คืนความเป็นธรรมสิทธิที่ดินดั้งเดิม ขณะที่ ประธานกรรมาธิการฯ ยัน แล้วเสร็จภายในตุลาคมนี้ ย้ำ มีกระบวนการกลั่นกรอง คืนสิทธิประชาชนที่ได้รับผลกระทบนโยบายรัฐเท่านั้น ไม่เอื้อทุน และนอมินี
วันนี้ (9 ต.ค. 68) เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐ และได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ด้านป่าไม้และที่ดิน ซึ่งประกอบด้วย ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.), เครือข่ายกะเหรี่ยงตะวันตกเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ปี 2557 อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี, ผู้ได้รับผลกระทบนโยบายทวงคืนผืนป่าและการพัฒนาตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี, ผู้ได้รับผลกระทบจากการทวงคืนผืนป่า และนโยบายจัดที่ดินทำกิน คทช. ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี, ผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนพื้นป่าในพื้นที่อำเภอวังเหนือจังหวัดลำปาง และผู้ได้รับผลกระทบจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน
ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติพ.ศ. … เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล และ ซูการ์โน มะทา ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ

โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ นับจากสภาผู้แทนราษฎรได้ประชุมพิจารณาและลงมติรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติยกเว้นความผิดให้แก่บุคคลที่ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายด้านป่าไม้และที่ดิน พ.ศ. … (ซูการ์โน มะทาและคณะ เป็นผู้เสนอ) และร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ. … (เลาฟั้ง บัณฑิตเทิดสกุล กับคณะ เป็นผู้เสนอ) เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 และได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นคณะหนึ่งเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้นั้น
เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐ และได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ด้านป่าไม้และที่ดิน ร่วมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้ติดตามการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้มาอย่างต่อเนื่อง ขอเสนอข้อเสนอต่อการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรรมฯ ฉบับนี้ ดังนี้
- เราขอยืนยันว่า การดำเนินการตามนโยบายด้านการจัดการด้านที่ดินและป่าไม้ของรัฐที่ผ่านมา มีคนจน ผู้ยากไร้กลุ่มชาติพันธุ์ คนชายขอบ ได้รับความเสียหายและผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวจำนวนมากทำให้พวกเราไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะไม่มีความมั่นคงในที่ดินที่อยู่อาศัย ถูกแนวเขตที่ดินของรัฐทับที่ทำกิน ทั้ง ๆ ที่อยู่มาก่อนการประกาศเขตป่าของรัฐ ทำให้เราผู้บุกเบิกกลายเป็นผู้บุกรุกในที่ดินของตนเอง ขณะที่การประกาศเขตป่าไม้และที่ดินในหลายพื้นที่ พบว่ามีนายทุน หรือมีอิทธิพล และคนร่ำรวย ซึ่งเป็นแค่คนส่วนน้อยได้ยึดครองที่ดินจำนวนมาก ขณะที่คนจนผู้ยากไร้จำนวนมากกลับไม่มีที่ดินที่ทำกิน แม้อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐ ก็ไม่มีมั่นคงถูกคุกคามด้วยการดำเนินคดี โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์รัฐประหารปี 2557 มีคดีที่เกิดจากนโยบายทวงคืนผืนป่ากว่า 48,000 คดี
