จับตา งบฯ กลาง สธ. 2,200 ล. จัดซื้อเครื่องมือแพทย์ หวั่นกลายเป็น ‘งบฯ การเมือง’

เผย รพ.บางแห่ง ยอมรับ ถูกบริษัทเอกชน เดินสายอ้างเป็น ‘โควตาพิเศษ’ ขณะที่ ผู้บริหาร รพ. ย้ำ ควรมีขั้นตอนตรวจสอบความจำเป็น

จากกรณีรายงานข่าวที่ระบุว่ากระทรวงสาธารณสุข ได้จัดสรรงบประมาณกลางกว่า 2,200 ล้านบาท เพื่อให้โรงพยาบาลขนาดเล็กทั่วประเทศจัดซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขชุดใหม่ ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

วันนี้ (22 ก.ย. 68) แหล่งข่าวระดับผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยกับ The Active ว่า การจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ของโรงพยาบาลตามปกติจะมีขั้นตอนที่ชัดเจน เริ่มจากการตั้งคณะกรรมการพิจารณาความจำเป็นเราจะเชิญแพทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรุ่นน้อง รวมถึงคุณหมอและพยาบาลที่ใช้งานเครื่องมือจริง มาร่วมกันพิจารณา หากเป็นเครื่องมือห้องผ่าตัด หรืออุปกรณ์เฉพาะทางจะเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาคุยทั้งหมด

จากนั้นจะเชิญบริษัทที่มีอยู่ในตลาดราว 6–7 ราย มาเสนอข้อมูล และคุณสมบัติของเครื่องมือว่า ตรงตามสเปกที่ต้องการหรือไม่ ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่เคยใช้มาก่อน สิ่งที่ทำมาตลอด คือให้บริษัทนำเครื่องมาให้ทดลองใช้งานจริง ประเมินกันสักหนึ่งเดือนเต็ม แล้วตั้งคณะกรรมการดูผลว่าเครื่องนี้ผ่านหรือไม่ เมื่อเทียบกับรุ่นที่เคยใช้

“เราจะพิจารณาหลายด้าน ทั้งคุณภาพการใช้งาน ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ รวมไปถึงเงื่อนไขการรับประกัน สมมติว่าบริษัทไหนกล้าให้ประกันยาว 10 ปี พร้อมบริการดูแลและเปลี่ยนอะไหล่ฟรีทั้งหมด เราก็มั่นใจได้ว่าโรงพยาบาลจะไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงภายหลัง แม้จะเป็นเครื่องจากจีน ถ้าให้เงื่อนไขที่ดี เราก็พร้อมพิจารณา ตรงกันข้าม บางบริษัทอาจตั้งราคาเครื่องถูก แต่หลังหมดประกันกลับคิดค่าอะไหล่แพงมาก ตรงนี้เราจะตรวจสอบละเอียด เพื่อไม่ให้โรงพยาบาลถูกผูกพันด้วยภาระในระยะยาว”

ผอ.รพ.ชุมชน เปิดเผย

เครื่องมือแพทย์

สรุปคือ โรงพยาบาลมีขั้นตอนการเลือกเครื่องมืออย่างรัดกุม ตั้งแต่ต้นปีก็วางแผนเลือกรุ่นและยี่ห้อไว้แล้ว เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างโปร่งใสและตอบโจทย์การใช้งานจริง ไม่ใช่ว่าจะถูกบีบหรือบังคับให้ซื้อเครื่องมือที่ไม่เหมาะสมได้ง่าย ๆ อย่างที่มีคนกังวลกัน

แหล่งข่าว ยังบอกอีกว่า ในช่วงหลัง งบฯ กลาง มักถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะมีการส่งสัญญาณลงมาว่า ใครต้องการเครื่องมือแพทย์ประเภทใดบ้าง แล้วบริษัทก็จะเข้ามาติดต่อกับโรงพยาบาลโดยตรง

