เผยสถานการณ์เด็กและครอบครัว ปี 2568 เผชิญปัญหาหนัก พบ หนี้ครัวเรือนสูง ตัวถ่วงดับฝันอนาคตเยาวชน ปมมลพิษทางอากาศ ความเหลื่อมล้ำด้านเทคโนโลยี ระบบนิเวศไม่ตอบโจทย์ความคิดสร้างสรรค์ ภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา พนันออนไลน์ ขณะที่ นักวิจัย ชี้ นโยบายรัฐไม่ตอบโจทย์ เด็กไม่เคยอยู่ในสมการ
วันนี้ (17 มิ.ย. 68) คิด for คิดส์ – ศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ 101 PUB จัดเสวนาสาธารณะ “ถูกสาปให้พ่ายแพ้ในกระแสความเปลี่ยนแปลง : รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ปี 2568”
ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 4 สสส. ระบุว่า เด็ก เยาวชน และครอบครัวไทย กำลังเผชิญความท้าทายจากบริบทที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว โดยโครงสร้างทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองไทย ยังคงมีความเหลื่อมล้ำสูง ส่งผลให้คนทุกกลุ่มโดยเฉพาะเด็กและครอบครัวไม่สามารถเข้าถึงนโยบายสาธารณะได้อย่างเป็นธรรม เช่น การเข้าไม่ถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ ไม่ได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ดิจิทัล ส่งผลให้ขาดทักษะสมัยใหม่ แหล่งเรียนรู้นอกบ้านมีน้อย และตั้งอยู่ไกลบ้าน เป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์


จากสถานการณ์ดังกล่าว สสส. จึงร่วมกับศูนย์คิด for คิดส์ เปิดรายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ปี 2568 เพื่อสะท้อนให้เห็น ข้อจำกัดด้านการใช้ชีวิตของเด็กและครอบครัว ที่ถูกสาปให้ไม่สามารถพัฒนา ปรับตัวรับมือ และเติมเต็มความผันได้ โดยอยากให้รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจ และนำรายงานฉบับนี้ไปกำหนดเป็นนโยบายสาธารณะด้านสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว เพื่อเพิ่มโอกาสการมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. บอกว่า รายงานสถานการณ์เด็กฯ ในปีนี้ พบชัดเจนว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำในกลุ่มเด็กและครอบครัวขยายวงกว้างกลายเป็นปัญหาขนาดใหญ่ มีความซับซ้อนสูง ยากที่บุคคลหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะแก้ไขได้โดยลำพัง
โดยรายงานได้เก็บข้อมูลจากกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 15-25 ปีทั่วประเทศ จำนวน 10,000 คน ผ่านการจัดทำแบบสอบถามและการเก็บข้อมูลภาคสนามเพื่อศึกษาเชิงลึกสำรวจข้อมูลตั้งแต่ความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงความเชื่อ การรับรู้ คุณค่าและทัศนคตี นำมาวิเคราะห์ประกอบกับประเด็นสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ถือเป็น ขุมทรัพย์ข้อมูลสำคัญในการทำความเข้าใจกลุ่มเด็กและเยาวชน เพื่อการออกแบบนโยบายและโครงการให้เหมาะสม
8 คำสาป เด็ก เยาวชน ครอบครัวไทยต้องเผชิญ
สำหรับรายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ประจำปี 2025 “8 คำสาปถ่วงรังเด็ก เยาวชน ครอบครัวไทย” โดย วรดร เลิศรัตน์ และ สรัช สินธุประมา ศูนย์คิด for คิดส์ ชี้ว่า เด็ก เยาวชน และครอบครัวไทยกำลังต้องเผชิญกับคำสาป 8 เรื่อง ได้แก่
- ภาวะหนี้สูงทำให้การสนับสนุนเด็ก-เยาวชนเป็นไปได้จำกัด ถ่วงรั้งการเติมเต็มความฝัน การเติบโตของเด็กและเยาวชน
- เด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศรุนแรงและภัยพิบัติภาวะโลกรวน เสี่ยงที่ความเป็นอยู่จะไม่มั่นคงและสูญเสียศักยภาพ
- การเข้าถึงเทคโนโลยีของเด็กและเยาวชนมีความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์
- เยาวชนและครอบครัวถูกจ้างงานในรูปแบบที่ไม่เป็นมาตรฐานมากขึ้น โดยไม่ได้รับสวัสดิการและความคุ้มครองอย่างเหมาะสมส่งผลต่อคุณภาพชีวิต
- เด็กและเยาวชนถูกฉุดรั้งความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเป็นทักษะแห่งอนาคต ระบบนิเวศการเรียนรู้เข้าถึงยากและไม่ตอบโจทย์