- เราขอยืนยันว่า การดำเนินการตามนโยบายทวงคืนผืนป่า คือ รูปธรรมความล้มเหลวในการจัดการทรัพยากรป่าไม้แบบรวมศูนย์ผูกขาดของรัฐที่ไม่อาจจัดการกับกลุ่มนายทุนบุกรุกผืนป่าได้ แต่รัฐกลับมาดำเนินคดีกับคนจนผู้ยากไร้แทน เราเหล่านี้ คือ “เหยื่อ” ผู้ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านป่าไม้ที่ดิน ทำให้เราไร้สิทธิ์ที่จะอยู่บนผืนดินของตนเอง ครอบครัวล่มสลาย มีปัญหาหนี้สิน อันมีสาเหตุมาจากนโยบายการจัดการที่ดินและทรัพยากรของรัฐ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาเราคือผู้สร้างประโยชน์ในการพัฒนาประเทศด้วยความมานะอดทนทำมาหากินโดยสุจริตบนผืนดินของบรรพชนที่บุกเบิก หากินเลี้ยงชีพบนฐานของการทำเกษตรกรรมเลี้ยงแบบพอมีพอกิน เราไม่ใช่นายทุน มิใช่อาชญากรรรมของแผ่นดิน หากแต่ดำเนินการของรัฐดังกล่าว เราคือ เหยื่อจากนโยบายรัฐที่ผิดพลาด
- เราขอสนับสนุนและให้เร่งรัดผลักดันกฎหมายฉบับนี้ อันจะนำมาซึ่งการคืนสิทธิและความเป็นธรมทั้งปวงให้กับพวกเราผู้เสียหายและได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและป่าไม้ กฎหมายฉบับนี้จะก่อให้เกิดความเป็นธรรม สันติสุข ภายใต้สิทธิมนุษยชนสากล ถึงเวลาแล้วที่สภาผู้แทนราษฎร จะได้ร่วมกันสร้างความถูกต้อง เรื่องแนวเขตที่ดินของรัฐ ภายใต้หลักประชาธิปไตย เคารพสิทธิชุมชน สร้างความมั่นคงในการดำรงวิถีชีวิต ภายใต้การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลเป็นธรรมและยั่งยืน
ขอเร่งคืนความเป็นธรรม ชาวบ้านเสียโอกาสมากพอแล้ว
กิตฌพัฒน์ จ้ายนอก ชาวบ้านไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า ครอบครัวตน และชาวบ้านในพื้นที่ อยู่อาศัยทำกินในที่ดินบรรพบุรุษมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า อยู่มาก่อนการประกาศเขตอุทยานและการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่ในปี 2554 ถูกดำเนินคดีจับกุมข้อหาบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ ร่วมกับพี่น้องชาวบ้านกว่า 500 คดี ซึ่งรวมพ่อของตน ที่ถูกดำเนินคดี
“14 ปี ในการต่อสู้คดี สูญเสียเงินทอง จ้างทนาย ไปขึ้นศาล ต้องขายวัวขายความที่เลี้ยงมาสู้คดี ล่าสุดเพื่อบ้านถูกศาลฎีกาตัดสินความผิดจำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสนบาท ไม่รอลงอาญา ทำให้พ่อเครียดหนัก เพราะมีนักขึ้นศาลวันที่ 28 สิงหาคม จึงตรอมใจและหัวใจล้มเหลว เสียชีวิตเมื่อ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ครอบครัวได้รับผลกระทบและการสูญเสียหนักจากความไม่เป็นธรรม จึงหวังให้เร่งดันร่างกฎหมายนี้คืนความเป็นธรรมให้ประชาชน”
กิตฌพัฒน์ จ้ายนอก


เช่นเดียวกับ สุรชัย บุญจิราวัฒน์ ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนพื้นป่า ในพื้นที่อำเภอวังเหนือจังหวัดลำปาง กล่าวว่า มีประชาชนใน 13 หมู่บ้าน 600 ครัวเรือน ในพื้นที่รวมกว่า 8,000 ไร่ ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมและดำเนินคดีจากนโยบายทวงคืนผืนป่า กระทบชีวิตทุกมิติ ความไม่มั่นคงในที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย จึงหวังให้กฎหม่ยนี้ช่วยล้่งมลทิน คืนความเป็นธรรมให้ประชาชนจากนโยบายที่กระทบสิทธิชุมชน
