เร่งแก้ปัญหา ปิดทางสาธารณะ-รร.เกาะหลีเป๊ะ

อดีต ปธ.คกก.แก้ปัญหาฯชาวเล จี้ นายอำเภอ ผวจ.สตูลเร่งหาทางออก ชาวบ้านยังไม่มั่นใจ  เรียกร้องร้องคกก.ฟื้นฟูวิถีชีวิตชาติพันธุ์ฯ เร่งแก้ปัญหา ลงพื้นที่หาทางออก  ทางจังหวัดเตรียมประชุมแก้ปัญหาพรุ่งนี้

วันนี้ ( 30 พ.ย.65 ) แสงโสม หาญทะเล ครูโรงเรียนเกาะหลีเป๊ะ ในฐานะตัวแทนชาวเลอูรักลาโว้ยเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ให้สัมภาษณ์กับ The Active ถึงความคืบหน้า กรณีชาวเลอูรักลาโว้ย ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่นายทุนอ้างกรรมสิทธิในที่ดินปิดเส้นทางสัญจรสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ร่วมกันมานับร้อยปี ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 2565 ส่งผลให้นักเรียน ชาวบ้านในพื้นที่เดินทางอย่างยากลำบาก ว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ตัวแทนชาวบ้านได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน ธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกายนท์ เลขานุการ  อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาที่ อ.ละงู เพื่อขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหานายทุนครอบครองเอกสาร นส.3 และขายให้เอกชนรายหนึ่งพยายามเข้าครอบครองที่ดินที่เป็นที่ชาวบ้าน โดยมารังวัดที่ดินชาวบ้านรวมทั้งเส้นทางสัญจรในชุมชน และปิดกั้นเส้นทางสัญจรสาธารณะประโยชน์ชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก 

เมื่อคืนที่ผ่านมาชาวบ้านได้มีการประชุมกัน ซึ่งมี บดินทร ไชยพงศ์ ปลัดส่วนหน้าเกาะหลีเป๊ะ มาร่วมรับฟังการหารือ โดยชาวบ้านมีข้อตกลงที่จะขอยืดเวลาการตั้งจุดเฝ้าระวังในพื้นที่ก่อน เพราะในระหว่างการประชุมเจ้าของที่ดินกับพวกหลายคนได้ลงพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านกังวลและไม่มั่นใจว่าจะมีการดำเนินการปิดพื้นที่เพิ่มหรือไม่ 

ภาพจากชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล

แสงโสม กล่าวต่อว่า ชาวบ้านไม่ค่อยมั่นใจการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่  เพราะปัญหาลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้ง ชาวบ้านเผชิญกับความเดือดร้อนมาตลอด ยิ่งกับกรณีล่าสุด ที่ส่งผลกระทบต่อเด็กเยาวชนในพื้นที่ 

“พื้นที่ถนนทางเข้าโรงเรียนที่ถูกปิด เป็นเส้นทางหลักที่นักเรียน ชาวบ้านหลายชุมชน ทั้ง ปาดั๊ก สิเข่ง อุเสน จะใช้เส้นทางนี้ในการเดินทาง และบริเวณโรงเรียนนอกจากนักเรียนมาเรียน หน้าหาดยังเป็นพื้นที่สำคัญของการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งเป็นที่สาธารณะของการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหากรณีฉุกเฉิน เช่นสถานการณ์ภัยพิบัติ หรือโรคระบาดโควิด ดังนั้น จึงอยากให้แก้ไขเพื่อบรรเทาความเดือนร้อน“ 

แสงโสม หาญทะเล ตัวแทนชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล
ภาพจากชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล

แสงโสม กล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านบ้านยังไม่มั่นใจกลไกการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ อยากให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาระดับชาติ คือคณะกรรมการขับเคลื่อนการฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ชาวกะเหรี่ยง ลงพื้นที่เร่งรัดการแก้ไขปัญหาเพื่อหาทางออกที่เป็นรูปธรรม

