ผ่านฉลุย!! สภาฯ มติเอกฉันท์ โหวตวาระแรก รับหลักการร่างกฎหมาย PRTR ทั้ง 2 ฉบับ ตั้ง กมธ. 39 คน ศึกษาต่อ ย้ำ อีกก้าวสำคัญ เดินหน้ากำหนดให้รายงาน และเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อย และเคลื่อนย้ายสารมลพิษจากแหล่งกำเนิด สู่สิ่งแวดล้อม หวังสร้างการเข้าถึงข้อมูลแก่ประชาชนอย่างรวดเร็ว
วันนี้ (5 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าว Thai PBS รายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ และร่างพระราชบัญญัติการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสาร มลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ที่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นผู้เสนอ โดยเป็นการโหวตวาระแรกรับหลักการ พร้อมตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาศึกษา
โดยที่ประชุมสภาฯ มีผู้ลงมติ 442 เสียง เห็นด้วย 434 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 เสียง ที่ประชุมเห็นสมควรรับร่างพระราชบัญญัติฯ ทั้ง 2 ฉบับ โดยภายหลังลงคะแนนมี สส. หลายคนมาโหวตเห็นด้วยโดยวาจา เนื่องจากเข้ามาโหวตไม่ทัน ประธานในที่ประชุมสั่งให้บันทึกไว้

วัชรพล ขาวขำ สส. พรรคเพื่อไทย เสนอตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาศึกษา 39 คน โดยมีสัดส่วน ครม.6 คน สัดส่วน ภาคประชาชนที่เสนอกฎหมาย 13 คน สัดส่วน สส. 20 คน โดย พรรคประชาชน 6 คน, พรรคเพื่อไทย 6 คน, พรรคภูมิใจไทย 3 คน, พรรครวมไทยสร้างชาติ 2 คน ส่วนพรรคกล้าธรรม พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ พรรคละ 1 คน
รู้จัก ‘ร่างกฎหมาย PRTR’
ข้อมูลจาก The EXIT Thai PBS ระบุถึง สาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ. PRTR มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดให้มีการรายงานและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ สู่สิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
โดยคำนิยามและขอบเขตที่สำคัญ คือ
- สารมลพิษ >> หมายถึง ธาตุหรือสารประกอบที่เมื่อถูกปล่อยออกจากแหล่งกำเนิด หรือมีอยู่ในสิ่งแวดล้อม อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนได้
- บัญชีรายชื่อสารมลพิษ >> หมายถึง สารที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ พืช ทรัพย์สิน หรือสิ่งแวดล้อม รวมถึงสารตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี สารเหล่านี้มีลักษณะเฉพาะ เช่น เป็นสารก่อมะเร็ง สารที่มีพิษต่อระบบสืบพันธุ์ สารที่ทำลายชั้นโอโซน หรือเป็นสารมลพิษอินทรีย์ตกค้างยาวนานในสิ่งแวดล้อม
- แหล่งกำเนิดมลพิษ >> หมายถึง ชุมชน โรงงานอุตสาหกรรม อาคาร ยานพาหนะ สถานที่ประกอบกิจการ หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นแหล่งที่มาของสารมลพิษ
- สถานประกอบการ >> ครอบคลุมถึงโรงงานอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
ส่องบทบาท อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานใน ร่างกฎหมาย PRTR
- คณะกรรมการ >> ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรม และผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และกฎหมาย มีอำนาจออกประกาศกำหนดบัญชีรายชื่อสารพิษ เกณฑ์ปริมาณที่ต้องรายงาน และประเภทของแหล่งกำเนิดมลพิษที่ต้องจัดทำรายงาน การจัดทำประกาศต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน
- ผู้มีหน้าที่รายงาน >> บุคคล นิติบุคคล หรือหน่วยงานของรัฐที่ผลิต มีไว้ในครอบครอง เคลื่อนย้าย หรือปล่อยสารมลพิษตามที่คณะกรรมการกำหนด จะต้องจัดทำรายงานข้อมูลชนิดและปริมาณของสารมลพิษต่อกรมควบคุมมลพิษ
- กรมควบคุมมลพิษ >> มีหน้าที่รับรายงานและรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล จัดทำฐานข้อมูล และเผยแพร่ข้อมูลการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สาธารณชนผ่านทางอินเทอร์เน็ตและช่องทางอื่น ๆ โดยสะดวกและไม่เสียค่าใช้จ่าย
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น >> มีหน้าที่ประเมินการปล่อยสารมลพิษซึ่งไม่มีแหล่งกำเนิดแน่นอน และส่งข้อมูลให้กรมควบคุมมลพิษทุกปี
บทลงโทษ ในร่างกฎหมาย PRTR
- การไม่รายงานข้อมูล >> หากไม่รายงานข้อมูลโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะต้องได้รับโทษปรับทางปกครองในอัตราไม่เกินร้อยละหนึ่งของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หากรายงานข้อมูลไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนโดยไม่มีเหตุอันควร ก็จะได้รับโทษปรับทางปกครองในอัตราเดียวกัน
- การรายงานข้อมูลเท็จ >> หากมีการรายงานข้อมูลที่เป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 500,000 ถึง 5,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- การไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงาน >> หากไม่จัดทำคำชี้แจงหรือมาชี้แจงตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 20,000 บาทตลอดเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง