‘ชัชชาติ’ เดินหน้าสังคมการอ่าน ย้ำ “ลงทุนน้อย ได้ผลเยอะ”

หลายภาคส่วนจับมือสร้าง “สวัสดิการหนังสือเพื่อเด็กปฐมวัย” หยุดวิกฤตความรู้ถดถอย หลังพบเด็กไทย 1.1 ล้านครัวเรือน เสี่ยงพัฒนาการล่าช้า 

วันนี้(4 มิ.ย.2565) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร(กทม.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และภาคีเครือข่ายสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านกว่า 340 องค์กร จัดเวทีพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย “สานพลังร่วมหยุดวิกฤติ Learning Loss จากปฏิบัติการทางสังคมสู่ข้อเสนอเชิงนโยบาย” มุ่งเป้าสนับสนุนให้เกิดสวัสดิการหนังสือในเด็กปฐมวัย

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกกว่า กทม. มุ่งทำงานภายใต้แนวคิด “ลงทุนน้อย แต่ได้ผลเยอะ” การสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในเด็กปฐมวัย ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าได้ผลลัพธ์มหาศาลสำหรับการผลักดันขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการหนังสือเพื่อเด็กปฐมวัยนั้น กทม. พร้อมรับนโยบายมาส่งเสริมให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ผ่านนโยบาย 3 ข้อ 1. ส่งเสริมให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมีหนังสือในบ้าน เพื่อเป็นรากฐานสำคัญให้เด็กอายุ 0-8 ปี ที่มีพัฒนาการเร็ว มีนิสัยรักการอ่าน 2. ส่งเสริมให้ผู้ปกครอง พ่อ-แม่ มีเวลาอ่านหนังสือให้เด็กฟัง โดยฝึกให้พ่อ-แม่มีบทบาทในการฝึกลูกเรื่องการอ่านมากขึ้น และ 3. จัดทรัพยากรหนังสือเพื่อเด็ก อาทิ โครงการหนังสือ 100 เล่ม แนะนำให้เด็กอ่าน จัดตั้งศูนย์กลางห้องสมุด 36 แห่ง พัฒนาบ้านหนังสือในชุมชน 117 แห่ง ช่วยคนรายได้น้อย เข้าถึงหนังสือ 3-5 เล่มต่อ 1 บ้าน ใช้เป็นศูนย์แลกเปลี่ยนหมุนเวียนหนังสือ พร้อมมีจิตอาสาหมุนเวียนมาอ่านหนังสือให้เด็กฟัง ถือเป็นการที่ลงทุนน้อยแต่ได้ผลเยอะ สร้างเด็กปฐมวัยมีคุณภาพ ได้รับการพัฒนาการที่ดี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความก้าวหน้าในชีวิตและสังคมไทย 

“กทม. พร้อมผลักดันให้เด็กทุกคน เข้าถึงสวัสดิการหนังสือเด็กปฐมวัย โดยจะขับเคลื่อนอย่างจริงจังเพราะการอ่านหนังสือ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คือ ลงทุนน้อยแต่ได้เยอะ” 

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การอ่านมีผลต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย เด็กสามารถเรียนรู้จากการฟังและดูจากพ่อแม่เล่าหรืออ่าน นอกจากทำให้เกิดความผูกพันระหว่างคนในครอบครัว หนังสือยังทำให้เด็กเกิดจินตนาการ ทักษะพื้นฐานของการรู้จักคิดเรียนรู้ เมื่อเข้าสู่วัยเรียนจะมีผลเชิงบวก ทั้งด้านภาษา คำนวณ ทำให้มีแนวโน้มทางการเรียนที่ดี ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างความร่วมมือเพื่อผลักดันให้เกิดโอกาสการเข้าถึงสวัสดิการหนังสือที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัย จัดตั้งมุมหนังสือสำหรับเด็ก และจัดหาหนังสือที่เหมาะสมกับวัยในสถานที่ต่างๆรวมถึงห้องสมุดเคลื่อนที่ ให้บริการยืมและแลกเปลี่ยนหนังสือ เพื่อให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน

