ศาลรับฟ้อง ‘คดีตากใบ’ ลุ้น 7 จำเลยมาศาล 12 ก.ย.นี้ คดีเดินต่อก่อนขาดอายุความ

หวังสปิริต ‘พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี’ สส.เพื่อไทย ในฐานะอดีตแม่ทัพภาค 4 จำเลยที่ 1 มาศาลตานัด พร้อมอดีตเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องเหตุสลายการชุมนุม เพื่อโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์

วันนี้ (23 ส.ค. 67) ศาลจังหวัดนราธิวาส นัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.578/2567 กรณีผู้เสียหาย ได้แก่ ครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์ตากใบ เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่รัฐ 9 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก

พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะหนึ่งในทีมทนายความคดีตากใบ เปิดเผยกับ The Active ระบุว่า ศาลประทับรับฟ้องคดีนี้ โดยมีจำเลย 7 คน ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยกักขังหน่วงเหนี่ยว และทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมทั้งได้ยกฟ้องจำเลย 2 คน คือ ทหารที่ขับรถขนส่งชาวบ้าน และ ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยศาลเตรียมออกหมายเรียกจำเลยทั้ง 7 คน ให้มาศาลในวันที่ 12 กันยายน 2567 เพื่อสอบคำให้การ และตรวจพยานหลักฐาน

พรเพ็ญ ยอมรับว่า รู้สึกพึงพอใจกับคำสั่งศาลในวันนี้ที่ให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน แต่ก็ต้องจับตาดูกระบวนการในชั้นต่อไปด้วยว่า ระยะเวลาที่เหลืออีกประมาณ 60 วัน หรือเกือบ 2 เดือน ก่อนคดีตากใบจะขาดอายุความ ในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 จะสามารถนำตัวจำเลยทั้ง 7 คน มาเข้าสู่กระบวยการยุติธรรมได้หรือไม่

ขณะที่ รอมฎอน ปันจอร์ สส.พรรคประชาชน ในฐานะผู้สังเกตการณ์คดีตากใบ ให้สัมภาษณ์ผ่าน The Reporters ระบุว่า วันนี้ตากใบได้ไปต่อ ถือเป็นสัญญาณที่ดีของทุกฝ่าย เพราะคดีนี้เป็นปมปัญหา และเต็มไปด้วยบาดแผล ในพื้นที่ระหว่างประชาชน กับเจ้าหน้าที่รัฐ มาตั้งแต่ปี 2547 การแสวงหาข้อเท็จจริง การแสดงความรับผิดชอบ การเดินหน้าในกระบวนการยุติธรรมจึงสำคัญมาก แม้วันนี้เป็นเชิงบวกแต่การเดินหน้าต่อในอายุความที่มีอยู่ไม่มากก็เป็นข้อจำกัด ขณะเดียวกันมองว่า กระบวนการหลังจากนี้ จะสามารถไขข้อเท็จจริงได้หลายเรื่อง ทั้งเรื่องปมปัญหา ที่น่าจะเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย โดยคดีนี้นอกจากหาข้อยุติได้แล้ว ยังเป็นโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ค้นหาความจริง เป็นโอกาสให้สังคมไทยได้พิสูจน์ว่าเหตุการณ์ตากใบนั้น กระบวนการยุติธรรมไทยยังทำงานได้อยู่