ด้าน พล.อ. สุรินทร์ พิกุลทอง อดีตประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่จิตวิญญาณของชุมชนชาวเล กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ สะท้อนให้เห็นต้นเหตุแห่งปัญหาการออกเอกสารครอบครองที่ดิน เพราะในการลงพื้นที่ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่จิตวิญญาณของชุมชนชาวเล ในขณะที่ตนเป็นประธาน มีข้อสรุปชัดว่ามีการออกเอกสารโดยมิชอบ คือคนที่มาแจ้ง สค.1 ยุคแรกๆ มาแจ้งทับพื้นที่ชาวบ้านด้วยกันเองส่วนหนึ่ง ขณะที่ชาวเลอีกหลายคนไม่รู้หนังสือ ไม่ได้แจ้งสิทธิ  และพอมีการทำ นส.3 ก็มีการแจ้งขยายและงอกอานาเขตพื้นที่เพิ่ม  สมมติว่าในสค.1 แจ้งแค่10 ไร่ แต่พอออก นส.3 ก็งอกเป็น 20 ไร่ พอแบ่งขาย ก็งอกไปอีก ไปทับที่เพื่อนบ้านทับที่ชาวเลคนอื่นๆที่อยู่ด้วยกัน 

นอกจากนี้ การแจ้ง ครอบครองออก นส.3  ไม่มีการเว้นหรือกันทางน้ำไหลลงทะเล รวมถึงทางเดินสาธารณะ ที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทั้ง ๆ ที่เป็นสาธารณะแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน คือ ทางน้ำ มี 3 เส้น ถูกปิดด้วยโฉนดที่ดินหมดเลย ซึ่งตนไปตรวจสอบ ก็เคยบอกแล้วให้เปิดทางน้ำ เพราะจะมีปัญหาน้ำท่วม ตอนนี้ก็ท่วมจนมาถึงปัจจุบัน

อีกปัญหาสำคัญ คือคนที่เขาซื้อที่ดินปัจจุบัน ไม่ใช่รายแรกที่ได้โฉนดได้ที่ดินตรงนี้มา อาจเป็นรายที่ 2,3,4 ซึ่งเขาคิดว่า หากจะเปิดทางไว้ก็จะทำให้เสียที่ดินไป เมื่อไม่ใช่ที่หลวงเขาต้องมีสิทธิ  แต่จริง ๆ แล้วปัญหานี้แก้ไขได้โดยนายอำเภอ มีบทบาทหน้าที่ตรงนี้ หากตรวจสตรวจสอบแล้วพบว่า มีการออกโฉนดทับทางสาธารณะ ก็แก้ไขเปิดทางแค่นั้นเอง 

“คือทางราชการต้องชดใช้เยียวยาให้เจ้าของที่ดิน  แต่ราชการไม่ยอมทำซักอย่าง ปัญหาคือเพราะราชการนั่นแหละ ตอนออก นส.3ไปออกทับ โดยที่ไม่กันพื้นที่ไว้ ถ้าถามว่าแล้วจะแก้ได้ไง ก็แก้ได้เลย เพราะถึงจะมี นส.3 แต่อันนั้นมันก็ชัดว่าผิดอยู่แล้ว เพราะบริเวณพื้นที่ทางเดินตรงนั้น เขาใช้มาเป็น 100 ปี ดังนั้นก็กันออกได้เลย แก้นส.3 แก้โฉนด แต่ปัญหาสำคัญคือไม่กล้าทำ เพราะฝ่ายเจ้าของที่ก็เรียกร้อง  ดังนั้นทางราชการต้องจ่ายชดเชยเยียวยา จริง ๆ อำนาจอยู่ที่นายอำเภอ อยู่ที่ผู้ว่า ไม่ต้องร้องเรียนที่ไหน พื้นที่ต้องแก้ไข“ 

พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง อดีต ปธ.คกก.แก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่จิตวิญญาณของชุมชนชาวเล 
พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง อดีต ปธ.คกก.แก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่จิตวิญญาณของชุมชนชาวเล 

ด้าน บดินทร ไชยพงศ์ ปลัดส่วนหน้าเกาะหลีเป๊ะ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (1ธ.ค.)ทางจังหวัดจะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว 

The Active พยามติดต่อไปยังเจ้าของที่ดิน เพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล ยืนยันเพียงสั้น ๆ ว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องชัดเจน

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active