โดยแนะนำ 7 ข้อปฏิบัติให้พ่อแม่สร้างนิสัยรักการอ่านให้กับลูก 1. อ่านหนังสือหรือเล่านิทาน โดยแนะนำให้ลูกรู้จักตัวละครในหนังสือ พร้อมตอบคำถาม 2. พาลูกไปเลือกซื้อหนังสือที่สนใจ 3. ทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียน เช่น จัดชมรมนักอ่าน จัดห้องสมุดโรงเรียน เป็นวิทยากรอ่านหนังสือให้เด็กฟัง 4. ชวนลูกทำอาหารจากหนังสือหรือตำราอาหารเด็ก 5. ให้ลูกฝึกค้นหาคำตอบจากหนังสือสารานุกรมเด็ก 6. อ่านหนังสือทุกวัน เลือกที่เหมาะสมตามวัย มีภาพประกอบมีสีสันสวยงาม มีเนื้อหาเข้าใจง่าย และภาษาไพเราะ 7. ให้หนังสือเป็นของขวัญสำหรับลูกในวันสำคัญต่างๆ 

สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า มีนโยบาย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างน้อย1 แห่ง ต้องมีห้องสมุดศูนย์กลาง จึงได้ร่วมผลักดันโครงการ “ท้องถิ่นรักษ์การอ่าน” ปรับศาลากลาง บ้าน วัด ส่วนของพื้นที่ราชการท้องถิ่น หรือบ้านของจิตอาสา เป็นพื้นที่อ่านหนังสือ แบ่งปันหนังสือของคนในชุมชน จำนวน 9,102 แห่ง พร้อมผลักดันนโยบายศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรในท้องถิ่น ให้มีมุมอ่านหนังสือ สนับสนุนให้ผู้ปกครองอ่านหนังสือให้ลูกฟังอย่างน้อย 5-10 นาทีต่อวัน ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมการเรียนรู้วงกว้างในระยะเวลาที่รวดเร็ว

ญาณี รัชต์บริรักษ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส.

ขณะที่ ญาณี รัชต์บริรักษ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส. ระบุถึงสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เด็กส่วนใหญ่ต้องหยุดเรียน และจากข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบเด็กเล็กไม่มีหนังสือในบ้านกว่า 1.1 ล้านครัวเรือน สะท้อนแนวโน้มที่อาจเพิ่มขึ้นของภาวะการเรียนรู้ถดถอยในเด็ก จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย พัฒนาแนวทางการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านตั้งแต่เด็กปฐมวัย อายุ 0-6 ปี ริเริ่มโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ชวนกันอ่านสร้างสุขโครงการคัดสรร 108 หนังสือดี เปิดหน้าต่างแห่งโอกาสในการพัฒนาเด็กปฐมวัย โครงการนครแห่งการอ่าน โครงการอ่านยาใจ : สร้างภูมิคุ้มใจเด็กปฐมวัย มุ่งขยายผลขับเคลื่อนงานสุขภาวะทางปัญญา สร้างครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง ร่วมแก้วิกฤตพัฒนาการภาษาล่าช้า ลดภาวะถดถอยการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย

สอดคล้องกับ สุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. บอกว่า แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. และภาคีเครือข่าย ร่วมขับเคลื่อนงานส่งเสริมการอ่าน เพื่อนำไปสู่วัฒนธรรมใหม่ของสังคมไทย ที่มีกระบวนการสร้างสุขภาวะและศักยภาพของเด็กปฐมวัย เป็นยุทธศาสตร์สำคัญและเร่งด่วนในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งต้องทำงานคู่ขนานระหว่างการขับเคลื่อนปฏิบัติการทางสังคมและภาคนโยบาย เพื่อขยายผลครอบคลุมทั้งประเทศ ที่ผ่านมา ได้จัดเวทีสาธารณะทั่วทุกภูมิภาค 5 ครั้ง เพื่อให้เกิดข้อเสนอสำคัญนำยื่นต่อประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กเยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อนำไปสู่มติคณะรัฐมนตรีต่อไปภายในปี 2565

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active