เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน จัด Run2Free วิ่งจากลานคนเมือง ถึง ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ประกาศจัดกิจกรรมต่อเนื่อง หวัง สส. สงวนความเห็นชั้น กมธ.วิสามัญฯ สู้ต่อในสภา พร้อมเรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมือง
วันนี้ (27 ก.ย. 2568) กิจกรรม “Run2Free | วิ่งเพื่อเสรีภาพ” เริ่มออกจากจุดปล่อยตัวบริเวณลานคนเมือง ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เวลาประมาณ 17.00 น. วิ่งผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึงจุดสิ้นสุดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ บนถนนสายประวัติศาสตร์ รวมระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมภายใต้ความร่วมมือขององค์กรภาคประชาสังคมต่าง ๆ ในนามเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ที่ชวนทุกคนใส่เสื้อสีดำ สวมรองเท้าคู่โปรด และออกมา “วิ่ง” หรือเดิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการ “ไม่นิ่ง” และส่งเสียงเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องขังทางการเมือง

ภายในงานมีการใช้สัญลักษณ์เรียกร้องเพื่อระลึกถึงนักโทษที่ยังถูกคุมขัง ทั้ง “วิ่งเพื่อเสรีภาพ” หรือ “อย่าลืมนักโทษคดีการเมือง” มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัว เช่น “ปล่อยเพื่อนเรา” หรือ “นิรโทษกรรมประชาชน” รวมถึงข้อเรียกร้องต่อกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะมีป้ายประจำตัวนักวิ่ง (BIB) แสดงชื่อ รูป และข้อมูลของผู้ถูกคุมขังคดีการเมืองทั้ง 57 คน

นอกจากนี้ ยังสังเกตได้ว่า ผู้เข้าร่วมบางรายได้นำลูกเล็กมาเข้าร่วมการวิ่งหรืออยู่ในรถเข็นเด็กด้วย ขณะที่นอกจากกลุ่มนักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว ยังมี สส.พรรคประชาชน เช่น ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และเซีย จำปาทอง, อดีต สส. พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล อย่าง พรรณิการ์ วานิช และ เบญจา แสงจันทร์ รวมถึง ศ.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำหรับกิจกรรม #วิ่งเพื่อเสรีภาพ เป็นการต่อยอดจากกิจกรรม “ยืนหยุดขัง” ซึ่งเปลี่ยนการ “ยืน” เป็นการ “วิ่ง” สร้างการรับรู้ให้กว้างขึ้น โดยภายในงานยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ดนตรีสดจากโฟล์ค Vitamin D from The Sun & Sunman และวงพูดคุย “ความหวัง ชีวิต และอิสรภาพ” บอกเล่าเรื่องราวของ 2 นักโทษคดีการเมืองในเรือนจำ ได้แก่ เก็ท – โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง และอานนท์ นำภา จาก ทพ.เทพดรุณ สุรฤทธิ์ธำรง (พ่อของเก็ท) และปฐมพร แก้วหนู (Freedom Bridge) รวมถึงการแสดงแรปสดที่แต่งระหว่างถูกคุมขัง จากบุ๊ค Eleven Finger
ภายในงานได้มีการเปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมครั้งถัดไปในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งจะตรงกับช่วงที่ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมจะเข้าสภาฯ เพื่อโหวตในวาระ 3
ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw หรือ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน เปิดเผยว่า ปัจจุบันคณะกรรมาธิการนิรโทษกรรมฯ ได้พิจารณาในวาระที่ 2 เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่รวมความผิดคดีอาญามาตรา 110 (ประทุษร้ายพระราชินี) และมาตรา 112 (หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์) อย่างไรก็ตาม ทาง สส.พรรคประชาชน ได้ขอสงวนความเห็น เพื่อโหวตในห้องประชุมใหญ่อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นโค้งสำคัญและโค้งสุดท้ายที่ประชาชนจะสามารถส่งเสียงเรียกร้อง ยืนยันว่าการนิรโทษกรรมต้องรวมคดีมาตรา 110 และ 112 ด้วย