ชาวบ้านชายแดน ยังไม่คลายกังวล แม้ได้กลับบ้านแล้ว

ทีม MCATT ดูแลสุขภาพจิต สุขภาพใจ ชี้ยังมีประชาชน กว่า 5,000 คนต้องเยียวยา

วันนี้ (15 ส.ค. 68) แม้ชาวบ้านตามแนวชายแดน 4 จังหวัดไทย–กัมพูชาจะทยอยกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่บรรยากาศในหลายหมู่บ้านยังไม่กลับสู่ภาวะปกติเต็มที่ ตัวอย่างเช่น บ้านทุ่งสมเด็จ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดปะทะบริเวณเนิน 745 และสามเหลี่ยมมรกตเพียง 10–15 กิโลเมตร

บุญทัน พรมโคตร ผู้ใหญ่บ้านบ้านทุ่งสมเด็จ เปิดเผยกับ The Active ว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่กลับเข้าพื้นที่แล้วครบ 100% เหลือเพียง 4–5 ครอบครัวที่ยังพักกับญาติ เนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการเหยียบกับระเบิด และข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ทำให้หลายครอบครัวยังไม่มั่นใจ โรงเรียนในหมู่บ้านจึงเปิดสอนแบบไม่บังคับ ให้ผู้ปกครองตัดสินใจเองว่าจะส่งบุตรหลานมาเรียนหรือไม่

ในด้านมาตรการป้องกัน ผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่า หมู่บ้านและเขตตำบลยังไม่มีการสร้างบังเกอร์เพิ่มเติม ต่างจากพื้นที่ใกล้เคียงที่เริ่มก่อสร้างแล้ว พร้อมเรียกร้องให้รัฐจัดทำบังเกอร์อย่างน้อย 2–3 จุดต่อหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีที่หลบภัยทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชนทยอยกลับบ้านแล้ว โดยกระทรวงได้แนะนำให้สำรวจบ้านเรือน ตรวจหาวัตถุระเบิดหรือเศษโลหะตกค้าง หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที พร้อมแจกเอกสารและเบอร์ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัย

รมว.สธ. ยังระบุว่า ได้ลงพื้นที่อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมทีม MCATT ของกรมสุขภาพจิต เพื่อประเมินและดูแลสภาพจิตใจของชาวบ้าน หลังจากก่อนหน้านี้ต้องพักรวมกันในศูนย์อพยพ ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อกลับบ้าน

จากการคัดกรองในพื้นที่ชายแดน 4 จังหวัด พบประชาชนราว 5,000 คนที่ยังต้องได้รับการดูแลด้านจิตใจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนผู้มีความเสี่ยงฆ่าตัวตายลดลงเหลือ 499 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 สิงหาคม) แต่เจ้าหน้าที่จะยังคงติดตามและให้การเยียวยาอย่างใกล้ชิด