- เยาวชนจำนวนมากพัวพันกับอบายมุขประเภทใหม่ ทั้งบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา และพนันออนไลน์
- เยาวชนกับครอบครัวขัดแย้งกันในชีวิตประจำวันและห่างเหินกันมากขึ้น
- เยาวชนสูญเสียผู้แทนทางการเมือง และเชื่อมั่นในคุณค่าและสถาบันประชาธิปไตยเสรีลดลง สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในแง่สังคมการเมืองโลกมีแนวโน้มหันขวามากขึ้น

ขณะเดียวกันพบว่า ภาระหนี้ มีผลกระทบในหลากหลายมิติของเด็กและเยาวชน ซึ่งมีแนวโน้มความเครียดมากกว่าเยาวชนที่มาจากครอบครัวที่ไม่มีหนี้ ถึง 42% ภายใต้บริบทสังคมไทยมีแนวโน้มที่จะถูกผลักภาระการใช้หนี้จากครอบครัว โดยเยาวชนที่มีหนี้ถึง 37% เลือกที่จะนำรายได้ของตัวเองไปใช้หนี้ให้ครอบครัวกก่อนในครอบครัวที่มีหนี้
สรัช สินธุประมา นักวิจัยและหัวหน้าทีมสื่อสารสาธารณะ ศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว บอกกับ The Active ว่า ในเรื่องที่เป็นผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน อย่างการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เรื่องที่เสี่ยงที่สุดในประเทศไทย คือ ปัญหาฝุ่น PM2.5 พบว่า ช่วงย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา ฝุ่นแย่ลงทุกปี เด็กที่เสี่ยงเรื่องนี้มากที่สุด คือ เด็กเล็ก ในการเสี่ยงการเป็นโรคทางเดินหายใจ ซึ่งเด็กที่ได้รับฝุ่นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เมื่อคลอดออกมาแล้วก็เสี่ยงจะมีปัญหาเรื่องความจำ สมาธิสั้น หรือ IQ ลดลง ซึ่งกระทบต่อการใช้ชีวิตในอนาคต
“เด็กในครอบครัวรายได้น้อย ไม่มีเครื่องปรับอากาศใช้ ประมาณ 82% ขณะที่ครัวเรือนที่รายได้สูงที่สุดไม่มีเครื่องปรับอากาศประมาณ 8% เท่านั้นเอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในเรื่องสภาพอากาศ และสุดท้ายอาจนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำในระยะยาว”
สรัช สินธุประมา
ส่วนเรื่องปัญหาการเข้าถึงเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทั้งในเรื่องของ AI ต่าง ๆ ก็จะเห็นว่า มีแค่คนบางส่วนที่เข้าถึงเทคโนโลยีอย่างมีคุณภาพ และรู้ว่าจะใช้งานอย่างไร ในขณะที่เด็กและเยาวชนบางส่วน เข้าถึงเทคโนโลยีแต่อาจจะตกเป็นเหยื่อ การไม่รู้เท่าทัน ทำให้ใช้ไม่ถูกวิธี รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
โดยที่ในอดีตจะเห็นว่าเด็กที่เข้าถึงจะอยู่ในช่วงวัย 6 – 14 ปี มีการใช้อินเทอร์เน็ตยังไม่เยอะมาก แต่พอช่วงหลังโควิด-19 มี จาก 50 – 60% เพิ่มขึ้นมาเป็น 98% คนที่เข้าถึงมีอายุน้อยลง
นอกจากนี้ช่องว่างของเด็กและเยาวชนไทย คือ การเข้าถึงคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้เข้าถึงการใช้งานที่ซับซ้อนมากขึ้น จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะได้มากขึ้น เด็กที่ยากจน 70 – 80% ที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้
นโยบายที่ไม่มีเด็ก เยาวชนอยู่ในสมการ
สรัช ยังชี้ว่า การดำเนินนโยบายเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่ผ่านมา หลายอย่างที่ตอบโจทย์สังคม แต่มีอีกหลายอย่างที่ไม่ตอบโจทย์เด็ก เยาวชน และครอบครัวมากเท่าที่ควร เช่น นโยบายเรื่องสิ่งแวดล้อม เวลาพูดถึงการปรับตัว มักจะไม่ได้คิดถึงว่ามีเด็กและเยาวชนอยู่ในสมการ และไม่ได้มองว่าลงทุน การก่อสร้าง ต่าง ๆ จะส่งผลต่อเด็กและเยาวชนในอนาคต ที่เขาจะเติบโตขึ้นมาแล้วจะต้องอยู่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างไร
ส่วนนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องเงินสวัสดิการอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า ล่าสุดในเอกสารงบประมาณปี 2569 ก็ยังไม่ปรากฏ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องพื้นฐานมากที่เราจะต้องลงทุนกับเด็กเล็ก และสนับสนุนครอบครัว แล้วเงินในส่วนนี้ถือว่าใช้งบน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น คงจะต้องช่วยติดตามให้เรื่องนี้ทำได้จริง