กสม. ออกแถลงการณ์ กรณีเหตุกราดยิงฯ ระบุ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ขอรัฐเร่งช่วยเหลือ เยียวยาจิตใจ และวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยเฉพาะในเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง วอนสื่อใช้ความระมัดระวัง
วันนี้ (6 ต.ค. 2565) จากกรณีเหตุกราดยิงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง กรณีเหตุกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
ตามที่ปรากฏเหตุอดีตตำรวจนายหนึ่งก่อเหตุกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ก่อนปลิดชีพตนเองพร้อมลูกและภรรยา เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (6 ตุลาคม 2565) เป็นเหตุให้มีเด็ก และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนหลายสิบรายเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ นั้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอประณามการก่อเหตุอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงดังกล่าว และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวและญาติมิตรของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุอุกอาจสะเทือนขวัญที่กระทำด้วยความโหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม และผิดต่อกฎหมาย อันพรากสิทธิในชีวิตและร่างกายของหลายคนไปอย่างไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นกับเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่สุดของสังคมซึ่งสมควรต้องได้รับการปกป้องยิ่ง ดังที่หลักการสิทธิมนุษยชนสากลและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 28 ได้บัญญัติคุ้มครองสิทธิในชีวิตและร่างกายของทุกคนไว้ เช่นเดียวกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีซึ่งกำหนดให้รัฐภาคียอมรับว่าเด็กทุกคนมีสิทธิติดตัวที่จะมีชีวิต และประกันอย่างเต็มที่ให้เด็กได้มีชีวิตอยู่รอดและได้รับการพัฒนา
กสม. จึงขอเรียกร้องให้ภาคส่วนต่าง ๆ ปฏิบัติและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุสลดครั้งนี้ร่วมกัน ดังต่อไปนี้
- ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหาย และฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็วและทั่วถึง
- ขอให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งสอบสวนมูลเหตุที่มาของการก่อเหตุ และวางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดอันกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางเช่นนี้ได้อีก
- ขอความร่วมมือสื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในการนำเสนอข่าว เผยแพร่ หรือส่งต่อภาพ/คลิปวิดีโอความโหดร้ายและรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมความรุนแรงหรือความเศร้าสลดอันส่งผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจของญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ และทำให้บุคคลทั่วไปสามารถล่วงรู้ถึงตัวตนของบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เสียหายหรือครอบครัวของผู้กระทำผิดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวและสิทธิในชื่อเสียงเกียรติยศของบุคคลตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 32 รวมทั้งแนวปฏิบัติการได้มาและการนำเสนอข่าวและภาพข่าวของสื่อมวลชนโดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ตกเป็นข่าว ที่ร่วมกันกำหนดโดยสภาวิชาชีพสื่อมวลชน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
6 ตุลาคม 2565