ปัญหาคือ หากโรงพยาบาลไม่มีวิธีการตรวจสอบหรือกระบวนการคัดเลือกที่รัดกุม ก็อาจถูกบังคับให้รับสเปกที่ถูกส่งลงมา ซึ่งสุดท้ายอาจกลายเป็นภาระ เพราะผู้ใช้งานจริงไม่พอใจ เนื่องจากไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เขาย้ำว่า ตลอดชีวิตราชการไม่เคยทำตามรูปแบบนี้ เพราะเห็นแล้วว่า “ได้เครื่องมา แต่คนใช้ไม่แฮปปี้”

“ล่าสุดก็มีบริษัทเข้ามาติดต่อจริง โดยอ้างว่ามี โควตาพิเศษจากงบฯ การเมือง แต่เมื่อส่งสเปกมาให้ตรวจสอบ กลับไม่ตรงกับความต้องการ แถมด้อยกว่าของที่โรงพยาบาลมีอยู่ เขาจึงตอบไปตรงๆ ว่า ไม่โอเค และบริษัทก็ไม่ได้ติดต่อมาอีก”

ผอ.รพ.ชุมชน ให้ข้อมูล

แหล่งข่าว ยังอธิบายต่อว่า งบฯ กลางไม่ได้แยกว่าโรงพยาบาลเล็กหรือใหญ่ แต่โรงพยาบาลเล็ก มักถูกตั้งคำถามง่ายกว่า เช่น ทำไมต้องได้เครื่องเอกซเรย์ 3 มิติ ทั้งที่ไม่มีศักยภาพในการดูแลเครื่อง แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป ต้องดูศักยภาพของพื้นที่ด้วย เช่น โรงพยาบาลขนาดเล็กในเขตโรงงานอุตสาหกรรม อาจจำเป็นต้องมีเครื่องเอกซเรย์จำนวนมากเพื่อคัดกรองคนงาน ซึ่งปัจจุบันยังมีเครื่องแบบเคลื่อนที่ ที่สามารถนำออกไปใช้ในไซต์งานได้ จึงถือว่า “เหมาะสมกับพื้นที่”

เขายังเน้นว่า เวลามีงบฯ ลักษณะนี้เข้ามา ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะต่างจากงบฯ ปกติที่ผ่านหลายชั้นตรวจสอบ ตั้งแต่ระดับจังหวัด เขต จนถึงกระทรวง แต่งบฯ กลางมักถูกอ้างว่าเป็น งบฯ เร่งด่วน ซึ่งบางครั้งเหตุผลของความเร่งด่วนก็ไม่ชัดเจน เช่น ใช้ช่วงใกล้เลือกตั้ง หรือเป็นงบฯ ที่ปลายปีงบประมาณเหลืออยู่

แหล่งข่าว ยังยอมรับว่า งบฯ กลางแบบนี้ก็มีประโยชน์ หากใช้ถูกสถานการณ์ เช่น เหตุอุทกภัยที่เครื่องมือแพทย์ถูกน้ำท่วมเสียหาย โรงพยาบาล สามารถของบฯ เร่งด่วนเพื่อซ่อม หรือซื้อใหม่ได้ทันที แต่ปัญหาคือ ในทางปฏิบัติ มักถูกเบี่ยงไปใช้ในเชิงการเมือง

พูดตรง ๆ งบฯ กลางก็คืองบฯ การเมือง โดยทางออกที่เหมาะสมที่สุด คือกลับไปยึดระบบปกติ ที่โรงพยาบาลต้องจัดทำแผนพัฒนาระยะยาว เสนอตามลำดับขั้น ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการหลายระดับ อย่างน้อยจะช่วยให้การจัดซื้อมีที่มา มีเหตุผล และตรวจสอบได้”

ผอ.รพ.ชุมชน ทิ้งท้าย

ขณะที่ นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยกับสำนักข่าว Hfocus ในฐานะรองปลัดฯ ที่ดูแลเกี่ยวกับงบฯ กลางดังกล่าว โดยระบุว่า จะขอตรวจสอบก่อน แต่โดยขั้นตอนการจัดซื้อครุภัณฑ์ปกติแล้ว ไม่สามารถทำลักษณะนี้ได้ ต้องถามความจำเป็นของโรงพยาบาล แต่ละพื้นที่เป็นหลักว่า จำเป็นต้องจัดซื้ออะไรบ้าง เพื่อประโยชน์แก่การบริการประชาชน

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active