‘หมออดิศักดิ์’ ชวนเด็กค่ายฯ ติวเข้มความปลอดภัย ก่อนเดินทาง ‘ทัศนศึกษา’

แนะสังคมมองประโยชน์ทัศนศึกษา เชื่อใกล้-ไกล ไม่ใช่ปัญหา อยู่ที่การเตรียมความพร้อม สร้างองค์ความรู้ เพิ่มความมั่นใจ ลดความเสี่ยง

วันนี้ (17 ต.ค. 67) สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ระบุถึงการจัดการความเสี่ยงเพื่อทัศนศึกษาปลอดภัย พร้อมร่วมออกเดินทางไปทัศนศึกษาของเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมใน “ค่ายเล่นรอบเมือง สร้างพลังการเรียนรู้ครั้งที่ 9 ตอนจุดประกายฝัน สู่อาชีพฉันในอนาคต”

โดยก่อนออกเดินทางไปทัศนศึกษาที่ จ.ราชบุรี ทางสถาบันฯ ได้ฝึกอบรม และเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมเรียนรู้ในการรับมือกับสถานการณ์ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นภายในรถบัส

นพ.อดิศักดิ์ ย้ำว่า การทัศนศึกษาเป็นสิ่งที่ดี และไม่ได้จำกัดที่อายุ แต่จำกัดอยู่ที่การจัดการความเสี่ยงว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก่อนที่เด็กจะไปสู่กระบวนการเรียนรู้ ก็ได้ให้ข้อมูลกับเด็ก ๆ รวมทั้งการจัดการความเสี่ยงในเรื่องของการเดินทาง โดยครั้งนี้จะเดินทางกว่า 70 คน ด้วยรถบัส ดังนั้นต้องมีวิธีการจัดการความเสี่ยง

การเดินทางที่ปลอดภัยก็ต้องเริ่มตั้งแต่ตัวสภาพรถว่าเป็นอย่างไร ผู้ขับขี่ พี่เลี้ยงเด็กที่จะดูแลเด็ก พฤติกรรมของเด็บนรถ ก็มีการอบรมให้เด็กรู้วิธีนั่งบนรถบัสอย่างปลอดภัย อย่างวิธีการนั่ง เวลาเด็กเคลื่อนที่บนความเร็ว ฉะนั้น การยึดเหนี่ยวตัวเด็กให้อยู่กับที่จึงมีความจำเป็น มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยและสอนเด็กให้รู้วิธีใช้เข็มขัดนิรภัย

นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว

“การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากจากผู้ปกครองได้มอบความรับผิดชอบมา และความต้องการให้เด็กได้เรียนรู้เพื่อการพัฒนา ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ความตั้งใจของเราก็อาจสูญสลายไป ดังนั้น การตรวจสอบ การวางแผนความเสี่ยงทั้งหลาย รวมถึงการรายงานให้รับทราบก็มีความจำเป็น ในการเดินทางไปทัศนศึกษาครั้งนี้ เราก็ไปตรวจสอบ ทั้งเส้นทางการเดินทาง สภาพอากาศ สภาพรถการบริหารจัดการ ซึ่งจะมีรถอยู่ 2 ส่วน คือ รถของมหาวิทยาลัย และของเอกชน เพื่อให้เห็นว่าทั้ง 2 ส่วนมีการทำงานในสิ่งที่คล้ายคลึงกัน และเห็นเด็กเป็นศูนย์กลางในการจัดการต่อไปได้ มีการไปตรวจสอบที่บริษัทรถบัส มีการตวรจสอบล่วงหน้า และให้รู้ถึงวิธีการจัดการรถเป็นอย่างไร”

นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์

นพ.อดิศักดิ์ ระบุด้วยว่า ทัศนศึกษา คือ การเรียนรู้ในพื้นที่รอบตัว ระยะทางใกล้ไกลขึ้นอยู่กับพื้นที่ของการเรียนรู้ เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่จัดเตรียมให้เด็กวัยต่าง ๆ เข้าไปร่วม ดังนั้น ระยะทางไม่ใช่ปัญหา

“ปัญหาอยู่ที่ว่า ยิ่งเป็นเด็กเล็กการดูแลยิ่งมีความยาก การเดินทางบนยานพาหนะที่มีคนเยอะก็จะยาก การเดินทางด้วยรถขนาดใหญ่ที่ไปกันหลายคน มีผู้ใหญ่ไปด้วย การเตรียมความปลอดภัยให้กับทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ก็เป็นการยาก ถ้าไม่สามารถจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ได้ ไม่ว่าใครก็เดินทางไม่ได้ เช่น การเดินทางที่ไม่มีที่ยึดเหนี่ยวตัวเด็ก อย่างคาร์ซีท แต่ถ้าเราจัดการกับความเสี่ยงก็ไปได้ และการเดินทางต้องมีการจัดการเรียนรู้ให้กับเด็ก ที่ทั้งสามารถเล่น และเกิดการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามวัยด้วย”

นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์

ด้านผู้ปกครอง ที่มาส่งบุตรหลานร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ระบุว่า สนใจอยากให้ลูกเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการนี้ ซึ่งปีนี้ถือเป็นครั้งแรก และคิดว่าครั้งต่อไปจะได้เข้าร่วมอีก ทั้งนี้จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษา ยอมรับว่าทำให้รู้สึกเป็นห่วง และตัดสินอยู่ว่า จะให้ลูกเดินทางไปทัศนศึกษาดีหรือไม่ แต่ก็พยายามไม่กังวลตามข่าว เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ก็จะทำให้ทางสถาบันตระหนัก และเข้มงวดมากขึ้น เมื่อเห็นว่าก่อนออกเดินทางนั้นมีการเตรียมการก็ทำให้เชื่อมั่น และสบายใจมากขึ้น

สำหรับค่ายเล่นรอบเมืองฯ นั้นเกิดมาจากแนวคิดที่ว่า การพัฒนาเด็กให้เติบโตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงในสังคมอนาคต เด็กไม่ได้เรียนรู้จากบ้าน จากครอบครัว หรือโรงเรียน และครูอย่างเดียว แต่ชุมชนรอบตัวเด็กก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วม เข้าไปเรียนรู้ ดังนั้น ค่ายเล่นรอบเมือง คือการจำลองเมืองมหิดล กับชุมชนรอบข้าง หรือพื้นที่ที่ไกลออกไปเพื่อจำลองเป็นหนึ่งชุมชน เพื่อให้เด็กได้เล่น เรียนรู้ไปพร้อมกับการจัดพื้นที่การเล่นของชุมชนที่มีส่วนร่วมทำงานในการทำงานกับเด็ก ๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ให้เด็กได้เรียนรู้กับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ และผู้ใหญ่ก็ได้เรียนรู้ในการที่จะดูแลเด็ก

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active