คาด กม.แล้วเสร็จภายในตุลาคมนี้
ชี้มีกระบวนการกลั่นกรอง คืนสิทธิประชาชน ไม่เอื้อทุน
ขณะที่ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ. … กล่าวว่า กฎหมายทั้ง 2 ฉบับที่กำลังพิจารณาของกรรมาธิการ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่สภาผู้แทนราษฎรได้ทำหน้าที่ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและที่สำคัญคือคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งในกฎหมายทั้งสองส่วน
มีทั้งการคืนสิทธิ์ หรือการนิรโทษกรรม แต่จริงๆแล้วในกรอบดำเนินการของกรรมาธิการ เราก็จะมีระยะเวลากับกลุ่มบุคคลไม่ใช่ไปพูดว่าเอาที่ไปให้กัมพูชา
ที่สำคัญได้มีการกำหนดประเภทความผิด และกำหนดห้วงในการนิรโทษกรรม และล้างมลทิน กรณีที่ 1 ในกรณีที่รัฐไปรังแกประชาชนในกรณีที่รัฐไปรังแกประชาชน ไปประกาศเป็นเขตป่าเขตอุทยาน หรืออะไรก็ตามที่ไปทับที่ของประชาชนที่อยู่มาก่อน กรณีนี้เป็นหนึ่งกรณีซึ่งเราพบว่ามีการศึกษา มีกรรมาธิการสมัยที่แล้ว พบมีชุมชนจำนวนมาก ที่ถูกประกาศทับ พอรัฐดำเนินการแล้วไม่ได้มีการแก้ไข มีเพียงบางนโยบายที่ไม่ไปจับกุม ก็ทำให้คนกลุ่มนี้ จากเดิมเป็นเจ้าของสุดท้ายก็กลายมาเป็นผู้อยู่อาศัย ที่สำคัญกลายเป็นอาชญากรซะเอง
อีกกรณี เป็นกรณีที่นโยบายของรัฐที่มีการช่วยเหลือช่วยเหลือ มีมติครม.ต่างๆ เช่นมติครม. มิถุนายน 2541 ที่รัฐไปประกาศพื้นที่ และพบว่ามีคนอยู่ รัฐไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ทิ้งมาวันนี้ 20 กว่าปี รัฐไม่เคยพิสูจน์เลยว่าที่ดังกล่าวเป็นที่ของรัฐ ยัฃปล่อยให้ประชาชนอยู่ ประมาณ 4.7 ล้านไร่
อีกส่วน คือ พี่น้องชาติพันธุ์ ชาวเลหรือพี่น้องชาติพันธุ์กะเหรี่ยง และอื่น ๆ อีกกลุ่มหนึ่ง คือนโยบายทวงคืนผืนป่าอยากจะเรียนว่า คณะกรรมาธิการเราประกอบด้วยตัวแทนเจ้าของที่ดินที่ดูแลอยู่ทุกวันนี้ เราจะเป็นคณะกรรมการที่การฟังความทุกฝ่าย แต่เหนือสิ่งอื่นใดเราจะให้เกิดความยุติธรรม ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ประชุมมาวันนี้เป็นครั้งที่ 4 เราหวังว่า จะให้เสร็จปลายเดือนตุลาคม เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวมีการศึกษา บางส่วนก็ได้มหาวิทยาลัยทำการวิจัยทำการศึกษา ยืนยันว่าหลังจากมีการนิรโทษกรรม หรือยกเลิกการกระทำผิดจริงๆ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นผู้เสียหายจากรัฐด้วยซ้ำ ควรจะฟ้องรัฐในส่วนหนึ่ง พอล้างมลทินแล้ว ผมเชื่อว่า วันนี้ที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะที่เป็นพื้นที่ป่า กลับเป็นที่ดินต่างกัน คือรัฐอ้างว่าดูแลป่าแต่จริงๆ มีตัวป่าน้อยกว่าจำนวนที่ดิน เช่นเรามีแนวเขต 135 ล้านไร่ แต่ปรากฏว่าเรามีที่ดินที่เป็นตัวป่าจริงๆ ที่มีต้นไม้จริง ๆ แค่ 100 ล้านไร่ อีก 35 ล้านไร่ มีบ้านคนมีชุมชนอยู่ รับรองไม่มีการบุกรุกใหม่ รับรองไม่มีนายทุน ไม่มีดอมินีนายทุนเข้ามาอยู่ เราที่มาเป็นกรรมาธิการ ก็เป็นนักอนุรักษ์ที่ยืนอยู่ก็ เป็นนักอนุรักษ์
