาษ และไม่จำเป็นต้องตอกย้ำด้านภัยพิบัติอย่างเดียว ระยะยาวควรประสานส่งต่อไปยังโรงเรียน หรือศูนย์เด็กเล็กทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว

กิจกรรมสำหรับเด็กวันเด็กปีนี้ แบ่งออกเป็น 5 ระยะ ประกอบด้วย

• ระยะที่ 1 ก่อนถึงวันเด็ก หาจิตอาสาที่มีความรู้ด้านสุขภาพจิตลงชุมชนเปราะบางช่วยเหลือเยียวยาเด็กในพื้นที่ เช่น สัจจกุล ป้อมหก
  
  
• ระยะที่ 2 กิจกรรมวันเด็ก ณ สวนสาธารณะหาดใหญ่ วันเสาร์ที่ 10 ม.ค. 69 เวลา 08.00 – 17.00 น.ประสานกิจกรรมกับโรงเรียนในพื้นที่ ณ ศาลากลางน้ำ ไปถึงหอศิลป์และหอดูดาว ปีนี้ปรับรูปแบบทำงานกับเครือข่ายใต้ แนวคิด “หาดใหญ่ใจฟู” มีกิจกรรมให้เด็กได้เล่นสนุกหลากหลาย อาทิ ละครเร่จาก 4 กลุ่มละคร ของเล่นใหญ่ใจฟู 13 ชุด ฐานการเรียนรู้ของกลุ่มต่างๆ ของแจกที่เป็นของเล่น  โดยเทศบาลนครหาดใหญ่ประสานอำนวยความสะดวกในเรื่องเต้นท์ ไฟฟ้า ประสานอบจ.อำนวยความสะดวกในส่วนของรถตุ๊กตุ๊ก วิ่งบริการรับส่ง ณ จุดต่าง ๆ รอบเมือง (หรือรถทหาร) โดยมีนักเรียนเยาวชนอาสารับฟังวัยเด็ก ม.6 จาก โรงเรียน ท.1 มาช่วยอำนวยความสะดวกให้เด็ก (มีกำลังราว 60 คน)
  
  
• ระยะที่ 3 ช่วงตรุษจีน 17 ก.พ.69 จัดกิจกรรมร่วมกับ ไทยพีบีเอส สื่อสารผ่านเรื่องเล่า นิทานเมือง นำเสนอนิทรรศการ ฮีโร่ประจำซอย/เมือง เห็นการช่วยเหลือของคนในชุมชน แรงงานเมียนมาที่ช่วยคนไทย พร้อมประสานโรงเรียน สถานศึกษา อบจ. ประกวดเรื่องเล่า พร้อมรางวัล
  
  
• ระยะที่ 4 ช่วงปิดเทอม ทำค่ายเด็ก มีละครเร่ไปยังชุมชน พร้อมเปิดละครเวที ที่โรงแรมลีการ์เดนส์
  
  
• ระยะที่ 5 ทำกิจกรรมระยะยาวกับชุมชน เสริมงานชุมชน ที่กำลังขับเคลื่อน 3 โซน