พบกลุ่มคนกำจัด ขนย้ายกากของเสียไม่เป็นไปตามเงื่อนไข หลังเกิดเหตุไฟไหม้โรงงาน บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ จ.ราชบุรี ‘มูลนิธิบูรณะนิเวศ’ จี้สอบข้อเท็จจริง หวั่นสารอันตรายรั่วไหล เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้
ภายหลังที่มีการเผยแพร่คลิปข่าวจากรายการ ข่าว 3 มิติ ที่มีการขนย้ายถังสารเคมีภายในโรงงานของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล อ. จอมบึง จ. ราชบุรี ที่เกิดเหตุไฟไหม้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยในคลิปพบรถแบ็คโฮกำลังเจาะทำลายถังสารเคมีที่เกิดไฟไหม้ จนน้ำสีเขียวรั่วไหลลงพื้น ชาวบ้านกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากการปนเปื้อนแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้เคียงโรงงาน
The Active สอบถามเพิ่มเติมกับ ดาวัลย์ จันทรหัสดี เจ้าหน้าที่อาวุโสมูลนิธิบูรณะนิเวศ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำของกลุ่มคนที่ปรากฎในคลิปได้รับอนุญาตจากใคร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และเปิดเผยรายละเอียดเรื่องนี้ ขณะที่สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ก็ยังไม่มีการเปิดเผย แต่กลับมีการเคลื่อนย้ายของเสียภายในโรงงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิสูจน์สาเหตุไฟไหม้หรือไม่
“ก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเพียงอาทิตย์เดียว มีการหารือการขนย้ายถังเหล็กที่อยู่ภายในโรงงาน โดยบริษัทที่จะรับขนย้ายระบุว่าสามารถทำได้เฉพาะถังเหล็กเท่านั้นไม่รวมสารเคมีที่อยู่ภายในถัง ซึ่งเป็นกากของเสียหลากหลายชนิดที่ต้องได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธี หลังจากนั้นเพียงหนึ่งอาทิตย์ก็มาเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุไฟไหม้ และการขนย้ายถังที่ไม่ถูกต้องที่ปรากฎในคลิป ก็อยากถามเหมือนกันว่าใครอนุญาต กระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมต้องตรวจสอบและเอาผิด และการเข้าพื้นที่ภายในโรงงานได้ซึ่งมียามเฝ้าหน้าประตูต้องมีคนอนุญาตถึงจะเข้าไปได้ใช่หรือไม่”
ขณะที่ เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมยังไม่เปิดเผยสาเหตุของเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางข้อสงสัยของประชาชนและสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความตั้งใจที่จะเผาทำลายกากของเสียจำนวนหลายหมื่นถังที่จะต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการกำจัดหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น การที่เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมจังหวัด ไม่เข้าไปกำกับดูแลพื้นที่ภายในโรงงานที่เกิดไฟไหม้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วควรเป็นพื้นที่ควบคุมเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ และยังถือเป็นพื้นที่ปนเปื้อนสารเคมีอันตราย แต่ในทางตรงกันข้าม กลับปล่อยให้มีกลุ่มบุคคลเข้าไปดำเนินการต่างๆ ในพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งการรื้อซากโครงสร้างอาคาร และการทำลายถังบรรจุสารเคมี กากสี รวมถึงของเสียอันตราย การกระทำที่เกิดขึ้นเข้าข่ายเป็นการทำลายหลักฐานเหตุเพลิงไหม้ รวมถึงเป็นการทำลายและทิ้งให้สารเคมีและกากของเสียอุตสาหกรรมถูกทิ้งให้ปนเปื้อนอยู่ภายในพื้นที่เกิดเหตุอยู่อย่างนั้น
“เป็นที่ชัดเจนว่า การกระทำดังกล่าวยิ่งทำให้สารอันตรายที่บรรจุอยู่ในถังรั่วไหลออกมาจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ในบริเวณนั้นปนเปื้อนสารเคมีอันตรายมากขึ้น”
บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เป็นโรงงานรีไซเคิลกากของเสียได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทั้งหมด 9 ใบ ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี หลังจากชาวบ้านร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบจากการดำเนินกิจการ ถึงแม้ว่าจะปิดกิจการไปแล้วแต่ภายในโรงงานยังมีกากของเสียอีกจำนวนหนึ่งที่รอการเคลื่อนย้าย กำจัดอย่างถูกวิธี แต่ยังอยู่ระหว่างการหารือก่อนจะมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น