สส.พรรคประชาชน ยอมรับแม้ว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้เคยเอ่ยปากขอโทษ ขออภัย เมื่อ 2 ปีก่อนไปแล้ว ในจังหวะครบรอบ 18 ปี เหตุการณ์ตากใบ ซึ่งเป็นการพูดตรง ๆ แต่ว่าพอมาถึงจุดนี้ที่มีรัฐบาลใหม่ เป็นคนในครอบครัวคุณทักษิณ ก็ถือเป็นโอกาสก่อนอายุความจะหมดลง หลายเรื่องอดีตนายกฯ ทักษิณ น่าจะมีคำแนะนำดี ๆ ถึงผู้รับผิดชอบในฐานะผู้นำทางการเมือง ว่า อะไรควรทำ ไม่ควรทำ ในฐานะรัฐบาลใหม่ จึงต้องมีนโยบายที่ชัดเจน มองปัจจุบัน อนาคต อยากเห็นทิศทางที่ชัดเจนจากรัฐบาลใหม่ ในการคลี่คลายปมปัญหา วันนี้กระบวนการชั้นศาลก็ว่ากันไป แต่กระบวนการทางการเมืองก็สามารถทำได้ นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ต้องตอบสนองปมปัญหาเหล่านี้ รัฐบาลใหม่ต้องเอาไปคิดก่อนแถลงนโยบายด้วย

รอมฎอน ระบุด้วยว่า แม้ 1 ใน 7 จำเลย อยู่ในสถานะ สส.พรรคเพื่อไทย คือ พล.อ. พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาค 4 ในช่วงเหตุการณ์ ปี 2547 แต่หากศาลมีหมายเรียก ก็เชื่อว่าเป็นการดีที่ทางจำเลย แม้อยู่ในสถานภาพที่มีเอกสิทธิ์ สส.คุ้มครอง ก็ควรตอบรับมาปรากฎตัวต่อศาล พร้อมทั้งเคารพกระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินอยู่ในเวลานี้

“ในเวลาที่กระชั้นมาก การเปิดคดีได้เร็ว จะส่งสัญญาณบอกกับประชาชน บอกต่อสังคมปาตานี ว่าประเทศไทยยังพอมีความหวังอยู่ ดังนั้นการประคับประคองกระบวนการยุติธรรมได้ เรื่องสปิริตของจำเลยเป็นเรื่องสำคัญ”

รอมฎอน ปันจอร์

ขณะที่ ทีมทนายความคดีตากใบ แถลงระบุว่า พอใจในคำสั่งศาลวันนี้ ซึ่งถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ ทำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างไรต่อประชาน และเพื่อให้รัฐได้ทบทวนการทำหน้าที่ การเข้าสลายการชุมนุม อย่างให้เกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำรอย คิดว่าการฟ้องคดีจะเยียวยาในเรื่องความยุตธรรมทางใจให้กับชาวบ้าน ถือว่าศาลให้ความสำคัญและเข้าใจเจตนารมณ์ของชาวบ้าน

ส่วนระยะเวลาหลังจากนี้อีกเพียงแค่ 2 เดือนก่อนคดีขาดอายุความ ก็ถือว่ากระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ต้องทำอย่างเร่งรัดภายใต้เวลาที่จำกัด จึงเรียกร้องให้จำเลยทั้ง 7 คน ให้ความร่วมมือกับกระบวยการยุติธรรม มาศาลตามนัด โดยไม่ต้องให้ศาลออกหมายจับ ซึ่งแต่ละคนมีบทบาทหน้าที่ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงต้องปฏิบัติตามกระบวนการศาลออกหมายเรียก เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ขอความร่วมมือให้มาศาลตามนัด เพราะเป็นโอกาสที่ฝ่ายจำเลยได้ชี้แจงความบริสุทธิ์ หากจำเลยมาศาลตามกำหนดภายในอายุความ กระบวนการก็จะเดินหน้าต่อได้ทันที  

สำหรับจำเลยทั้ง 7 คน ที่ศาลรับฟ้องในคดีนี้ ประกอบด้วย

  • จำเลยที่ 1 พล.อ. พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

  • จำเลยที่ 3 พล.ต. เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร อดีตผู้บัญชาการพล. ร. 5

  • จำเลยที่ 4 พล.ต.อ. วงกต มณีรินทร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า

  • จำเลยที่ 5 พล.ต.ท. มาโนช ไกรวงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 

  • จำเลยที่ 6 พล.ต.ต. ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีตผู้กำกับ สภอ.ตากใบ

  • จำเลยที่ 8 ศิวะ แสงมณี อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย

  • จำเลยที่ 9 วิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active