ฟันธง! พรรคกรองคุณสมบัติ ‘นักการเมือง’ ไม่ได้ ถ้ายังหิวจำนวน ส.ส. ปลุกสังคมไม่เพิกเฉยต่อสิ่งผิด ให้คนศีลธรรมต่ำพ้นจากวงจรอำนาจ
วันนี้ (19 เม.ย. 2565) พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการออนไลน์ ‘ประจักษ์ จับประเด็น’ Thai PBS ถึงประเด็นอื้อฉาว นักการเมืองถูกกล่าวหาว่ากระทำอนาจาร และข่มขืน ปรากฏผู้เสียหายหลายราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องของ ‘นักการเมือง’ และ ‘พฤติกรรม’ ที่ผิดกฎหมาย และผิดศีลธรรม
พรรคการเมืองกำหนด ‘คุณสมบัติ’ ไม่ได้ หากยังห่วงจำนวน ส.ส.
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ‘พรรคประชาธิปัตย์’ ในฐานะพรรคการเมืองต้นสังกัดของผู้ถูกกล่าวหา ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้มีแนวทางป้องกันปัญหาดังกล่าวด้วยการกำหนดคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับนักการเมืองเพิ่มเติม เพื่อการคัดกรองที่ถี่ถ้วนมากขึ้น ซึ่งพระพยอม กล่าวว่า ไม่มีทางทำได้
“ฟันธงเลย ว่าทำไม่ได้ เพราะพรรคการเมือง หิวจำนวน ส.ส. จะเอาอะไรมาเป็นประกัน ตราบใดที่ยังคิดแต่ปริมาณ ไม่เอาคุณภาพ คุณธรรม คุณประโยชน์ ก็ไม่สามารถทำได้”
พระพยอม มองว่า สถานการณ์ในปัจจุบันยังปรากฏข่าวคราว การซื้อตัว ส.ส. กันอยู่ทุกวัน คุณสมบัติเหล่านี้จึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ของการเข้าสู่การเมือง การคัดกรองในลักษณะดังกล่าวมีแต่จะทำให้ได้จำนวน ส.ส. น้อยลง จากพรรคขนาดใหญ่ ก็กลายเป็นพรรคขนาดเล็ก คิดว่าคงไม่มีพรรคใดที่สามารถทำได้จริง ต้องเป็นพรรคที่สันโดษ ยึดถืออุดมการณ์ทางการเมือง จึงอาจเป็นไปได้
โดยได้ ยกตัวอย่าง พรรคการเมืองในอดีต คือ “พรรคพลังธรรม” ซึ่งมี พล.ต. จำลอง ศรีเมือง เป็นหัวหน้าพรรค เป็นที่ทราบกันดีว่าท่านนั้นเป็นคนที่ปฏิบัติธรรม และยึดมั่นในศีลธรรม แม้จะมีกระบวนการคัดกรองนักการเมืองมาอย่างดีแล้ว แต่ท้ายที่สุด ก็ยังมีคนชั่วแอบแฝงเข้ามา จึงเป็นตัวอย่างว่า ไม่มีทางทำได้
ลูกคนรวย ยิ่งมีพฤติกรรมแบบนี้บ่อยขึ้น
ในเรื่องดังกล่าว ไม่สามารถประเมินได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่แน่นอนว่าต้องมีฝ่ายเลว หรือคนทำผิดแน่นอน ดังนั้น ขอให้คดีนี้จบ อย่างตรงไปตรงมา ต้องไม่เกรงใจใคร ด้วยเหตุว่าพ่อมียศศักดิ์ใหญ่โต อย่างที่ ชวน หลีกภัย ได้กล่าวเอาไว้ ว่าต้องดำเนินการตามมาตรฐานเดียวกัน ส่วนที่ถามว่าเหตุใด พฤติกรรมแบบนี้ จึงเกิดจากคนที่มีพื้นฐานครอบครัวดี มีหน้าที่การงาน เรียนจบจากเมืองนอก พระพยอม กล่าวว่า
“ลูกคนรวย มีพฤติกรรมแบบนี้บ่อยขึ้น เพราะ โชคร้ายบนวิมานทอง เกิดมาในกองมรดก พ่อแม่ใหญ่โต แต่ดันโง่ไม่รักษาไว้ สังคมต้องช่วยกันให้ศีลธรรมกลับมา อย่าเพิกเฉย ดูดายเหตุการณ์แบบนี้ ให้คนมีศีลธรรมต่ำไม่มีที่ยืนในพรรคการเมือง และยืนในสังคมได้น้อยที่สุด”
พระพยอม ยังกล่าวเตือนสติสังคมว่า เวลาเกิดเรื่องไม่ดีในสังคม คนไทยต้องไม่เพิกเฉย อย่าเป็นเต่าหดหัวเข้ากระดอง ออกมาดูว่าอะไรเกิดขึ้นสังคม เพราะเราต้องขับเคลื่อนสังคมไปในทางที่ดี ถ้าสังคมถอยเงียบ กฎแห่งกรรมก็จะไม่เกิดขึ้นจริง จำเป็นต้องออกมาแสดงความคิดเห็น และไม่ยอมรับกับพฤติกรรมแบบนี้ จนนักการเมืองที่จะคิดทำแบบนี้ หมดอารมณ์ และไม่คิดจะทำอีก
นอกจากนั้นยังฝากถึงพรรคการเมืองต่าง ๆ ว่า ให้ไปหาหนังสือ ‘ศีลธรรมกับการเมือง’ ของท่านพุทธทาสภิกขุมาอ่าน เพื่อเป็นแนวทางการวางตัวของคนทำงานการเมือง ให้อยู่ในศีลธรรม แล้วจัดบรรยายให้กับสมาชิกตลอด 3 เดือนเต็ม หากไม่มีหนังสือ ก็จะจัดหาให้