‘รมว.สาธารณสุข’ ย้ำ ประกาศคุมช่อดอกกัญชาไม่ใช่ปิดร้าน ร้านค้ายังขายได้หากปฏิบัติตามแนวทางใหม่ พร้อมยังไม่บังคับมีหมอประจำร้าน ขณะที่ กรมแพทย์แผนไทยฯ เตรียมอบรมผู้รู้ เข้าไปประจำแทน เดินหน้าออกกฎกระทรวงควบคุมเต็มรูปแบบ ตามนโยบายใช้เพื่อการแพทย์ 100%
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 68 สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการควบคุม “ช่อดอกกัญชา” มีผลบังคับใช้ โดยระบุว่า ร้านค้าที่ยังไม่เข้าใจแนวทางปฏิบัติภายใต้ประกาศฉบับนี้ ขอให้ค่อย ๆ ทำความเข้าใจ เพราะเป็นการต่อยอดจากประกาศเดิมที่ไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับการควบคุม หรือการใช้ใบสั่งแพทย์
“ประกาศเดิมไม่มี แก่น ของการควบคุมทางการแพทย์ เราจึงใส่แก่นลงไป เพื่อให้การใช้กัญชาเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ 100% ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย”
สมศักดิ์ เทพสุทิน

ยืนยันการออกประกาศไม่ใช่เรื่องการเมือง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเร่งออกประกาศควบคุมช่อดอกกัญชา อาจเป็นการตอบโต้พรรคภูมิใจไทยที่เพิ่งถอนตัวจากรัฐบาล สมศักดิ์ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด
“นี่คือมาตรการเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ไม่ใช่การเมือง ถ้าใครจะมองว่าเป็นประเด็นการเมืองก็พิจารณากันเอาเอง แต่สิ่งที่ควรโฟกัสคือสาระของปัญหากัญชา ไม่ใช่ไปเบี่ยงประเด็นเอาการเมืองมานำ”
สมศักดิ์ เทพสุทิน
สมศักดิ์ ยังกล่าวถึงข้อกล่าวหาที่ว่าการควบคุมกัญชาในลักษณะนี้อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ ว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐาน และขอให้พิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อนพูดในที่สาธารณะ
“พูดว่าผูกขาดก็ต้องพิสูจน์มา ไม่ใช่พูดลอย ๆ”
สมศักดิ์ เทพสุทิน
แจงเหตุผลไม่เร่งดัน พ.ร.บ.กัญชา ชี้สภาไม่น่าผ่านง่าย ๆ
สำหรับกรณีที่เครือข่ายภาคประชาชนเตรียมชุมนุมเรียกร้องให้เร่งผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติควบคุมกัญชา เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ สมศักดิ์ บอกว่า การออกกฎหมายฉบับนี้เป็นเรื่องยาก และไม่สามารถเร่งรัดได้ เนื่องจากเคยเข้าสภาฯ ในสมัยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแล้วแต่ไม่ผ่านความเห็นชอบ
“ถ้าใจเป็นกลางจะรู้ว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เข้าสภาแล้วก็ไม่จบง่าย ๆ มาในสมัยนี้ผมก็ยังไม่มั่นใจว่าจะจบรวดเดียวได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน”
สมศักดิ์ เทพสุทิน
สมศักดิ์ ยังย้อนเล่าถึงอดีตการประชุมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งเคยมีมติให้เวลาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 120 วัน เพื่อจัดทำกฎหมายควบคุมกัญชา หลังจากยกเลิกกฎหมายยาเสพติดฉบับเก่า แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ
“ถ้าตอนนั้นรู้ว่าจะทำกฎหมายไม่ทัน ก็ควรประกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติด หรือสมุนไพรควบคุมไปก่อน แต่ก็ไม่ได้ทำ ตอนนี้พอมีปัญหาแล้วจะมาโทษกันมันก็ไม่แฟร์”
สมศักดิ์ เทพสุทิน

ขยับเป็น ‘สมุนไพรควบคุม’ แทนยาเสพติด
รมว.สาธารณสุข ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า การนำกัญชากลับไปจัดเป็น ยาเสพติด ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ และตนก็ไม่เคยให้เส้นตายว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 45 วัน แต่เป็นการดำเนินการเพื่อทำให้กัญชาอยู่ภายใต้การควบคุมในฐานะ สมุนไพรควบคุม แทน โดยยึดแนวนโยบายของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยประกาศไว้ชัดเจน
“วันนี้สถานะของกัญชาคือสมุนไพรควบคุม 100% แล้ว และเราก็ให้เวลาแก่ร้านค้าในการปรับตัว”
สมศักดิ์ เทพสุทิน
รอออกกฎกระทรวง – กรมแพทย์แผนไทยเตรียมอบรมผู้รู้
ในประเด็นที่ร้านค้าหลายแห่งยังสับสนเกี่ยวกับข้อกำหนด เช่น จำเป็นต้องมีแพทย์แผนไทยประจำร้านหรือไม่ สมศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีกฎกระทรวงออกมาบังคับใช้ แต่ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กำลังเร่งจัดอบรมผู้รู้ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่แทนแพทย์ในร้านได้
“ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เราจะอบรมผู้รู้เพื่อให้มีความรู้เพียงพอที่จะให้บริการในร้านค้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีแพทย์แผนไทยประจำร้านทันที”
สมศักดิ์ เทพสุทิน
แจง พ.ร.บ.ฉบับเก่าไม่ได้เกี่ยวกับกระทรวงในปัจจุบัน
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา ที่มีรายงานว่าจัดทำเสร็จตั้งแต่สมัย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น สมศักดิ์ บอกว่า ร่างดังกล่าวไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ เพราะภายหลังรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน มีแนวนโยบายให้กัญชาเป็นยาเสพติด
“นโยบายเปลี่ยน ร่างก็ต้องพับไป ผมเข้ามาใหม่ก็ต้องเริ่มใหม่เช่นกัน และผมเพิ่งเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขมา 1 ปีกับอีกไม่ถึง 1 เดือน ยังไม่ครบ 2 ปี อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสิน”
สมศักดิ์ เทพสุทิน

ห้ามซื้อเสรี – ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
ขณะที่ ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง บอกว่า ประชาชนทั่วไปจะไม่สามารถซื้อช่อดอกกัญชาได้อย่างเสรีอีกต่อไป แม้แต่ในร้านค้าที่ได้รับอนุญาต หากไม่มีใบสั่งจากผู้ประกอบวิชาชีพ ได้แก่ แพทย์ แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน ทันตแพทย์ เภสัชกร หรือหมอพื้นบ้าน ก็ไม่สามารถจำหน่ายได้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการที่ขึ้นทะเบียนขออนุญาตใช้กัญชาประมาณ 18,000 แห่ง แต่เป็นสถานพยาบาลเพียง 19 แห่ง เท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าการใช้งานที่ผ่านมายังห่างไกลจากแนวทาง “ใช้ทางการแพทย์ 100%”
ก่อนประกาศฉบับนี้มีผลใช้ กระทรวงได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเป็นเวลา 25 วัน (22 พ.ค. – 15 มิ.ย.) มีผู้ร่วมแสดงความเห็นมากกว่า 16,000 คน โดย เห็นด้วย 59% และ ไม่เห็นด้วย 41%
เพาะปลูกต้องได้มาตรฐาน – ห้ามส่ง ‘ของเถื่อน’ เข้าไปขาย
สำหรับช่อดอกกัญชาที่อนุญาตให้จำหน่ายได้ตามกฎหมาย จะต้องมาจากแปลงเพาะปลูกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวที่ดี (GACP) จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเท่านั้น หากไม่ได้มาตรฐานดังกล่าว จะถือว่าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแปลงปลูกเถื่อนที่ส่งสินค้าคุณภาพต่ำเข้าสู่ร้านจำหน่าย
เตรียมร่างกฎหมาย ชง ครม. แล้ว แต่ยังไม่เข้าสู่การพิจารณา
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ยังระบุว่า ขณะนี้กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้จัดทำ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ซึ่งเคยเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะไปเมื่อเดือนกันยายน 2567 และในขณะนี้ได้เสนอร่างกฎหมายไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ ยังไม่ได้รับการบรรจุเข้าสู่ที่ประชุม ครม.
ขณะเดียวกัน ในอีกขั้นตอนหนึ่ง หากจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ต้องผ่านการแก้ไขประกาศสาธารณสุขว่าด้วยยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ซึ่งแม้คณะกรรมการยาเสพติดจะเห็นชอบในหลักการแล้ว และมีการรับฟังความเห็นจากประชาชนกว่า 100,000 ราย (โดยเห็นด้วยมากกว่า 80%) แต่ร่างประกาศยังอยู่ในขั้นตอนรอยืนยันกลับจากกระทรวง
สธ. เตรียม ‘เข้มงวดขั้นต่อไป’ อาจต้องมีหมอประจำร้าน – ขออนุญาตใหม่ยากขึ้น
ตรีชฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแนวโน้มจะ เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต โดยการออกใบอนุญาตรายใหม่จะพิจารณาอย่างรอบคอบขึ้น เนื่องจากมี ประชาชนร้องเรียนจำนวนมาก เรื่องกลิ่นและควันกัญชาที่สร้างความรำคาญ
“อาจต้องได้รับความยินยอมจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหากตั้งร้านอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร หรือคอนโดฯ ก็ต้องมีใบยินยอมจากนิติบุคคลด้วย รวมถึงในระยะยาว อาจต้องมี ผู้ประกอบวิชาชีพที่สามารถสั่งจ่าย มาประจำอยู่ในร้าน เพื่อควบคุมการใช้กัญชาให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย”
ตรีชฎา ศรีธาดา