มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ส่งมอบ นม หน้ากากอนามัยสำหรับเด็ก ของเล่น เสริมพัฒนาการ เร่งประสานพื้นที่ให้ได้กลับไปเรียนอย่างเร็วที่สุด พร้อมเดินหน้ากระบวนการรับรองสิทธิ
“พอไฟไหม้หนูก็วิ่งออกมากับน้องสาว ชุดนักเรียน กระเป๋า รองเท้า อยู่ในบ้าน หันกลับไปก็ไม่ทันแล้ว ไฟมันไหม้ทั้งหมดเลย”
คำบอกเล่าจากเด็กชายวัย 5 ขวบ ในชุมชนบ่อนไก่ เขตปทุมวัน ถึงเหตุเพลิงไหม้ชุมชนเมื่อ 21 มิ.ย.65 ส่งผลให้มีผู้ประสบภัยมากกว่า 200 คน ต้องมาอาศัยอยู่ภายในศูนย์สร้างสุขทุกวัยบ่อนไก่ ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว
จนถึงเวลานี้ความช่วยเหลือ และนำ้ใจยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากที่พักพิงชั่วคราว อาหาร ของใช้จำเป็น อีกสิ่งที่ลืมไม่ได้ คือชีวิต ความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
จากการสำรวจโดยมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ร่วมกับสำนักงานเขตปทุมวัน พบครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ประมาณ 60 คน ที่ต้องได้รับการสนับสนุนทั้งอาหารของใช้จำเป็นที่เหมาะสมกับวัย
ทางมูลนิธิจึงได้ร่วมกันส่งมอบนมผง นมกล่อง ผ้าอ้อม หน้ากากอนามัยสำหรับเด็ก และของเล่นเสริมพัฒนาการ เพราะหลายคนต้องหยุดเรียน และการมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว อาจทำให้เด็กเกิดความเครียด หรือภาพเหตุการณ์เพลิงไหม้อาจฝังติดอยู่ในความทรงจำ
“ผลกระทบที่เกิดขึ้นเด็กอาจจะสะเทือนใจมากกว่า และถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมภาพก็อาจจะติดตัวเขาไปจนโต วันนี้เรามาพูดคุยกับเครือข่ายในพื้นที่ด้วยว่าจะทำอย่างไรได้บ้างให้เด็กกลับไปเรียนอย่างเร็วที่สุด เพราะที่นั่นมีทั้งครู อาหาร กระบวนการฟื้นฟูที่ครอบครัวอาจจะทำได้ไม่เต็มที่”
ศีลดา รังสิกรรพุม
นอกจากความช่วยเหลือเฉพาะหน้าแล้ว ทางมูลนิธิยังใช้โอกาสนี้ในการสำรวจเด็กที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน หรือไม่มีเอกสารรับรองการเกิด เพื่อเข้าสู่กระบวนการรับรองสิทธิ
พร้อมลงทะเบียนให้กับเด็กในครอบครัวยากจนได้เรียนในศูนย์พัฒนาเด็กจนถึงอายุ 5 ปี และมอบทุนการศึกษาถึงอายุ 15 ปี ตามเจตนารมณ์ของทางมูลนิธิฯ ด้วย