กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรมครบรอบหนึ่งปีการต่อสู้ ผ่านนิทรรศการศิลปะที่ชื่อว่า ทะลุฟ้า Exhibition สะท้อนวัฒนธรรมของสังคมที่เร่ิมตั้งคำถาม พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน
วันนี้ (2 เม.ย. 2565 ) กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรมครบรอบหนึ่งปีการต่อสู้ ผ่านนิทรรศการศิลปะที่ชื่อว่า ทะลุฟ้า Exhibition จากจุดเริ่มต้นการเดินเท้ากว่า 247.5 กิโลเมตร จากนครราชสีมาถึงกิโลเมตรที่ 0 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพมหานคร ใช้เวลาร่วม 21 วัน เพื่อแสดงเจตจำนงของประชาชนตามไหล่ทางที่ต้องการส่งเสียงปัญหาให้ถึงรัฐบาล โดยนิทรรศการนี้สะท้อนให้เห็นถึงบาดแผล ร่องรอยการต่อสู้ของการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย จากกิจกรรมทั้งหมด 141 กิจกรรม ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี 2564
ทั้งนี้ ยังได้ประกาศยืนยันในจุดยืน 4 ข้อเรียกร้องเดิม คือ 1. ปล่อยผู้ถูกคุมขังคดี 112 2. เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ 3. ยกเลิก มาตรา 112 และ 4. เรียกร้องให้ให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก
จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” หนึ่งในสมาชิกของกิจกรรมเดินทะลุฟ้าที่เป็นแนวหน้าเดินนำขบวนตลอดเส้นทาง ณ เวลานั้น กล่าวว่า วันนี้รูปธรรมที่เห็นได้ชัดก็คือสังคมเกิดวัฒนธรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย วัฒนธรรมการมีเหตุผลการตั้งคำถามกับเรื่องต่าง ๆ ถือเป็นพลวัตของสังคมไทยกับการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง
“ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่เป็นรูปธรรม ในการเคลื่อนไหวในปีที่ผ่านมา รูปธรรมในสิ่งที่เราจะเห็นต่อไปคือ รัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนผมคิดว่าเราต้องจริงจังกับมันมากขึ้น ทำสิ่งที่เราปักหมุดทางความคิดไว้ให้มันจับต้องได้ เรื่องนี้เรามีบทเรียนแล้วเราต้องสรุปบทเรียนและก้าวไปด้วยกัน เพื่อที่จะให้ประเทศมันไปต่อกันได้แล้วก็เป็นประชาธิปไตย”
จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา
นอกจากนี้ ไผ่ ยังกล่าวถึงข้อเรียกร้องร่วมของเครือข่ายภาคประชาชนเรื่องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ หรือ การเขียนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ว่า รัฐสภาควรเป็นพื้นที่ในการแก้ไขปัญหา รัฐสภาควรเป็นอำนาจสูงสุดในการที่จะมาต่อรองปัญหา และควรเป็นกฎหมายที่มีส่วนร่วมของประชาชน ดังนั้นแล้วไม่ว่ากลุ่มไหนขับเคลื่อนเรื่องรัฐธรรมนูญอยู่ ควรเห็นด้วยกับการที่จะออกรัฐธรรมนูญที่คุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของประชาชน