กสศ. เปิดตัว ‘Mobile School’ เรียนได้ทุกที่ มีวุฒิรองรับ

หวังสร้างการศึกษายืดหยุ่น เล็งนำร่องแก้ไขปัญหาเด็กหลุดจากระบบ 25 จังหวัด ตามนโยบาย ‘Zero Dropout’

เมื่อเร็ว ๆนี้ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดตัวโครงการ ‘Mobile School เข้าเรียนไม่ได้ ให้โรงเรียนไปหา’ เป็นครั้งแรก หวังพาโอกาส ‘การเรียนรู้’ และ ‘วุฒิการศึกษา’ ไปให้เด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษาในพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและหลุดพ้นจากวงจรความยากจน โดยมีเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษาจากจากชุมชนคลองเตย และชุมชนใกล้เคียงมาร่วมกิจกรรมและสมัครเรียน

ข้อมูลจาก กสศ. พบว่า ที่ผ่านมาไทยเผชิญปัญหาเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาจำนวนมาก โดยเมื่อเดือน พ.ค. 67 มีเด็กไทยอายุระหว่าง 3-18 ปี จำนวน 1,025,514 คน ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา โดยในจำนวนนี้มีเด็กที่อยู่ในช่วงการศึกษาภาคบังคับ (7-15 ปี) ถึง 394,039 คน หรือ 38.40% ของเด็กนอกระบบการศึกษาทั้งหมด และกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีเด็กหลุดจากการศึกษาภาคบังคับมากที่สุดถึง 61,609 คน

สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กเหล่านี้หลุดออกจากระบบการศึกษามาจาก ปัญหาความยากจน (46.70%) รองลงมาเป็น ปัญหาครอบครัว, การไม่ได้รับสวัสดิการด้านการศึกษา, ปัญหาด้านสุขภาพ, และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการกลั่นแกล้งในโรงเรียน เด็กหลายคนที่หลุดออกจากระบบมักประสบกับปัญหาหลายด้านพร้อมกัน ซึ่งทำให้การช่วยเหลือนั้นมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ดังนั้น ห้องเรียนจึงไม่สามารถอยู่นิ่ง ๆ ได้เช่นเดิม แต่ต้องมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

ด้วยสภาพปัญหาดังกล่าว กสศ. จึงได้ริเริ่มโครงการเชิงรุก Mobile School เข้าเรียนไม่ได้ ให้โรงเรียนไปหา ที่มุ่งสร้างโอกาสการเรียนรู้ และ วุฒิการศึกษา ไปให้เด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา โครงการนี้เริ่มนำร่องใน 25 จังหวัด รวมถึง กทม. โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชนด้วยเช่นกัน ล่าสุดทางกระทรวงศึกษาธิการและอีก 11 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมลงนาม MoU เพื่อผลักดันนโยบาย ‘Zero Dropout’ ให้เด็กไทยทุกคนต้องได้เรียน

พัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการ กสศ. ระบุว่า จุดเน้นของ Mobile School คือการเข้าหาเด็กก่อน หรือเป็นการทำงานเชิงรุก เน้นความยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองความหลากหลายของผู้เรียนเป็นรายบุคคล เด็กจะเป็นเจ้าของการเรียนรู้ตามความถนัดและความสนใจ ทักษะที่ได้ต้องนำไปใช้ได้จริง สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา และต้องได้รับวุฒิการศึกษาอย่างน้อยระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ ม.6

“เด็กแต่ละคนมีพรสวรรค์ที่แตกต่างกัน เราคงไม่เอาปลาไปวิ่งแข่งกับสุนัข หรือเอาสุนัขไปบินแข่งกับนก ดังนั้นห้องเรียนที่มีเพียงรูปแบบเดียวไม่อาจส่งเสริมเด็กที่มีอยู่อย่างหลากหลายในประเทศนี้ได้ Mobile School จะช่วยทำให้อำนาจในการออกแบบการเรียนรู้กลับสู่ผู้เรียนอีกครั้งหนึ่ง”

พัฒนะพงษ์ สุขมะดัน

ขณะนี้ Mobile School เปิดรับสมัครเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา อายุระหว่าง 7 – 24 ปี โดยมีเครือข่ายศูนย์การเรียนโดยสถาบันทางสังคมทั่วประเทศเป็นผู้จัดการการศึกษา จัดการเรียนรู้ทั้งแบบออนไลน์ และออนไซต์ มีครูพี่เลี้ยงทำหน้าที่เป็น Learning Designer ช่วยแนะแนวและออกแบบแผนการศึกษาที่เหมาะสมกับผู้เรียน

โครงการนี้ยังร่วมกับธนาคารโอกาส และศูนย์แบ่งต่อ มูลนิธิกระจกเงา สนับสนุนอุปกรณ์และสื่อการเรียนรู้ที่จำเป็น เช่น คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ มือสองสภาพดี สำหรับน้อง ๆ ที่ไม่มีอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวโครงการเป็นครั้งแรกที่โดมลานกีฬาของชุมชนคลองเตยล็อก 4-5-6 เด็กและเยาวชนที่สนใจสามารถสมัครเรียน Mobile School ได้ที่อีเมล์ mobileschool@eef.or.th หรือโทร 02-079-5475 กด 0

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active