ส.ก. ‘เพื่อไทย’ ครอง 20 ที่นั่ง ‘ก้าวไกล’ 14 ที่นั่ง ‘ปลัด กทม.’ สรุปผลอย่างไม่เป็นทางการ คนกรุงใช้สิทธิเลือกผู้ว่าฯ ร้อยละ 60.73 ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์ “ผู้ว่าฯ กทม.”
22 พ.ค. 2565 วันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. ในรอบ 9 ปี
การแถลงของ ขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ระบุว่า มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ก. 2,635,283 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 4,357,098 คน คิดเป็นร้อยละ 60.48
ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีผู้มาใช้สิทธิ 2,673,696 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 4,402,948 คน คิดเป็นร้อยละ 60.73 โดยเขตที่มีผู้มาใช้สิทธิมากที่สุด คือ ทวีวัฒนา ส่วนเขตที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยที่สุด คือ ดุสิต
สำหรับผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อย่างไม่เป็นทางการ หลังนับคะแนนครบ 100% ณ เวลา 01.55 น. ของวันที่ 23 พ.ค. 2565 ปรากฏว่า ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 8 ได้ 1,386,215 คะแนน ตามมาด้วย ‘สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์’ ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 ได้ 254,647 คะแนน, ‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ ผู้สมัครพรรคก้าวไกล หมายเลข 1 ได้ 253,851 คะแนน, ‘สกลธี ภัททิยกุล’ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 3 ได้ 230,455 คะแนน และ ‘พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง’ ผู้สมัครอิสระ อดีตผู้ว่าฯ กทม. ได้ 214,692 คะแนน
ทำให้ ชัชชาติ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่มีคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยก่อนหน้านี้ ผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนทะลุ 1 ล้านคะแนน มีเพียง ‘ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร’ (2556) 1,256,000 คะแนน และ ‘สมัคร สุนทรเวช’ (2543) 1,016,000 คะแนน
หลังทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ช่วงเวลาราว 20.30 น. ที่คะแนนทิ้งห่างผู้สมัครคนอื่น ชัชชาติ แถลงที่สเตเดียมวัน เขตปทุมวัน ใจความตอนหนึ่งระบุว่า วันที่ 22 พ.ค. เป็นวันที่มีความหมายกับเขามาก เพราะเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร และเขาต้องถูกควบคุมตัว แต่ให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมเป็นผู้ว่าฯ กทม. ของทุกคน
“8 ปีที่แล้ว เกิดรัฐประหาร ผมอยู่ในเหตุการณ์ ผมถูกคลุมหัว มัดมือ คืนนี้แหละ ตอนนี้แหละ นาทีนี้เลย ผมถูกนำตัวไป ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าที่ไหน เพราะเขาคลุมหัวไป แล้วตอนกลับ เขาก็คลุมหัวกลับ เลยไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน 7 วัน
ผมไม่ได้รู้สึกโกรธ แค้น หรือเกลียด แล้วก็ให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อไหร่ที่ประชาชนทะเลาะ เกลียด โกรธ ซึ่งกันและกัน สุดท้ายแล้วจะมีกลุ่มคนมาได้ผลประโยชน์…”
เขายังขอบคุณผู้สมัครฯ ทั้ง 31 คน ที่เดินทางร่วมกัน เป็นการแข่งขันที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม รวมทั้งได้สิ่งดี ๆ หลายอย่าง นำนโยบายของทุกคนมาร่วมกันและทำงานร่วมกับ ส.ก. ทุกคน เพราะทั้งกรุงเทพฯ และประเทศไทย บอบช้ำมามาก
ส่วนผลการเลือกตั้ง ส.ก. อย่างไม่เป็นทางการ พบว่า ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้จำนวนที่นั่ง ส.ก. มากที่สุด คือ 20 คน จากเขตดุสิต บางรัก บางคอแหลม ห้วยขวาง หลักสี่ วังทองหลาง ดอนเมือง บึงกุ่ม คันนายาว มีนบุรี บางกะปิ คลองสามวา ลาดกระบัง สะพานสูง สวนหลวง ธนบุรี จอมทอง ทุ่งครุ หนองแขม และภาษีเจริญ
พรรคก้าวไกล 14 คน จากเขตจตุจักร ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางซื่อ บางนา บางแค พญาไท พระนคร พระโขนง ยานนาวา ราชเทวี ลาดพร้าว วัฒนา และสาทร, พรรคประชาธิปัตย์ 9 คน จากเขตบางขุนเทียน ประเวศ บางกอกน้อย บางพลัด บางบอน บางกอกใหญ่ คลองสาน ป้อมปราบศัตรูพ่าย และสัมพันธวงศ์, ผู้สมัครอิสระกลุ่มรักษ์กรุงเทพ 3 คน ส่วน พรรคพลังประชารัฐและพรรคไทยสร้างไทย พรรคละ 2 คน
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงขอบคุณทุกคะแนนที่มอบความไว้วางใจให้กับ ส.ก. พรรคเพื่อไทย ที่แม้ผลการนับคะแนนจะยังไม่เป็นทางการ แต่ก็พบว่าพรรคเพื่อไทย ได้เก้าอี้ ส.ก. เป็นอันดับ 1 พร้อมขอบคุณทุกคะแนนที่เลือกอย่างมียุทธศาสตร์ สะท้อนว่าประชาชนต้องการออกจากวิกฤต ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอแสดงความยินดีกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่มีผลคะแนนนำในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และพร้อมจะสนับสนุน เพราะก่อนหน้านี้เคยทำงานด้วยกันในพรรค
ขณะที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกคะแนนเสียงที่ได้รับล้วนมีความหมาย และไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เขามั่นใจว่าประชาธิปัตย์ยังเป็นที่พึ่งพิงให้กับชาวกรุงเทพฯ ได้ พร้อมขอบคุณทุกคะแนนเสียงและทุกกำลังใจที่ชาวกรุงเทพฯ มอบให้กับผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัคร ส.ก. ทุกคนของพรรค