“อย่าให้วาทกรรมมาทำร้าย เช่น บางคนเขาอยู่บนดอย ก็ชอบพูดว่า ม้งรุกป่า แต่จริงๆป่าของพวกเขายังเต็มอยู่เลย บางทีเป็นวาทะกรรมต่อคนที่ถูกเลือกปฏิบัติ ประชาชนเหล่านี้ไม่มีเสียงก็จะถูกอคติซ้ำแล้วซ้ำอีกย้ำเตือน วันนี้เรื่องที่ดินที่อยู่อาศัยเขาไม่ได้รุกป่าอะไรป่าเลย เขาอยู่ในที่เขาอยู่ อยู่แล้ว เราควรจะคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้เขา”
พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง
วันนี้เราเขียนว่าจะมีป่า 40% แต่เรามีแค่ 31% เชื่อว่านโยบายนี้เสร็จ ประชาชนได้สิทธิที่ดินคืน ประชาชนจะช่วยกันดูแลป่าปลูกป่าเพิ่มเพิ่มพื้นที่ป่า ต้องทำความเข้าใจคนอยู่กับป่าอย่างไร


เลาฟั้ง บัณทิตเทอดสกุล รองประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า หรือแม้กระทั่งการการปราบปรามความผิดตามกฎหมายป่าไม้หลังปี 2541 มีชาวบ้านได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก และมีสัดส่วนที่เป็นนายทุนน้อยมาก ผู้ได้รับผลกระทบเป็นชาวบ้าน
กรรมาธิการฯ ให้ความสำคัญในการกลั่นกรองเอาคนที่ไม่มีคุณสมบัติออกไปในการร่างกฎหมายฉบับนี้ กรรมาธิการฯ มีการถกเถียงและตั้งคณะอนุ กมธ. ขึ้นมาเพื่อที่จะกลั่นกรองและร่างกฎหมายให้มีความละเอียดมากที่สุด กลั่นกรองผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติออกไป
ก่อนหน้านี้มีบางท่านได้ออกมาว่า จะไปยื่น ป.ป.ช. ว่า สส. ที่เสนอกฎหมายนี้ผิดจริยธรรม ขอเรียนว่า การเสนอกฎหมายในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นของตนหรือของนายซูการ์โน มะทา เป็นกระบวนการด้านนิติบัญญัติปกติ เพื่อที่จะช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบ หรือถูกรัฐรังแกจากนโยบายทวงคืนพื้นป่า ทั้งการดำเนินการช่วงหลังปี 2541 เป็นต้นมา หรือนโยบายทวงคืนพื้นป่า ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ได้รับการคุ้มครองตามมติคณะรัฐมนตรี หรือตามคำสั่งคสช. 66/57
“คนเหล่านี้ไม่ควรถูกดำเนินคดีมาตั้งแต่ต้น แต่ว่ารัฐอ้างว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นนายทุนและไปจับกุมดำเนินคดี แต่เมื่อดูแล้วคนเหล่านี้ไม่ใช่นายทุนแต่เป็นชาวบ้านปกติเมื่อคนได้รับความเป็นธรรม แต่ถูกดำเนินคดี และมีผลทางกฎหมายไปแล้ว ไม่มีวิธีการอื่นที่จะคืนความเป็นธรรมให้ วิธีการเดียวที่จะคืนความยุติธรรมคือต้องทำผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ โดยการออกกฎหมายล้างความผิด ล้างมลทินให้ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้รับความเป็นธรรม และมีสิทธิที่จะเอาที่ดินกลับไปสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิปกติ ตามกลไกที่มีอยู่”
เลาฟั้ง บัณทิตเทอดสกุล






จากนั้น เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐ และได้รับความเสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ด้านป่าไม้และที่ดิน ได้ไปติดตามการประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ.
พร้อมทั้งได้สะท้อนปัญหา โดย นิตยา ม่วงกลาง ตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอุทยานแห่งชาติไทรทอง ย้ำหวัง กรรมาธิการฯ จะคืนความเป็นธรรม ล้างมลทินให้ประชาชน
“เราคาดหวังว่า จะได้รับความเป็นธรรม ได้รับการคืนสิทธิที่ดิน กลับมาทำกินได้ อย่าใช้วาทะกรรม คำว่านายทุนมาตีกรอบมาปิดโอกาสผลักเราออกไป และตราหน้าให้เราต้องเป็นอาชกรรมมาตลอด”
นิตยา ม่วงกลาง