“เพื่อไทย” จี้ กกต. รับผิดชอบ เหตุ จัดการเลือกตั้งส่อทำให้ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ด้าน “ก้าวไกล” คลี่ความผิดปกติรายข้อ เรียกร้อง กกต. ชี้แจงด่วน ระบุ ต้องไม่ทำให้วันเลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค. ซ้ำรอย
หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความผิดปกติในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตวานนี้ (7 พ.ค. 2566) ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ และกลุ่มอาสาสมัครจับตาการเลือกตั้งหลายกลุ่ม จนเป็นที่มาของแฮชแท็กร้อน #กกตมีไว้ทำไม และ #กกตควรติดคุก รวมถึงมีการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อในแคมเปญ ร่วมกันลงชื่อถอดถอน กกต. ที่มีผู้ลงชื่อแล้วมากกว่า 1 ล้านรายชื่อนั้น
วันนี้ (8 พ.ค. 2566) มีพรรคการเมืองอย่างน้อยสองพรรค แถลงข่าวจากกรณีการพบเหตุผิดปกติในการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล
โดยช่วงบ่ายวันนี้ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นำโดย ภูมิธรรม เวชยชัย และชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ พล.ต.ต. สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ หัวหน้าศูนย์ป้องกันการทุจริตเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้แถลงถึงการตั้งข้อสังเกตถึงความบกพร่องในการจัดการเลือกตั้ง เช่น การจ่าหน้าซองบัตรเลือกตั้งผิดพลาด, การให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์ในวันเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงความไม่สะดวกในการเดินทางไปลงคะแนน ความแออัด ทำให้ประชาชนไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์ได้ทันนั้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยอยากได้คำตอบจาก กกต. เพื่อสร้างความกระจ่างให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยจะทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปยัง กกต. อีกครั้งถึงปัญหาและข้อบกพร่องที่พบ
นายชูศักดิ์ ระบุถึงความบกพร่องในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าว่าการที่ กกต. บอกว่าความผิดพลาด เช่น การจ่าหน้าซองผิดพลาดสามารถแก้ไขได้นั้น หากใส่ข้อมูลผิดทุกช่องจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งความผิดพลาดที่เห็นชัดเจนนี้อาจนำไปสู่การร้องเรียนหรือฟ้องร้องว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นมีปัญหาเชิงกฎหมาย โดยเฉพาะตาราง 5 ช่องที่อาจคิดว่าเป็นรหัสไปรษณีย์ สะท้อนถึงความไม่พร้อมในการให้ความรู้กับกรรมการเลือกตั้งประจำหน่วยใช่หรือไม่
ด้าน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้ควรจะเกิดข้อบกพร่องน้อยที่สุดแต่กลับเกิดมากที่สุด และประชาชนมีเสียงสะท้อนความรู้สึกต่อ กกต. ดังนั้น ต้องมีคำตอบทำให้ทุกคนวางใจ กกต. เพราะถ้าไม่มีคำตอบที่ชัดเจน หรือไม่ได้ทำให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย อาจกลายเป็นมติมหาชน ซึ่งถ้า กกต. ไม่สามารถแก้ปัญหาข้อบกพร่องได้ ก็ต้องตอบให้ชัดว่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
ก้าวไกล จี้ กกต. ชี้แจงด่วน ลั่น วันนี้ก้าวไกลไม่ได้แข่งกับใคร แต่แข่งกับ กกต.
ด้าน พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงความผิดปกติของการทำงานของ กกต. ในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเช่นเดียวกัน โดยระบุว่าตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งล่วงหน้า ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลได้พบความผิดปกติในการทำงานของ กกต. เช่น บางหน่วยเลือกตั้ง ไม่มีรูปผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล หรือการส่งเอกสารแนะนำผู้สมัครไปที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในบางเขตเลือกตั้ง ไม่มีรูปและหมายเลขแนะนำผู้สมัครพรรคก้าวไกล ที่ผ่านมาคาดหวังว่า กกต. จะปรับปรุงการทำงานให้ไม่เกิดความผิดพลาดในวันเลือกตั้ง แต่สุดท้ายจากที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา กลับพบความผิดปกติจำนวนมากที่ไม่แน่ใจว่าเป็นการทุจริตหรือเป็นความผิดพลาดในการจัดการเลือกตั้งกันแน่ วันนี้จึงต้องตั้งคำถามและหวังให้ กกต. ชี้แจงต่อสาธารณะให้ชัดเจน
สำหรับความผิดปกติดังกล่าว มี 4 รูปแบบ คือ 1) กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ไม่กรอกข้อมูลและตัวเลขหน้าซองใส่บัตรเลือกตั้ง บางคนกรอกเลขเขตเลือกตั้งผิด โดยซองเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ศูนย์ของไปรษณีย์ ก่อนคัดแยกส่งไปตามแต่ละเขตเลือกตั้ง คำถามคือถ้าเจ้าหน้าที่กรอกเลขเขตเลือกตั้งผิดหรือกรอกไม่ครบ เจ้าหน้าที่จะส่งซองนั้นไปที่ไหน ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นความผิดพลาดในการออกแบบระบบที่ทำให้กรรมการประจำหน่วยฯ แค่คนเดียว เปลี่ยนเลขแค่หลักเดียว ทำให้คะแนนของประชาชนอาจหายไปทันที หรือเลวร้ายกว่านั้น คือการไปเติมคะแนนให้พรรคอื่นที่ประชาชนไม่ได้ตั้งใจเลือก
2) กกต. ไม่ติดรูปภาพและข้อมูลผู้สมัคร สส. ก้าวไกล หน้าหน่วยเลือกตั้ง โดยเขตที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือเขตเลือกตั้งที่ 1 และ 2 ของจังหวัดน่าน จึงต้องส่งเสียงดัง ๆ ไปถึง กกต. ว่าในวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม บนบอร์ดต้องมีแนะนำผู้สมัครของพรรคก้าวไกล อย่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ขอให้กำชับและสั่งการกรรมการประจำหน่วยฯ ให้ตรวจสอบ เพราะการไม่มีชื่อและหมายเลข อาจทำให้ประชาชนสับสนและเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งดังกล่าว 3) ความผิดปกติของจำนวนประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ในบางจังหวัดมีผู้ออกมาใช้สิทธิในสัดส่วนที่มากกว่าค่าเฉลี่ย ได้แก่ จ.ขอนแก่น อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ และยังพบว่าผู้ที่ออกไปใช้สิทธิส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ได้ทำงานอยู่ในจังหวัดอื่นที่แตกต่างจากทะเบียนบ้านของตัวเอง จึงต้องตั้งคำถามว่ามีอะไรเหตุผลทำให้ต้องออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงการใช้รถขนพี่น้องประชาชนไปหน่วยเลือกตั้ง ถือเป็นการซื้อเสียงผ่านการเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ กกต. ต้องลงไปตรวจสอบ ทำงานเชิงรุกเพื่อตรวจจับการซื้อเสียง
และ 4) ประชาชนจำนวนไม่น้อย ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้แล้ว แต่เมื่อไปตรวจสอบหน้าหน่วยเลือกตั้ง กลับไม่พบชื่อของตัวเอง โดยจากความผิดปกติทั้งหมดนี้ ขอให้ กกต. ออกมาชี้แจงรายละเอียดและแนวทางแก้ไขปัญหา ว่าจะทำอย่างไรให้ผลการเลือกตั้ง สามารถสะท้อนเจตนารมณ์ของผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ให้การลงคะแนนเป็นไปตามที่เขาตั้งใจออกมาใช้สิทธิ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด หาก กกต. ไม่สามารถชี้แจงได้ ตนและประชาชนจำนวนมากขอตั้งคำถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
กกต. น้อมรับผิด เลือกตั้งล่วงหน้าปัญหายับ ยันไม่มีคะแนนตกน้ำ
ด้าน แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการจ่าหน้าซองบัตรเลือกตั้งผิดพลาด ว่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อให้จำนวนบัตรตรงกับคนที่มาลงทะเบียน ซึ่งการตรวจเช็กมีหลายขั้นตอน ส่วนคำถามที่ว่าคะแนนจะปลอดภัยอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า ในซองใส่บัตรเลือกตั้งล่วงหน้า จะมีช่องให้กรรมการประจำหน่วยฯ 1 คน เซ็นชื่อกำกับแล้วเอาเทปใสปิดไว้ หากใครทำอะไรเกี่ยวกับซองเลือกตั้งจะทราบทันที โดยไปรษณีย์มีหน้าที่ส่งซองบัตรเลือกตั้งเท่านั้น หากประชาชนไม่มั่นใจสามารถตรวจสอบได้ที่เขตเลือกตั้ง ว่าถูกเปิดหรือมีรอยชำรุดหรือไม่
เมื่อถามว่าประชาชนกังวลเรื่องการจ่าหน้าซองที่ไม่ตรงตามเขต จะทำให้คะแนนไม่ไปยังเขตเลือกตั้ง นายแสวง กล่าวว่า คนจ่าหน้าซองไม่ใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่เป็นกรรมการประจำหน่วยฯ คนที่แจกบัตร ถ้าจ่าหน้าซองถูกต้องก็ไปตามระบบ ส่วนปัญหาที่อาจจะมีการกรอกเขตผิด หรืออาจจะเขียนเขตจังหวัดผิด รวมถึงเลขสองตัวสุดท้ายที่เป็นเขตเลือกตั้งผิดนั้น กกต. จะยึดถือรหัส 5 ตัวสุดท้ายที่อยู่แถวล่างเป็นหลัก เพราะตัวเลขนี้มาจัดลำดับที่มาจากตัวเล็กซึ่งตรงกัน หากกรอกไม่ครบ คณะกรรมการก็จะเข้ามาวินิจฉัย โดยเอาเอกสารลำดับที่ลงคะแนนในวันนั้นมาวินิจฉัยว่า จะต้องลงไปที่เขตใด